วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คุณไปช่วงกลางๆ July ซึ่งเป็นช่วง high season น่าจะหาราคาถูกๆ แบบที่ความเห็นบนๆ ว่าไว้ยากค่ะ

เอาว่าลองไล่ดูที่  skyscanner.com ก่อนนะคะ (ถ้ายังไม่ได้ลอง)

Turkish airline ก็โอเคค่ะ  ไฟลท์ที่คุณเลือก ขากลับขึ้นจาก Gatwick airport นะคะ แต่ก็ไม่ได้ลำบากกว่า Heathrow เท่าไหร่หรอกค่ะ มีรถบัสไปถึงเหมือนกัน แต่ถ้าได้ Heathrow ก็สะดวกกว่าหน่อย ไป underground ได้ถ้าของไม่เยอะ
ไม่ทราบว่าที่ จ.หนองคาย (เขต อ.เมือง) มีโรงแรมไหนที่น่าพักบ้างครับ จะมีวิวแม่น้ำโขงหรือไม่มีก็ได้ หรือเป็นโรงแรมที่ท่านไปพักแล้วและรู้สึกประทับใจหมู
{{แก้ไข เพิ่มเติม:: ในนี้จะมีพวกรายละเอียดที่เดินทางนะคะว่าต้องไปไหนยังไงบ้าง
เพราะตอนอ่านรีวิวส่วนใหญ่จะเป้นที่ท่องเที่ยว เลยสงสัยมากเลยว่าเค้าไปที่ไหน ขึ้นรถตรงไหน ราคาเท่าไหร่
พอได้มีโอกาสไปเองเลยอยากจะแชร์ไว้ค่ะ ถ้ามีประโยชน์ก็ยินดีนะคะ ขอบคุณค่า}}


สวัสดีค่ะ อ่า จะเริ่มยังไงดี 555555555 (หัวเราะเปิดฤกษ์ก่อน) วันนี้ออยจะมาแชร์ประสบการณ์การไปแบคแพคที่ภาคเหนือค่ะ
ตั้งใจจะไปปางอุ๋งก่อน กะไปลุยให้สุดแล้วค่อยไปพักสบายๆที่ปาย 55555555
ทุกอย่างใหม่หมดตั้งแต่ประสบการณ์การแบคแพคไปยันภูมิประเทศเจ้าคิกคัก
เหมือนความคิดว่าอยากจะไปเที่ยวไกลๆซักที่เริ่มมีเข้ามาตั้งแต่อ่านหนังสือสอบไฟนอล (ออยอยู่ปีสาม) ปกติแล้วเป็นคนติดบ้าน เพื่อนชวนไปเที่ยวเราก็มักมีเหตุให้ไม่ได้ไปตลอดเลย ต้องทำนั่น ต้องทำนี่ ต้องเตรียมอันนั้น ต้องมีอันนี้ มีข้อแม้กับตัวเองเยอะ ก็เลยไม่ได้ไปไหนซักที 5555555
คราวนี้สงสัยจะฟุ้งซ่าน ทำมันทุกอย่างยกเว้นวนไปอ่านหนังสือ ตั้งใจหาข้อมูลและรีวิวของทริปคนอื่นๆจนตาโหลเม่าแพนด้า ไฟลุกพรึ่บพรั่บ! แบบเฮ้ย ต้องไปละอ่ะ ต้องไปให้ได้แล้วววววเพี้ยนไฟลุก

พอปิดเทอม ทีนี้ก็เอาเลย ข้อมูลพร้อม เป้พร้อม ลุยย!

ออยเริ่มเดินทางวันที่ 19 พค จากมข.ไปเชียงใหม่

นั่งรถยาวไปเลย ถึงอาเขตเชียงใหม่ตอนประมาณตีห้าครึ่ง วันที่ 20 พค จากนั้นก็ถามคนแถวนั้นนั่นล่ะค่ะ หาที่ซื้อตั๋วของเปรมประชา จะไปแม่ฮ่องสอน ไอ้เราก็หลงไปต่อแถวกะเค้าหน้าช่องขายตั๋ว หกโมงเช้าคนขายตั๋วก็มาถึง พอถึงคิวเค้าบอกว่ารถตู้ให้ไปซื้อฝั่งตรงข้าม เราก็อ่าววววว เอาแล้วววว เลยรีบข้ามฝั่งไปซื้อ สรุปเลยได้ตั๋วรอบ แปดโมงครึ่ง คุณพระ! เม่าแพนิค อิชั้นจะไปทันรถสองแถวไปปางอุ๋งรอบบ่ายสามโมงมั้ยเนี่ยยยยยย
ห้องขาวแดงนั่นเน้อขายตั๋วรถตู้

