วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
ทริปไปเกาหลีนี้ จขกท. มีการนัดกันมาหลายครั้งล่ะ แต่ถ้าเอาจริงๆ คือไม่นึกว่าทริปนี้จะเกิดขึ้นได้จริงๆ คือระหว่างการนัดหมายและแพลนกันว่าจะไปเกาหลี ก็มีการนัดหมายกันไว้หลายคนเป็นปี แต่พอใกล้วันเดินทางจริงๆ ก็มีหลายคนที่แบบ ไปไม่ได้ ต้องเดินทางไปที่อื่นก่อน ติดงานบ้างล่ะ บลาๆๆๆ
ก็เริ่มคิดล่ะ ถ้าใครไปไม่ได้ ชั้นก็ยังจะไปนะ ไรงี้ 5555 ทริปนี้ใช้เวลาในการนัดหมายและแพลนกันเป็นปี ก็แบ่งหน้าที่กันไป โดย จขกท. มีหน้าที่ในการหาข้อมูลการเดินทาง เส้นทาง (ซึ่งต้องขอขอบคุณ ข้อมูลการเดินทางของหลายๆท่านในห้องบลู และ เวป....Korea-guides.blogsport.com สำหรับข้อมูลการเดินทางต่างๆที่มีประโยชน์ ช่วยให้สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้ง่ายขึ้นเยอะ
บอกก่อนเลยตอนแรก จขกท. ได้ซื้อหนังสือคู่มือการเดินทางมา แต่บอกตรงๆเลย ว่าเมื่อเปิดอ่านแล้ว จขกท. ได้โยนคู่มือทิ้ง และมาหาข้อมูลในเวปต่างๆ และห้องบลู โดยตรง ไม่ใช่ว่า หนังสือเค้าทำไม่ดีหรอกนะคะ คือทำมาดีมากๆค่ะ แต่จากการอ่านดูแล้ว ข้อมูลในหนังสือแทบทุกเล่มจะได้ข้อมูลพวกแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า และก็มีแนะนำการเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆด้วย แต่ จขกท.คิดว่า จากข้อมูลแนะนำการเดินทางในหนังสือ ที่บอกว่า ให้เดินทางโดยรถสายสีอะไร ไปลงสถานี ออกประตู ก็ช่วยได้มาก แต่เมื่อหากตอนเราออกมาแล้ว พอไปจริงๆ แต่ละสถานที่มันไม่ได้ เดินออกมาแล้วเจอเลย กว่าจะถึงแต่ละสถานที่ ก็ต้องเจอทางแยกทางโค้งข้ามถนน เลยทำให้เข้ามาค้นข้อมูลการเดินทางของแต่ละคนในเวปและห้องต่างๆ แต่ละที่ที่จะเดินไป จขกท.ค้นหาข้อมูลของหลายๆคนเอามารวบรวม ประมวลผลรวมกัน ซึ่งถือว่าในการเดินทางไปจริง เมื่อถึงเวลา ค่อนข้างประสบความสำเร็จ ไม่หลง และไปถึงสถานที่ต่างๆ ได้อย่างราบเรียบ เกือบ 85% ส่วนอีก 15% ใช้ปากให้เป็นประโยชน์เลยค่ะ ทำให้ จขกท.ได้พยายามรวบรวมข้อมูลการเดินทางของแต่ละสถานที่ มาให้แต่ละคนที่สนใจ อีกทีค่ะ
จขกท.คิดว่าใครๆหลายคนต้องแอบคิดแบบ จขกท. ก่อนได้เดินทาง กันหลายๆคนแน่ หลายๆกระแสเสียงบอกว่า เกาหลีเป็นพวกชาตินิยม ไม่พูดภาษาอังกฤษเลย คนเกาหลีค่อนข้างเห็นแก่ตัว แต่เมื่อ จขกท.ได้ไปสัมผัสเอง บอกเลยค่ะ ทุกอย่างช่างตรงกันข้ามกับที่ได้ยินมาเลยค่ะ คนเกาหลี เดี๋ยวนี้เค้าพยายามสื่อสารอังกฤษกันได้ค่อนข้างมาก ถึงแม้เค้าจะฟังพูดกะเราไม่รู้เรื่อง เท่าไหร่ แต่เค้าก็มีน้ำใจในการช่วยเหลือเราค่อนข้างเยอะ บอกเลยค่ะว่าทริปนี้ระหว่างการเดินทาง 8 วัน 7 คืน แฝงไว้ด้วยความประทับใจตลอดการเดินทาง จน จขกท.ตั้งใจว่าจะต้องกลับไปเกาหลีอีกครั้งแน่นอนค่ะ
