สวัสดีครับ
กลับมาอีกครั้งจากบันทึกการเดินทางในต่างแดนคราวที่แล้ว http://pantip.com/topic/32553046http://pantip.com/topic/32499927http://pantip.com/topic/31125088
การเดินทางเยือนดินแดนแห่งสายธารลาวาของผมดำเนินมาถึงช่วงท้ายหากแต่ยังคงอยู่กับเวลาที่หมุนเวียนในมลรัฐฮาวาย มหานครแห่งแปซิฟิคที่ผู้คนกล่าวขาน หลังจากท่องเที่ยวบนเกาะโอฮาอูและนครฮอนโนลูลูในคราวก่อน ผมเดินทางข้ามท้องน้ำและแผ่นฟ้าอันกว้างใหญ่โดยสารจากนครฮอนโนลูลูมุ่งหน้าสู่เกาะใหญ่หรือ Big Island ที่ผู้คนเรียกขานว่าเกาะฮาวาย ดินแดนที่ถือกำหนดจากลาวาภูเขาไฟที่ยังคงครุกรุ่นและไม่มีทีท่าจะดับสูญไปกับกาลเวลา
ช่วงเวลาราวหนึ่งสัปดาห์ ดูเหมือนจะไม่ยาวนานในความรู้สึกของผู้คน แต่สำหรับผมช่วงเวลาอันแสนสั้นนี้ก่อเกิดสิ่งดีๆที่มีค่าควรคู่แก่การจดจำมากมายและยังจะคงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านานในวินาทีที่เครื่องบินกำลังลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานบนเกาะ Big Island ภาพท้องฟ้าและฝืนน้ำเบื่องล่างสื่อให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของมหาสมุทรจรดขอบฟ้าได้อย่างชัดเจนโดยมิต้องมีความบรรยายใดๆ
หากมีใครเอ่ยคำว่า “รักเท่าแผ่นฟ้าและมหาสมุทร” คนที่ได้ฟังคงจะอดปลื้มไม่ได้จริงๆ...
ชื่อสินค้า: Hawaii
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557
ที่โฆษณาว่า Air Asia Care , Air Asia Ambassador: Universal Design (มี Logo พรุะภิกษุ คนพิการ สตรีมีครรภ์ .. บังเอิญผมลงรูปไม่ได้)
จริงๆ แล้ว คนพิการต้องคลานขึ้นใช่มั๊ยครับ เจ้านาย
........................................
ลองฟังบางส่วนจากบทสนทนา (ผู้โดยสารซื้อตัวเดินทาง ดอนเมือง - เมลเบิร์น 2 คน ไปกลับเกือบ 5 หมื่น ไม่ใช่ Low Cost ซักเท่าไร)
ผู้โดยสารคนพิการ กับ Call Center Air Asia (ซื้อตั๋วไว้แล้ว มาแจ้งขอการอำนวยความสะดวก)
Call Center: คือผู้โดยสารต้องมีญาติ หรือมีผู้ติดตามคอยดูแลช่วยเหลือด้วยนะค่ะ
ผู้โดยสาร: ไม่มีหรอก! ผมก็เดินทางคนเดียวมาหลายครั้งแล้ว
Call Center: ค่ะ
ผู้โดยสาร: ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ จะเดินทางยังไงล่ะครับ
Call Center: ก็ต้องขออนุญาตเรียนแจ้ง เราไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลพิเศษน่ะค่ะ กำลังเรียนสายกับคุณ... โดยตรงหรือเปล่าค่ะ เพราะว่าต้องขออภัยคุณ... ด้วยค่ะ ทางเราไม่มีเจ้าหน้าที่ให้บริการช่วยเหลือเป็นพิเศษเลย ต้องมีญาติหรือมีผู้ติดตามที่มีสุขภาพแข็งแรง ต้องคอยดูแลด้วย
ผู้โดยสาร: อย่างนี้ผมก็ขอคืนตั๋วแล้วกัน
Call Center: ในเรื่องตั๋วของแอร์เอเชีย เมื่อทำการจองหรือว่าชำระเงินแล้วจะยกเลิกไม่ได้ทุกกรณีนะค่ะ
ผู้โดยสาร: ไม่งั้นมันก็ต้องทำอย่างได้อย่างหนึ่งน่ะ