แต่ก็โอเค ยังไงเราก็มาคนเดียว แพลนเราสามารถยืดหยุ่นได้ ถ้าไม่ทันไปปางอุ๋งก็จะพักที่แม่ฮ่องสอนแล้วก็เที่ยวมันแม่ฮ่องสอนนั่นล่ะ สบ๊ายยยย จากนั้นเลยไปหาของกินก่อนค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้องงงงงง ก่อนเข้าอาเขตเห็นStar Avenueอยู่ข้างๆ เอ้าทีนี้ก็เดินเลย แบกเป้เดินทั่กๆมุ่งหน้าหาของกินก่อนเลย

พอถึงเวลารถก็ออกค่ะ เดินทางจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอนใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง จะมีจุดพักรถสองครั้ง ระหว่างทางมีฝนตกประปราย พอมาถึงสถานีขนส่งแม่ฮ่องสอน ฝนตกค่ะ เลยต้องขึ้นตุ๊กๆไปตลาดสายหยุดแทน นั่งไปก็เสียวไป ลุงซิ่งมากกก รถสั่นทั่กๆ นี่เราบินได้ใช่มั้ยคะ 5555555

บอกให้ลุงเค้าไปส่งตรงคิวรถเลยค่ะ เราก็นั่งรอตุ้มๆต่อมๆ เอ้ มันใช่มั้ยน้า ทั้งๆที่ถามแล้วว่ามันใช่ ปางอุ๋งเค้ารอรถตรงนี้แหละ รอไปประมาณสิบกว่านาที รถเหลืองก็มาค่ะ ยินดีมากกกกก รถคันนี้ไงที่เราเห็นในรีวิวคนอื่นเค้าาาาาาา

คุณลุงคนขับรถบอกว่ารถออกตอนบ่ายสามโมงครึ่ง เราก็โอเค นั่งรอตรงนั้นเลย ระหว่างนั้นก็มีผู้โดยสารคนอื่นมาเรื่อยๆค่ะ ไปกับชาวบ้านแถวนั้น ระหว่างนั่งรอคุณป้ากระเป๋า(เรียกงี้รึเปล่านะ)ก็ถามว่าจะไปปางอุ๋งหรอ ไปพักที่ไหน เราก็ตั้งใจจะไปพักที่เกสเฮ้ารวมไทย ป้าบอกว่าเค้าปรับปรุงอยู๋ ไปบ้านลุงปาละดีกว่า โอเค งั้นก็ได้ 55555555 พอถึงเวลารถออกก็นั่งดูทางไปเรื่อยๆค่ะ เห็นมีคนเช่ารถขับไปกันเยอะ แต่พอดูทางจริงๆแล้ว ฝีมือขับกลางๆแบบเราคงไม่รอด ทางชันมาก ไกลมาก ประมาณ 40 กิโลค่ะ เห็นเส้นทางเล็กๆ ก็เลยถามคุณลุงคนขับว่างี้ถ้าหน้าหนาวรถเยอะๆจะผ่านกันได้หรอคะ คุณลุงบอกสบายมาก แบ่งๆกันไป เค้าเรียกถนนน้ำใจ บ๊ะ! งดงามยิ่งนักกก

ระหว่างทางฝนตก เลยต้องขับช้าๆ พอถึงทางเข้าบ้านรวมไทยฝนก็หยุดพอดี ฟ้าส่วง อากาศเย็นๆ ไปถึงบ้านลุงปาละ ประมาณห้าโมงกว่าๆ ปริ่มมากกก มาถึงล้าวววว