- บอกก่อนเลย ว่า จขกท. ไม่มีความรู้เรื่องภาษาเกาหลีเลยซักนิด (ถึงแม้จะชอบดูซีรี่เกาหลีก็ตาม....แต่ไม่ได้ซึมซับเข้าหัวสมองเลย แต่มีส่วนหนึ่งที่ซึมซับเข้ามา นั้นคือ อยากไปสัมผัสวัฒนธรรม อยากได้ความรู้สึกเมื่อมีหิมะตกใส่ตัวเรา อยากรู้ว่าหิมะจริงๆเป็นยังไง ฟังดูบ้านน๊อก บ้านนอกนะคะ แฮ่....) แต่หากใครจะมาชวน จขกท.เดินทางไปตามรอยซีรี่ หรือศิลปิน ขอปฏิเสธไว้ก่อนนะคะ คือมันไม่ใช่ ตัวตนของ จขกท.จริงๆค่ะ 555) และอีกข้อคือ เมื่อ จขกท.ไม่รู้ภาษาเกาหลีแล้ว พื้นภาษาอังกฤษค่ะ ต้องขอบอกเลยค่ะ ว่าขอยกนิ้วให้เลยเรื่องภาษา ความโง่นะคะ ที่ต้องยกนิ้วให้ คือมีพื้นแค่เพียง snack snack fish fish ...จริงๆค่ะ คุๆๆๆๆๆ แต่บอกไว้เราพวกนี้ไม่ใช่ปัญหาและอุปสรรคในการเดินทางของเราเลย หากเรามีความฝันและความมุ่งมั่น เชื่อสิคะ ขนาด จขกท.ยังไปได้เลย
การเดินทางทริปนี้ไม่มีแพลนว่าวันนี้จะไปไหนๆ ที่ใด เพราะคิดว่าถ้าเราไปแล้ว กับเมื่อไปจริงๆทุกอย่างไม่มีทางเป็นตามแพลนแน่นอน จขกท.เพียงแค่เตรียมข้อมูลการเดินทาง ของสถานที่อยากไป ทำแผนที่ ว่าแต่ละบริเวณ มีที่เที่ยวส่วนไหนที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ใช้การแพลนคร่าวๆว่า จะไปเที่ยวบริเวณไหน วันนั้นเราก็เดินเที่ยวบริเวณสถานที่เชื่อมต่อกัน เอาค่ะ กว๊ากกกกกกกกกก
รู้สึกว่า จะเวิ่นเว้อเยอะไปนี๊ด ตามประสาคนชอบฝอยย กร๊ากๆๆๆๆๆๆๆ จขกท. ขอสรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ก่อนละกันนะคะว่ามีอะไรบ้าง ทั้งหมดจ่ายไปเท่าไหร่
• ค่าตั๋วไปกลับ บวกค่า Bookที่นั่งไปกลับ บวกค่าอาหารขาไปและกลับ บวกค่า นน.กระเป๋าขาไป 20 กิโลกรัม ขากลับ 30 กิโลกรัม ตกประมาณ 14,000 บาท (บินตรง)
*** ค่าใช้จ่ายสำหรับเที่ยวขอคิดเป็นเงิน Won เกาหลีนะคะ อันนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าอาหาร ค่าเดินทาง ท่องเที่ยว ไม่รวมของจิปาถะ ของฝากนะคะ อันนี้แยกเป็นต่อคนนะคะ
• ค่าบัตร T-Money 2,500 Won
• ค่าเติมบัตร T-Money 44,000 Won
• ค่าอาหารกองกลาง 150,000 Won (บวกค่ากาแฟ อาหารเช้า ขนมด้วย)
• ค่าที่พัก Kimchee ในโซล 115,000 Won
• ค่าที่พัก Mr.egg 16,000 Won (ซกโซ)
• ค่ารถทัวร์จากโซลไปซกโซ 17,300 Won
• ค่ารถเมล์ไป-กลับ เข้าโซรัคซาน 1,200+1,200 Won
• ค่าเข้าในเขาโซรัคซาน 3,500 Won
• ค่าขึ้นกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ที่โซรัคซาน 9,500 Won
• ค่ารถทัวร์จากซกโซไปชุนชอน 13,400 Won
• ค่ารถทัวร์จากชุนชอนไปกาพยอง 2,900 Won
• ค่า Taxi จากท่ารถทัวร์กาพยองไปเกาะนามิ 4,100 Won
• ค่าเข้า+ค่าเรือ ไปเกาะนามิ 8,000 Won
• ค่า Taxi จากเกาะนามิไปสถานีรถไฟกาพยอง 3,000 Won
• ตั๋วเข้า English Village (Paju) 3,000 Won
• ตั๋วเข้าวัง 4 วัง Combination ticket 10,000 Won
รวมทั้งหมด 405,100 Won หารเป็นเงินไทย ตกอยู่ที่ 12,000 บาท
สรุปนี้ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้ รวมค่าตั๋วเครื่องบินอยู่ที่ 26,000 บาท ค่ะ
เราเดินทางด้วย สายการบินเจ้าหางแดง เดินทางวันที่ 11-18 มกราคม 2558 (เพิ่งจองตั๋วก่อนเดินทางเพียงแค่ 2 เดือนเอง )สำหรับ จขกท. ก็โอเครนะสำหรับการใช้บริการของสายการบินหางแดงครั้งแรก ถือว่าโอเคร เหมาะสมกับราคาค่ะ