Call Center: ค่ะ
ผู้โดยสาร: จะทำยังไงได้
Call Center: สะดวกให้มีญาติหรือมีผู้ติดตามมั๊ยค่ะ
ผู้โดยสาร: มีผู้ติดตามก็ต้องมีตั๋วเครืองบินอีกใบ
Call Center: ค่ะ
ผู้โดยสาร: เป็นไปไม่ได้ เพราะปกติเนี่ยผมก็ไม่ใช่เดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรก เดินทางมาหลายหนแล้ว
Call Center: ค่ะ
ผู้โดยสาร: ก็แค่มีคนช่วยตอนขึ้นเครื่องแค่นั้นเอง
Call Center: เงียบ (ประมาณ 10 วินาทีผ่านไป) สวัสดีค่ะ
สิ้นสุดสนทนา
เราเข้าไปดูใน facebook ของธุดงคสถานเป็นวันที่ 25 ตุลาคม ตามภาพนี้ ซึ่งมีการแปลออกมาเป็นหลายภาษา
แต่ในจากกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/32609492 ทำให้เราสับสนว่ามันเป็นวันที่เท่าไหร่กันแน่ 25 ตค. หรือ 1 พย. เพราะปกติก้อเห็นเค้าจัดลอยโคมแค่ 2 วัน คือวันที่ลอยฟรี กับวันที่ต้องจ่ายเงิน 100 $
ฉะนั้นรบกวนใครก้อได้ค่ะ ช่วยคอนเฟิร์มเราีทีว่าจริงๆ มันวันไหนกันแน่อ่ะค่ะ เราจองโรงแรมไว้แล้วด้วยค่ะ
นิทราคหบดี บูติกโฮเทลแปดห้อง Macalister Mansion .... เก๋ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย - จอร์จทาวน์, ปีนัง
2-3 ปีหลังมานี้ “จอร์จทาวน์-ปีนัง” กลายเป็นเมืองแห่งศิลปะ และ “Art” ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ในขณะที่ค้นหาที่พักในจอร์จทาวน์ เราก็พบเข้ากับโรงแรมนี้ … แมนชั่นสีขาวขนาดใหญ่สไตล์โบราณ และรูปปั้นหน้าท่านลอร์ดที่ทันสมัย
ความสวยงามที่มากับความแปลกแบบสุดขั้ว ทำให้เราตัดสินใจแน่วแน่ว่า … เราจะเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ Malcalister Mansion, Eight Rooms ค่ะ
www.facebook.com/thaifootprint
www.thaifootprint.com
ชื่อสินค้า: Malcalister Mansion, Georgetown, Penang
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
ทราบกันหรือไม่ครับว่า ฮอกไกโดไม่ได้มีอาหารที่ดังแค่ ซูชิ นม ชีส ซุปคาเร่ และเนื้อแกะย่าง แต่ 1 ในอาหารชื่อดังที่หลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบอีกอย่างคือ 豚丼 (บูตะดง) หรือ ข้าวหน้าหมูชิ้นยักษ์ครับ
บูตะดงเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองโทคาชิซึ่งใกล้กับเมือง 帯広 (โอบิฮิโร่) ใจกลางเกาะฮอกไกโด เนื้อหมูเนื้อนุ่มๆเอามาทอดกับซอสลับสูตรเฉพาะของทางร้าน ทานพร้อมกับข้าวสวยร้อนและออนเซนทามาโกะ โอ้โห!!! แค่พูดก็น้ำลายไหลแล้ววววววววววววววว
ผมเคยไปยืนดูวิธีการทำ ดูเหมือนทำง่ายนะครับ แต่พอลองทำเองโดยซื้อซอสของทางร้านมาทำเอง รสชาติมันช่างแตกต่างจริงๆ (หรือผมไม่มีฝีมือหวาาา)
ร้านบูตะที่ผมจะแนะนำมีชื่อว่า 豚丼名人 (Bu-Ta-Don-Mei-Jin) หรือ บูตะดงเมจินครับ สาขาแรกตั้งอยู่ใจกลางเกาะฮอกไกโด (แล้วจะไปไงละเนี่ย ไกลมากถึงมากที่สุด) แต่ข่าวดีคือ ร้านนี้ได้มาเปิดที่สนามบินชินชิโตเสะ ซับโปโร เกาะฮอกไกโด