คุณป้าที่โฮมสเตย์พาไปห้องพักแล้วก็ถามทางไปอ่างเก็บน้ำเล้ย เป้าหมายเรา ป้าบอกเดินไปประมาณ 400 เมตรก็เจออ่างแล้ว แต่ช่วงนี้น้ำน้อย หน้าฝนเนาะ ป้าบอกถ้าสิงหาน้ำจะเยอะ ลูกเต่าน้อย โนพลอมแพลมฮะ เดินเลยเดินนน หิ้วกล้องไปเลย ตื่นเต้นๆ



แอคติ้งดีมาก

เจอหงส์ด้วยล่ะ ฮี่ๆ

กลับไปถึงบ้านพักก็หิวพอดี กินง่ายๆ คุณป้าเลยทำไข่เจียวกับผัดกะหล่ำมาให้ อิ่มกันไป มีชาให้ด้วยยย


สุดท้ายคืนนี้ก็นอนกับคุณแบตเตอร์รี่


วันนี้พอแค่นี้ก่อนเนาะ เดี๋ยวกลับมาเล่าต่อ ขอบคุณที่เข้ามาชมกันเน้ออออออเพี้ยนออกทริป ชื่อสินค้า:   ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน ปาย เชียงใหม่ คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
(ครบแล้วจ้า ยิ้ม

Trip Mount Bromo, Kawa Ijein, Borobudur   ตอนนี้ลงตัวที่ 7-13 กันยายน ค่ะ, ราคาตั๋วไปกลับ 5000+ บาท (ราคามันดิ้นไปมาเล็กน้อย) การเดินทางจะรวมถึงบุโรพุทโธ, Mount Bromo และ Kawa Ijein
ขากลับ transit at Singapore, ใครอยาก transit นานขึ้นก็ออกไป เดินเล่นนะคะ

เราเป็น ผู้หญิงง่ายๆ ลุย ไม่เรื่องมาก อยากหาคนแบบเดียวกัน เดวยังมี trip อื่นตามมาอีกเยอะค่ะ เรา set เอง มาหลายทริปแล้วค่ะ ตอนนี้มี เพื่อน confirm แล้ว หนี่ง อีกหลายคนกำลัง check วันเวลา  เราอยากขยายวงเพี่อนเที่ยวบ้าง หาร ทุกอย่างค่ะ ดูแลกันเอง ถ้าเราโชคดี คงมีเพื่อนเที่ยวเพิ่ม

Important Note!!!! ******  ขอคนลุย ไม่เรื่องมาก ไม่จุกจิก ไม่ขี้บ่นนะคะ  ******
                           ภาษาไม่มีปัญหาค่ะ เราลุยเอง แก้ไขข้อความเมื่อ
แนะนำสถานที่ท้องเที่ยวให้หน่อยค๊า
แบกเป้เที่ยวคนเดียว เสาร์-อาทิตย์
ไม่อันตรายมาก สามารถนั่งรถตู้ รถไฟ รถประจำทาง
ลุยๆได้ กินง่าย นอนง่าย ไม่เรื่องมากคะ งบไม่จำกัด
แนะนำวิธีการเที่ยวคนให้ให้ด้วยจะขอบพระคุณมากกก

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับผู้แนะนำทุกท่าน ขอลิ้งให้เค้าด้วยน๊า อิอิ^^

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สวัสดีครับ

กำลังวางแผนไปญี่ปุ่นช่วงเดือนตุลานี้ ตามตารางข้างล่างครับ อยากขอ comment ว่าน่าจะปรับตรงไหนมั๊ยครับ

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ อมยิ้ม01

Day 1: Arrive New Chitose in the morning, pick up car, Noboribetsu and overnight at Lake Toya

Day 2: Drive to Sapporo and spend time in the city. Overnight Sapporo

Day 3: Day trip to Otaru, visit fruit garden at Sakuranbo Yama. Overnight in Sapporo

- Any fruit to pick during October?

Day 4: Furano, Biei,overnight at Asahikawa

- Will there be anything to see in Furano and Biei in October?

Day 5: Day trip to Sounkyo and Asahidake, overnight at Asahikawa

- Where are some of the good spots to see red leaves?