เราออกเดินทางด้วยสายการบิน XJ700 วันที่ 11 มกรา 58 เวลา 08.05 ไปถึงสนามบินนานาชาติอินชอน เวลา 15.20 (ที่เกาหลีเวลาจะไวกว่าไทย 2 ชั่วโมงค่ะ)
เราก็สั่งอาหารทานบนเครื่อง(ตอนจองมีโปรจองสั่งอาหารล่วงหน้าถูกกว่า 20% และมีน้ำแร่ น้ำผลไม้ บวกของหวานให้ด้วยค่ะ รสชาติถือว่าใช้ได้เลยค่ะ ของ จขกท.สั่งเป็นข้าวผัดกิมจิ ส่วนของพี่อีกคนสั่งเป็นข้าวต้ม กับไก่เทริยากิ
เมื่ออยู่บนเครื่อง เจ้าหน้าที่จะเอาเอกสารมาให้เรากรอก เพื่อให้นำไปยื่นที่ด่าน ตม. ค่ะ (ตอน check in ที่สนามบิน เจ้าหน้าที่ ที่เคาท์เตอร์ ได้ print E-ticket ขากลับ ไว้ให้ ตอนยื่นผ่านด่าน ตม.ที่โน้น ว่าเรามีการจองตั๋วกลับแล้วนะ ไม่ได้ปเป็นโรบินฮูดนะให้ เพราะทางเราไม่ได้ปริ้น E-ticket ขากลับไปด้วย ให้กรอกเอกสารให้เรียบร้อยตั้งแต่อยู่บนเครื่องนะคะ (ควรพกปากกาไปด้วยนะคะ สำคัญยิ่ง จะได้ไม่ต้องไปหายืมคนอื่นให้เมื่อยตุ้ม กร๊ากๆๆๆ)
Arrival Card ใบผ่านเข้าเมือง
ใบ Customs Declaration
พอถึงสนามบินนานาชาติอินชอน เราก็ลงจากเครื่อง ต่อด่านตรวจคนเข้าเมือง ให้เดินไปต่อแถวที่ช่อง Foreigner Passenger เมื่อเจ้าหน้าเช็คพาสสปอต และเอกสารของเราเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ ตม.จะให้เราวางนิ้วชี้ ทั้งสองข้างลงบนเครื่องแสกนลายนิ้วมือค่ะ เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ตม.จะให้เรามองมากล้องเพื่อทำการถ่ายหน้าเรา (ต้องไม่สวมแว่น ไม่สวมหมวก)
หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่หลายคนกลัวนัก กลัวหนา กลัวจนชื่อเสียงว่าด่าน ตม.ของเกาหลี น่ากลัว ออกมาได้แล้วเรียบร้อยแล้ว ก็พากันเดินลงบันไดเลื่อนเพื่อไปรับกระเป๋าเดินทางที่ชั้นล่างค่ะ พอรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็พากันลากกระเป๋าเดินออกมาหาซื้อบัตร T-Money (ราคาบัตร T-Money 2,500 Won) แล้วเราก็ไปเติมเงินที่ตู้เติมเงิน ก่อนนะคะ ก็เลือกภาษาเป็น English และเลือกจำนวนเงินที่ต้องการเติม เราเติมไปเลยครั้งแรก 20,000 Won เสร็จแล้วเราก็เดินทางไปที่พักกันค่ะ เราเลือกวิธีเดินทางโดย รถไฟใต้ดิน Airport Railroad (AREX) อยู่บริเวณชั้น B1 ซึ่งมี 2 แบบให้เลือกเดินทางกันค่ะ คือ แบบธรรมดา (Commuter) จะจอดทุกๆสถานี ราคาค่าตั๋วจะเริ่มต้นที่ 3550 วอน และแบบด่วน (Express) จะจอดแค่สถานีเดียวคือสถานีโซล (Seoul Station) ราคาค่าตั๋วปกติ 14,700 วอน ซึ่งทั้งสองแบบใช้เวลาเดินทางเร็วกว่ากันแค่ประมาณ 10 นาทีเองค่ะ แต่ราคาค่าตั๋วต่างกันมว๊ากๆๆๆๆๆๆๆ ซึ่งแน่นอนฐานะระดับอย่างจขกท. ก็ต้องเลือกเดินทางแบบธรรมดา (Commuter) เลยค่ะ ถึงจะเหมาะกับยาจกอย่างเฮา กร๊ากๆๆๆ และที่เลือกเดินทางด้วยวิธีนี้สะดวกต่อเรามากๆ เพราะเราจองที่พักชื่อ KimChee ShinChon GuestHouse Hongik ซึ่งอยู่ตรงย่าน ฮงแด ลงสถานี Hongik ไม่ต้องไปต่อสายอื่นหลายต่อด้วย คือนั่งต่อเดียวยาวเลยค่ะ
ชื่อสินค้า: SEOUL, SOUTH KOREA คะแนน: **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น