ADDRESS: New Chitose Airport, Domestic Terminal Building 3F Gourmet World
เมนูที่แนะนำคือ 十勝岳月見豚丼 (To-Ka-Chi-Da-Ke Tsu-Ki-Mi Bu-Ta-Don) ข้าวหน้าหมูพร้อมผักฝอยและไข่ออนเซนทามาโกะ
WEBSITE: http://www.butadonmeijin.com/top.html
ถ้ามีเวลาที่สนามบินหลังจากช็อปปิ้งแล้ว อย่าลืมไปทานกันนะครับ อร่อยฝุดๆ
ฝากจากเวป tabelog:http://tabelog.com/hokkaido/A0107/A010701/1034346/
คะแนน: 3.53/ 5.00
ซอสบูตะดงอันนี้ผมเห็นวางขายที่ซุปเปอร์แถวห้างชื่อดังตรงข้ามสยาม ใครสนใจลองทำก็จัดได้เลยครับ
ติดตามชีวิตผมที่เคยอยู่ที่ซับโปโรได้เพิ่มเติมที่ www.facebook.com/ohohokkaido
ขอบคุณครับ
ชื่อสินค้า: ข้าวหน้าเนื้อหมู
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
นับเป็นครั้งที่สอง ที่ผมได้กลับมาเยือน "ตรัง" เมืองแห่งความสุขอีกครั้ง
แม้ครั้งนี้จะแจ็คพ็อตแตก มาจ๊ะเอ๋กับเจ้าไต้ฝุ่น “คัลแมกี” เข้าให้พอดี
แต่แรงพายุก็มิอาจต้านทานแรงปรารถนา ในหัวใจนักเดินทางของเราได้
ขอแค่เพียงเสื้อกับฝนตัวเดียวก็พอ เท่านั้นก็พอใจหากลมฝนจะแรงไปเราไม่กลัว
จากการมาเยือนตรังทั้งสองครั้ง รวมเวลาทั้งหมด 7 วัน ผมมีข้อมูลและภาพถ่ายอยู่พอสังเขป
วันนี้ก็เลยอยากจะนำมาแชร์ให้กับทูนหัวของบ่าวทุกท่าน ที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวตรังในช่วงไฮซีซันที่จะมาถึงนี้
โดยจะรวมเอารีวิวที่เคยทำไปเมื่อปีก่อน มาผสมกับปีนี้ ให้ครบถ้วนอยู่ในกระทู้เดียว
เพื่อเป็นวิทยาคมแก่ผู้ที่จะค้นหาข้อมูล จากวันนี้.. และตลอดไป..
(ดูเลอค่ามากเลย)
ปล.ต้องกราบขออภัยไว้ล่วงหน้า เพราะรีวิวนี้ไม่เอาฮา เนื้อหาสาระล้วนๆครับ(ที่จริงหมดมุข)
ชื่อสินค้า: ตรัง
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
- 19:57
- Unknown
- ข่าวท่องเที่ยว
- No comments
สายการบินเอทิฮัดเริ่มดำเนินการสรรหาบุคลากรครั้งสำคัญ เฟ้นหาบุคคลที่มีประสบการณ์ด้านการบริการที่โดดเด่น เพื่อเข้าร่วมทำงานกับทีมลูกเรือชั้นนำระดับโลกของสายการบินเอทิฮัด (World Leading Cabin Crew) ช่วงวันรับสมัคร จะมีการเยือนสถานที่ต่างๆใน 12 เมือง ทั้งในประเทศเยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น โมร็อกโก ตูนิเซีย และกรุงอาบูดาบี ศูนย์กลางของสายการบินเอทิฮัด ผู้สมัครที่สนใจเข้าร่วมในวันรับสมัคร และเป็นส่วนหนึ่งของสายการบินเจ้าของรางวัลอย่างสายการบินเอทิฮัด ในทีมงานลูกเรือ ผู้จัดการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม เชฟบนเครื่องบิน กรุณาลงทะเบียนล่วงหน้าโดยเข้าเยี่ยมชมเวบไซต์ได้ที่ www.etihad.com/cabincrewrecruitment ออเบรย์ ไทดท์ รองประธานฝ่ายบริการลูกค้าของสายการบินเอทิฮัดกล่าวว่า “เพื่อเป็นการสนับสนุนการเติบโตอย่างรวดเร็วของสายการบิน เราจึงเดินหน้าเป็นเจ้าภาพจัดการรับสมัครชึ้นในประเทศต่างๆ ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญทางกลยุทธ์ของสายการบิน” “ในแต่ละเมือง เราจะเชิญผู้สมัครมากความสามารถโดดเด่นด้านการบริการถึง 200 คน เพื่อจะเข้าร่วมกิจกรรมสัมภาษณ์กับเราในวันรับสมัคร “เราหวังที่จะเชิญชวนและสรรหาคัดเลือกบุคคลที่มีความสามารถและกระตือรือร้น มุ่งมั่นและทุ่มเทในการให้บริการที่น่าโดดเด่นมาเป็นส่วนหนึ่งของเรา” “ทีมงานลูกเรือของเราเป็นทีมงานที่รวบรวมบุคลาการไว้มากกว่า 115 สัญชาติ ซึ่งยังได้รับประโยชน์ต่างๆจากการฝึกอบรมและการพัฒนา พร้อมกับโอกาสเติบโตในการทำงานอีกมากมายและประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆที่เกิดขึ้นในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” ไทดท์ กล่าว ผู้สมัครที่ประสบความสำเร็จ จะได้เข้าร่วมโปรแกรมการฝึกอบรมที่ครอบคลุมในกรุงอาบูดาบี ซึ่งรวมถึงทุกแง่มุมของความปลอดภัยในห้องโดยสารและการให้บริการต่างๆ โดยการฝึกอบรมจะดำเนินการที่ ศูนย์ฝึกอบรมที่ล้ำสมัยของสายการบินเอทิฮัด ลูกเรือจะได้รับสวัสดิการต่างๆ ของบริษัท รวมไปถึงประกันสุขภาพ การเดินทาง ชุดยูนิฟอร์ม และที่พักพร้อมการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ซึ่งทั้งหมดจัดอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สดชื่นและมีชีวิตชีวาของกรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของยูเออี กรุงอาบูดาบีเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อนชั้นนำระดับโลก ทั้งด้านกีฬาและกิจกรรมความบันเทิงต่างๆ รวมถึง เกาะยาส (Yas Island) ซึ่งเป็นย่านที่ได้รับความนิยม สนามกีฬาเซเย็ด สปอร์ต ซิตี้ (Zayed Sports City) และร้านอาหารชื่อดังระดับโลกของเซเลบริตี้เชฟ เช่น มาร์โก ปิแอร์ ไวท์ (Marco Pierre White) และแกรี่ โรดส์ (Gary Rhodes) สายการบินเอทิฮัดได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมายในด้านต่างๆตลอดหลายปีที่ผ่านมา อาทิ สายการบินชั้นนำระดับของโลก (World’s Leading Airline) เฟิร์สคลาสชั้นนำระดับโลก (World’s Leading First Class) และลูกเรือสายการบินชั้นนำระดับโลก (World’s Leading Airline Cabin Crew) ที่งานเวิลด์ ทราเวิล อวอร์ด (World Travel Awards) ซึ่งจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปี 2556 ที่ผ่านมา ในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์
จขกท. ไปเที่ยวอินโดนีเซีย ครั้งแรก เกาะบาหลี ที่เดียว จึงไม่รู้อะไรมากนักเกียวกับ อินโดนีเซีย
เพราะบาหลี มีความแตกต่าง พอสมควร เมื่อเทียบกับ อินโดนีเซียทั้งประเทศ เพราะอินโดนีเซีย