Day 6: Drive to New Chitose, return car and fly to Osaka. Overnight in Osaka (Namba area)

Day 7: Osaka city tour. Overnight in Osaka

Day 8: Day trip to Nara. Overinight in Osaka

Day 9: Train to Kyoto. Overnight in Kyoto

Day 10: Kyoto city tour. Overnight in Kyoto

Day 11: Train to Tokyo. Overnight in Shinjuku area

Day 12: Tokyo east (Akasaka, Tokyo Skytree, Akahibara, Tsukiji Market, Odaiba). Overinight in Shinjuku area

Day 13: Day trip to Fuji-san. Overnight in Shinjuku area

- Hakone or Kawagichiko???

Day 14 (Saturday): Tokyo west (Shinjuku, Harajuku, Shibuya). Overinight in Shinjuku area.

Day 15: Haneda airport for flight home
อยากที่เขียนมา มีเงินอยู่120บาท ยังไม่มีที่พัก ไม่มีงาน ไม่มีเพื่อนญาติหรือคนรู้จัก กลับบ้านนอกก็ยังไม่ได้จะใช้ชีวิตยังไงครับ มีกระเป๋าใบเดียว ติดต่อใครไม่ได้ พอวันที่27ถึงกลับบ้านได้ จะทำไงดีทรมารจัง คนจรจัดร่อนเร่เขากินยังไงนอนยังไง อยู่แบบไหนที่ไหนคนร้ายถึงไม่มาระรานเรา ตอบด้วยครับ ผมทรมานมากครับจนอยากฆ่าตัวตาย เจียดเงิน10บาทเพื่อนมานั่งเขียนกระทู้ อดอยากปากแห้งเป็นแบบนี้เอง อาบน้ำที่ไหนฟรี นอนที่ไหนได้แบบไม่มีอันตราย
สวัสดีครับ
กระทู้นี้ เป็นภาคต่อของกระทู้แรก จากตอนที่ 1
"แบกเป้ลุยเดี่ยว เที่ยวมาเลย์ฯคนเดียว 9 วัน ตอน 1 "คินาบาลูจ๋า ฉันมาหาเธอแล้ว""
http://pantip.com/topic/33689650

ทริปนี้ออกเดินทางวันที่ 26 ธันวาคม 2557 ช่วงแรกของทริป ผมกระโดดไปปีนเขาที่เมืองโคต้า คินาบาลูมา 4 วัน
แล้วกลับเข้ามายังกัวลาลัมเปอร์ในตอนเที่ยงของวันที่ 31 ธันวาคม 2557
จากนั้นก็แบกเป้ตะลุยเที่ยวบ้าอยู่คนเดียวตั้งแต่ในเมืองกัวลาฯ เมืองปุตราจายา ลงใต้ไปเมืองมะละกา แล้วก็กระโดดขึ้นเหนือมาปีนัง
โดยตลอดทั้ง 4 เมือง ใช้เวลาเที่ยว 4 วัน จบที่เมืองปีนังวันที่ 3 มกราคม 2558
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ 2,722 บาท  โดยไม่รวมตั๋วหรือค่าเดินทางจากเมืองไทย - มาเลเซีย  และ กลับไทยนะครับ
( เดี๋ยวตอนท้ายจะทำสรุปมาให้ชมนะครับ จะรีวิวไล่ไปตามสาระบัญครับ )

โดยจะเขียนให้ละเอียดจนเพื่อน ๆสามารถตามรอยได้อย่างแน่นอน
เพราะเชื่อว่าการเดินทาง มีแต่เรื่องสนุกและน่าตื่นเต้น และไม่จำเป็นต้องควักเงินมากมายเพื่อจะชื้อประสบการณ์เหล่านั้น
หรือบ้างครั้งที่ไม่มีเพื่อนร่วมทาง การเดินทางคนเดียวก็สนุกได้เช่นกันครับ

อันนี้เป็น Facebook ผมนะครับ เข้ามาสอบถามข้อมูลปรึกษาเรื่องเทียวได้ https://www.facebook.com/backpackerball?ref=hl
และนี้เป็นรวมกระทู้ในพันทิพย์ที่ผมตั้งไว้ 10 กว่ารีวิวแล้วครับ ลองดูนะครับ เผื่อมีแพลนว่าอยากจะไปที่ไหน ก็ลองเข้าไปดูดข้อมูลได้เต็มที่ครับ  ^^  http://pantip.com/topic/31478974

และฝากกด"บวก" กด "แชร์" ให้หน่อยนะครับ หากคิดว่ากระทู้นี้เป็นประโยชน์ต่อท่าน และต่อผู้รักการเดินทางทุกคน
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ ^__^
ชื่อสินค้า:   กัวลาลัมเปอร์ ปุตราจายา มะละกา ปีนัง คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
เรามีทริปท่องกรุงเทพฯยามราตรี 2วัน 1คืน

ตะลุยหาของกินเยาวราช ข้าวสาร สะพานพุทธ

ประเด็นคือไม่มี ที่พัก ไม่ทราบ ไม่รู้แหล่งเลย บัตรเครดิต

ก็ไม่มี 555  อยากถามหน่อยค่ะว่าใครพอทราบที่พักดีๆ ปลอดภัย

ราคาไม่เกิน 800 เน้น ไม่เกิน800 มีwifi และเป็นห้องแอร์ บ้างมั้ย? ^^

รบกวนหน่อยนะคะ ตั้งกระทู้ครั้งแรก ผิดพลาดขอโทษด้วยน้า

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558


สวัสดีครับ ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม มีโอกาสหนีร้อนไปเทียวญี่ปุ่นมาครับ ทริปนี้ผมมีโอกาสได้ไป Japan alpine route ด้วยเลยขอเอาภาพสวยๆพร้อมวิธีเดินทางมาฝากนะครับ
    ก่อนไปผมก็อ่านรีวิวจากน้าๆในห้องบลูครับ แต่อ่านแล้วก็ยังมีหลายจุดที่งงๆเพราะมันต่อหลายเส้นทางเหลือเกิน พอไปเจอจริงๆถึงเข้าใจ วันนี้จะลองพยายามอธิบายแบบที่ผมเข้าใจนะครับ ผิดตรงไหนรบกวนน้าๆช่วยแก้ไขให้ด้วยนะครับ Trip นี้ผมใช้กล้องคู่ใจ Fuji XE2+kitty ทั้งหมดครับ มีรูปเดียวในริวิวนี้ที่ถ่ายจาก sony xperia z3 compact นะครับ
เริ่มกันเลย

ผมยึดแผนที่นี้เป็นหลักในการเดินทางครับ จากที่รีวิวมาเราสามารถเริ่มต้นจาก Toyama หรือ Ogizawa ก็ได้ แต่เนื่องจากผมพักที่ Toyama อยู่แล้ว เราเลยเริ่มเดินทางกันจาก Toyama ครับ
    ขั้นแรกไปที่สถานี Dentetsutoyama ซึ่งอยู่ติดกับสถานี Toyama station เลยครับ เดินออกมาด้านหน้าสถานีแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเจอครับ (รูปด้านล่างจาก internet ครับ) สถานีอยู่ด้านซ้ายของห้าง MARIER

   ทางขึ้นติดกับห้างเลย จากที่รีวิวมาสถานีจะเปิด 7 โมงเช้านะครับ วันนั้นผมไปถึงประมาณ 7.50 น. เดินเข้าไปจะเจอช่องขายตั๋ว มีคนต่อคิวยาวเลย ข้างๆจะมีตู้ขายตั๋วไปสถานี Tateyama ครับ มีพนักงานยืนอยู่ ผมจึงเดินเข้าไปถาม เค้าบอกผมว่าถ้าผมเข้าคิวซื้อตั๋ว trip alpine route ผมจะไม่ทันรถไฟที่ไป Tateyama ซึ่งจะออกประมาณ 8 โมง เค้าแนะนำให้ผมซื้อตั๋วไป Tateyama ที่ตู้อัตโนมัติก่อนแล้วค่อยไปซื้อตั๋ว alpine route ที่ Tateyama ซึ่งถ้าพลาดรถเที่ยวนี้รู้สึกผมจะต้องรออีกครึ่งชั่วโมงครับ ผมเลยซื้อตั๋วไป Tateyama ก่อนราคา  1200  เยนครับ ใช้เวลาจาก Dentetsu tomaya ถึง Tateyama ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ รถไฟของเราคือคันสีเขียวเหลืองครับ (ภาพด้านล่างจาก internet ครับ)