กว้างใหญ่เหลือเกิน มีหลากหลาย ประเพณี วัฒนธรรม หลายชนเผ่า ประชากรมุสลิม มากที่สุดในโลก
และประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลก แน่นอน ประเทศนี้มีอะไรน่าสนใจ มากมาย ไม่ได้ไปเที่ยวแทบจะไม่รู้
อะไรเลย เพราะสถานที่ท่องเที่ยว ที่คนไทยรู้จัก อันดับ 1 คงไม่พ้น บาหลี ตามมาด้วย บุโรพุทธโท ภูเขาไฟ โบรโม่ ทะเลสาบ อีเจี้ยน
นี่เป็นครั้งที่ 2 สำหรับอินโดนีเซีย พอมาแล้ว ประทับใจมากๆ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ผู้คน แม้ว่า ระบบการจัดการท่องเที่ยว ของเขา
และการจัดการ เทียบกับเมืองไทยแล้ว บ้านเราทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่น บุคลากรด้านการท่องเที่ยว ไม่มีความเป็นมืออาชีพเอาซะเลย
ทั้งๆที่อินโดนีเซีย มีความหลากหลาย มีทรัพยากรของสถานที่ท่องเที่ยว ดีกว่าไทยด้วยซ้ำ แต่การท่องเที่ยวบ้านเรา กลับล้ำหน้ากว่า
อินโดนีเซียมาก จะว่าดีที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ก็คงไม่ใช่เรื่องที่พูดเกินจริงมากนัก
- อาหารอินโดนีเซีย ราคาพอๆกับบ้านเรา ตามสถานที่ไม่ใช่ที่ท่องเที่ยว ก่วยเตี๋ยว ราคา ประมาณ 7,000 รุเปียะ ประมาณ 20 บาท
ถ้าเป็นตามแหล่งท่องเที่ยวก็ราวๆ 10,000 รูเปี๊ยะ ประมาณ 27 บาท คิดตามอัตรที่ จขกท. แลกมานะครับ 1 บาท ประมาณ 360 รูเปี๊ยะ
1 ดอลลาร์ เท่ากับ 11,500 รูเปรี๊ยะ บางที่ สูงถึง 11,900 จขกท แลกหลายครั้ง แต่ละเมืองไม่เท่ากัน ขอคิดอัตราต่ำๆไว้ก่อนที่ 1 ดอลลาร์
เท่ากับ 11,500 แต่ส่วนใหญ่หลายๆเมืองจะประมาณ 11,700 รูเปี๊ยะ
[img]http://f.ptcdn.info/993/023/000/1412082308-IMG1225res-o.jpg[/img
อาหารในรูปคือ bakso ก๋วยเต๋ยวลูกชิ้นเนื้อ เจอได้ทั่วไป ส่วน mie ayam คือ ก่วยเต๋ยวไก่ ayam แปลว่าไก่ mie คือเส้นกวยเต๋ยว
อาหาร padang พบได้ทั่วไปทั่วอินโดนีเซีย ขอบอกว่า อร่อยมาก ถูกปากคนไทยแน่นอน รสชาติเหมือนอาหารไทย อาหารปาดัง มาจากจังหวัด
ปาดัง เกาะสุมาตรา คงจะฮิต เปรียบได้กับ ส้มตำบ้านเรา ไปไหนก็เจอ มีทุกซอกทุกมุม
การสั่งอาหาร บางร้าน เราจะตักข้าวเอง ตักกับข้าวเอง อยากกินอะไรก็เดินไปตัก แล้วเอาไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ เขาจะคำนวณราคาเอง
อาหารจานนี้ของ จขกท . ราคา 14,000 ประมาณ 38 บาท ราคาพอกับบ้านเรา แต่ได้เยอะกว่า อิ่มแปล้เลย
ถ้าเป็นที่ ปาดัง ต้นกำเนิด ถ้าเราเดินทาง รถจอดกินข้าว จะมีอาหารยกมาให้เยอะมากๆ แล้วเราเลือกกิน จานที่เราชอบ
แล้วเขาจะคิดเงิน ตามจานที่เรากิน จขกท. ตอนแรก งงมาก ไม่รู้ว่าเขาจะสั่งแบบไหน ขอบอกว่าอร่อยมากๆ ทริปนี้อยู่ได้ด้วย
อาหารปาดังนี่แหล่ะ
ร้านอาหารปาดัง มองปั๊บจะรู้เลย เพราะเป็นเอกลักษณ์มาก เขาจะโชว์ อาหารเป็นจานๆ ซ้อนกัน หน้ากระจก