    เมื่อมาถึง Tateyama ให้รีบวิ่งไปซื้อตั๋ว alpine route เลยครับ โดยช่องขายจะอยู่ด้านหลังสถานี มีเจ้าหน้าที่คอยชี้ทางเรียบร้อย ตอนซื้อเค้าจะถามเราว่าเราจะไปถึงไหน มีทั้งแบบไปกลับ หรือไปรอบเดียวครับ ผมเลือกไปรอบเดียวสุดสายครับ แล้วเค้าจะให้เลือกเวลาที่เราจะขึ้น Cable car เพื่อไป Bijodaira ครับ ตรงนี้เลือกเวลาไหนต้องไปเวลานั้นนะครับ แนะนำว่าถ้าไม่ปวดฉี่มากให้กลั้นไว้ก่อนนะครับ เพราะคิวห้องน้ำยาวมากอาจตกรถได้ และเวลาบน cable car ก็ไม่นาน (ประมาณ 7 นาทีครับ)
ได้ตั๋วมาแล้วครับ 8,290 เยน

ขึ้น cable car กันเลยครับ
ชื่อสินค้า:   Japan alpine route คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
ก่อนอื่นคือเรายอมรับมากเลยนะค่ะ ว่าเราก็ไม่ได้เป็นคนดีทำประโยชน์ให้กับส่วนรวมสักเท่าไหร่ ชีวิตเน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก จนมันมาถึงจุดนึงเราคิดว่าสักครั้งนึงในชีวิตอยากจะทำสิ่งดีดีให้กับคนอื่นบ้าง อยากจะลองทำความดีจะลองทำจิตอาสาค่ะ เห็นเค้ามีจิตอาสาครูบนดอย3วัน2คืน เราก็คิดอยากจะไปอยากทำอะไรในสิ่งที่ไม่เคยทำอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้างและอยากจะเรียนรู้ชีวิตให้มากขึ้นอยากลองเป็นผู้ให้กับคนอื่นได้บ้างอ่ะค่ะ แต่คนรอบข้างเราก็พูดว่าอย่างเราไปไม่ได้หรอก ทำไม่ได้จะไปทนอยู่ได้ยังไง เราชวนเพื่อนไปด้วยไม่มีใครไปกับเราสักคนค่ะ เราเลยอยากทราบว่าใครเคยไปเปนจิตอาสาครูบนดอยมั่งค่ะ เป้นยังไงมีประสบการณ์ยังไงบ้างค่ะ คือเราอยากไปแต่ก็ไม่ค่อยมีข้อมูลทางด้านนี้ค่ะ ใครพอมีประสบการณ์ดีดีช่วยมาแชร์หน่อยนะค่ะ หรือใครจะไปทำจิตอาสาหรือมีจิตอาสาอย่างอื่นก็ช่วยแนะนำกันบ้างนะค่ะ อ้อเราอยู่โซนภาคเหนือค่ะหรือมีจิตอาสาที่อื่นนอกจากภาคเหนือก็ได้นะค่ะ  รบกวนด้วยนะค่ะ ดอกไม้ แก้ไขข้อความเมื่อ
สวัสดีครับ ทุกท่าน วันนี้มาเล่าเรื่องราวการเดินทาง ททริปล่าสุด ตามหัวกระทู้เลยครับ
ครั้งแรก....
พันกิโลเมตร....
รถที่ไม่ใช่แนว....
เส้นทางที่ไม่ชอบเลย...

ก่อนอื่นเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานนะครับ
จขกท. ปัจจุบันขี่รถ สกุตเตอร์ น่ารักมุ้งมุ้ง
จขกท. ใช้รถ จักรยานยนต์ขนาดใหญ่เดินทางเสมอ
จขกท. ไม่ชอบ วังน้ำเขียว เขาใหญ่ อะไรพวกนั้น
จขกท. กวงติงนิดหน่อย และปากดีมาก

อ่ะ ถ้าพร้อม แล้วก็ลองอ่านกันขำ ๆ สนุก ๆ นะครับ อย่าคิดมาก

คำเตือน : กระทู้เต็มไปด้วยข้อความเสียดสี จิกกัด กวงติง โฆษณาแฝง ฯลฯ โปรดระวังด้วย

จารย์บิ๊กซ์ขอเสนอ "หนุ่มหน้าใส กับมอเตอร์ไซค์มุ้งมิ้ง" ฮ่า ๆ ๆ
สวัสดีค่ะ ได้มีโอกาสนั่งรถไฟจากจีนไปอิตาลี เป็นระยะเวลาประมาณสองเดือน โดยผ่านสิบกว่าประเทศ การเดินทางไกลในระยะเวลาเป็นเดือน แน่นอนนอกจากความสนุกจากการเที่ยวแล้ว ยังมีหลากหลายอารมณ์ เช่น เหงา สับสน ตื่นเต้น พบเจอ พลัดพรากและจากลา จึงอยากจะแบ่งปันประสบการณ์บางส่วนผ่านกล้องฟิล์ม แต่ด้วยเนื่องจากข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ฟิล์มหมด ของเยอะไม่เอื้ออำนวยที่จะเอากล้องออกมาถ่ายได้ตลอด เรื่องราวจึงไม่ค่อยประติดประต่อ จึงขอแชร์เท่าที่มีนะค่ะ ใครอยากรู้หรือมีคำถามเพิ่มเติมสามารถถามได้นะค่ะ ถ้าทราบ ก็จะยินดีตอบค่ะ และด้วยเนื่องจากเจ้าของกระทู้เปนคนขี้อายและปกติไม่ค่อยชอบเล่นโซเชียลเท่าไหร่ แต่ด้วยความตั้งใจตั้งแต่ก่อนเริ่มทริปว่าอยากเล่าเรื่องผ่านอะนาลอคลงพันทิปเพราะคิดว่ารถไฟสายคลาสสิคกับกล้องฟิล์มน่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัว จึงต้องออกมาจากคอมฟอทโซนของตัวเอง แล้วลองดูสักครั้ง

สำหรับจขกท ทริปนี้เป็นทริปในฝัน ฝันไว้เมื่อสมัยยังเรียน สามสี่ปีก่อน เนื่องจากได้อ่านนิตยสาร a day แล้วมีบทสัมภาษณ์ของชายคนนึงที่รักในการเป่าแซกโซโฟน แล้วก็เดินทางโดยใช้รถไฟทรานไซบีเรียเป็นพาหนะข้ามทวีป รายละเอียดอย่างเดียวที่พอจะจำได้คือ บทสัมภาษณ์ได้กล่าวไว้ว่า การนั่งรถไฟสายนี้เหมือนได้นั่งอยู่ในไทม์แมชชีน ถึงแม้จะจำอะไรไม่ค่อยได้มาก แต่การเดินทางนี้ก็ได้ติดอยู่ในความฝัน เหมือนเป็นดังความทรงจำในวัยเด็ก ที่จำได้คร่าวๆ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงก็ยังมีความสุขและยังจำความรู้ตอนนั้นๆได้ และทุกครั้งที่คิดถึงบทสัมภาษณ์นี้ก็ยังมีแรงกระตุ้นให้เดินทางตาม ไม่ต่างจากครั้งที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้เลย

การที่จะหาเพื่อนร่วมทริปที่จะไปด้วยกันสองเดือนจะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก ที่ว่ายากเพราะคนส่วนใหญ่ที่ยังเรียนหรือมีงานประจำจะไม่สามารถขาดเรียนหรือลางานได้ ที่ว่าง่ายเพราะมีรุ่นน้องคนนึงที่กำลังจะจบพอดี จึงนัดกันเล่นๆข้ามปีเพื่อทริปนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าทริปนี้จะได้เกิดขึ้นจริงรึป่าว
แต่ในที่สุดโชคชะตาและคนลิขิตก็ช่วยให้ทุกอย่างก็ผ่านพ้นด้วยดี เพื่อนร่วมทางสามารถจบในเวลาที่คาดไว้ (ก่อนเดินทางหนึ่งวัน ยังโดนเรียกตัวไปซ่อมวิชาที่ตกก่อนเรียนจบอยู่เลย) และ เราก็ว่างช่วงนั้นพอดี ความฝันจึงเป็นจริงในที่สุด

การเตรียมตัวทริปนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนโดยแบ่งหน้าที่กัน เป็นก่อนเข้ายุโรปและยุโรป เนื่องจากเวลาเตรียมตัวน้อย จึงวางได้แค่เมืองที่จะไป การเดินทางว่าจะเข้าออกแต่ละประเทศอย่างไร และ ที่พัก นอกนั้นก็ไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันว่าแต่ละวันจะไปไหนบ้าง วันไหนที่ขี้เกียจเที่ยวก็จะนอนตื่นสาย นั่งเล่นนอนเล่น เวลาสองเดือนไม่ใช่เที่ยวเพื่อเก็บแต้ม แต่แค่อยากใช้เวลาตามใจ และใช้เวลาให้คุ้มกับสถานที่เที่ยวและความทรงจำให้มากที่สุด อาจจะไม่ใช่ทริปที่ดีที่สุด แต่จะเป็นทริปที่ตามใจตัวเองที่สุด

ถ้าพร้อมกันแล้ว ก็จับจองที่นั่งบนรถไฟ แล้วไปกันเลย



ประเทศแรกที่เราจะเริ่มคือจีน อยู่จีนได้พักแถวๆ Hutong ซึ่งเป็นที่พักอาศัยเก่าแก่











ขณะอยู่ปักกิ่งได้มีน้องคนไทยมาพาเที่ยว ระหว่างคิวรออาหารก็เลยแวะมาเดินเล่นในสวนสาธารณะ ซึงต้องเสียเงินค่าเข้าเล็กน้อย
ภายในสวนสาธารณะถือว่าร่มรื่นทีเดียว มีคนมาเล่นดนตรีในสวน ลูกเล็กเด็กแดงมาวิ่งเล่น พ่อลูกมาเล่นโรเลอร์เบลด นั่งมองก็เพลินดี







ก่อนไปมหาลัยปักกิ่งได้ไป Lama Temple













น้องคนไทยยังได้พาไปเดินเล่นในมหาลัยปีกกิ่ง ซึ่งคนภายนอกไม่สามารถเข้าได้ แต่ต้องให้นักศึกษาแสดงบัตรแล้วพาเข้าไป

คนที่พาไปเป็นน้องของแฟนพี่ที่น้องคนไทยรู้จักอีกที ฟังดูแล้วน่างง แต่ในที่สุดเราก็เข้าไปได้ สวนไม่ทราบชื่อในมหาลัยปักกิ่ง ร่มรื่นมากเลยทีเดียว





ดอกไม้ที่ไม่แน่ใจว่าใช่ซากุระหรือไม่ ใครรู้ช่วยบอกด้วย









คุณปู่ชิว นั่งชิลๆ อยู่ริมน้ำ





คู่รักในมหาลัยปักกิ่ง พาหนะหลักในมหาลัยคงหนีไม่พ้นจักรยาน เพราะด้วยเนื้อที่อันกว้างขวาง เดินกันจนขาลากเลยทีเดียววันนี้





น้องคนไทยได้มอบหมายหนุ่มชาวจีน ชื่อไทยว่านัท มาพาพวกเราสองคนเที่ยว นัทสามารถพูดไทยได้ราวกับnative ตอนแรกพวกเราตั้งใจจะไปพระราชวังต้องห้าม ซึ่งนัทเองก็ไม่เคยไปเช่นกัน แต่ด้วยเนื่องจากมีประชุมระดับประเทศจึงปิด และตัดสินใจกันไป Summer Palace กันแทน















นัทเล่าว่าสิ่งที่เห็นตามรูปนี้ ถ้าหลังไหนมีเยอะแสดงว่าเป็นสถานที่สำคัญ





วันสุดท้ายในจีน ก็ได้ไปพระราชวังต้องห้าม





























และตอนเย็นก็ได้ดูพิธีการเชิญธงชาติลงตรงจัตุรัสเทียนอันเหมิน มีชาวบ้านประชาชนจีนหอบกันมาทั้งครอบครัวเพื่อมามุงดูพิธีนี้











แก้ไขข้อความเมื่อ

ประกาศนียบัตรชนะเลิศ การบริการยอดเยี่ยม Tripadvisor.com

Sample Text

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

VartikaAdventure Kuiburi

VartikaAdventure Kuiburi

VartKa Kuiburi

VartKa Kuiburi

Facebook Vartika Adventure Retreatic Resort

Facebook Vartika Resovilla Kuiburi

Popular Posts