อาหารอินโดนีเซีย นั้นมีหลากหลายภูมิภาคมาก คล้ายๆบ้านเรา ต้องมีหลายๆเมนู ที่ถูกปาก คนไทยอย่างแน่นอน
และก็มีอาหารอีกประเภท มีผ้ากั้นไว้ หน้าร้าน มีรูป ปลา ไก่ เป็ด และซีฟุ๊ด พบได้ทั่วไปเช่นกัน นาซี อุดุ๊ก นาซี แปลว่า ข้าว
อุดุ๊ก ก็คือข้าวที่หุงด้วยกะทิ โรยด้วยหอมกระเทียมเจียว บนข้าว หอมอร่อยมาก กินกับ ปลา ไก่ นก เป้ด หรืออาหารทะเล ตามแต่เราจะ
สั่ง อาหารทะเล ราคาจะสูงกว่า วันนี้ สั่ง ไก่กะเป็ด มากิน อร่อยมากทีเดียว
ผิดพลาดประการใดขออภัย ด้วยนะครับ ใครมีข้อมูล เพิ่มเติม หรือว่าข้อมูล ไม่ถูกต้อง ช่วยมาเพิ่มเติม ให้ด้วยนะครับ
ขอเริ่มต้นเรื่องอาหารก่อนนะครับ
จริงๆอยากรีวิว ยาวๆ เพราะไปมาหลายเมืองมาก สวยๆทั้งนั้นเลย มีเมืองที่คนไทยไม่รู้จักหลายที่
แต่ด้วยภาระหน้าที่ การงานที่เวลาไม่เอื้ออำนวย เท่าไหร่ แต่จะพยายามครับ เคยรีวิวแล้วไม่จบ เลยเอาเท่าที่ทำได้แล้วกัน แก้ไขข้อความเมื่อ
ตั้งแต่เล่นพันทิปมา ผมคิดว่าการได้ขึ้นกระทู้ป๊อปบนแถบสีน้ำเงินๆด้านบน
เป็นความรู้สึกที่สุดยอด มันเหมือนเป็นเกียรติยศแก่ล็อคอิน แก่ประเทศชาติ
ที่จะมีคนมากมายหลายคน เข้ามาแวะเวียนชมกระทู้ของเรา
เท่าที่ผมเห็นทู้ป๊อปส่วนใหญ่มีอยู่ไม่กี่ประเภท พอจะวิเคราะห์ๆได้ก็เช่น
1. กระทู้ฮา สาระไม่มี แต่จะเป็นกระทู้ที่คนเข้ามาแล้วสงสัยว่า จขกท คิดได้เนอะ?? แล้วก็จะมีคนมาตอบแบบฮาไม่หยุดยันความเห็นสุดท้าย
2. กระทู้รีวิวสิ่งแปลกๆที่คนเค้าไม่เคยทำกัน เช่น ไปเที่ยวเกาหลีเหนือ กินมาม่าใส่ไอติมวานิลลา อะไรทำนองนี้ ที่จะช่วยสร้างเสริมให้คนเข้ามาอ่าน เริ่มรู้สึกอยากลองทำบ้าง
3. ดราม่าไม่ว่าจะดราม่าเกรด A+ หรือ เกรด F ก็มีมาแล้วทั้งนั้น ความเห็นส่วนใหญ่ก็จะเป็นปูเสื่อรอ กินเผือก ฯลฯ
4. กระทู้ยกย่องความดี น่าสรรเสริญ อะไรทำนองนี้ ฯลฯ
ผมเลยสงสัยว่าคนอื่นๆที่มีประสบการณ์ ต้องทำยังไงครับถึงได้ขึ้นทู้ป๊อป
แล้วคนธรรมดาๆอย่างผมและล็อคอินอื่นๆที่ยังไม่เคยขึ้นทู้ป๊อป คิดว่าต้องทำยังไงครับ
ผมสงสัย และเครียดมากเลย แก้ไขข้อความเมื่อ
“บรูไน” ประเทศที่น่าจะถือได้ว่าเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงของเรา
เพราะอยู่ห่างจากเมืองไทยไม่มาก คือใช้เวลาบินประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น
แต่เพราะสถานที่ท่องเที่ยวที่ดูจะคุ้นหูคนทั่วไปน้อยหน่อย อีกทั้งได้ชื่อว่าเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่
ความคิดในหัวผุดขึ้นมาเป็นอัตโนมัติถึงดินแดนเวิ้งๆว้างๆ อากาศร้อนระอุ
คงมีส่วนทำให้หลายๆคนรวมทั้งตัวผมมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย
และสามารถบอกตัวเองได้เต็มปากว่า “พลาด” เมื่อมีโอกาสได้ไปสัมผัสตัวตนของประเทศนี้จริงๆ
อาจดูเหมือนการได้พบเจอกับบรูไนครั้งนี้เพราะโชคช่วย และปุบปับพอควรเพราะรู้ล่วงหน้าเพียงแค่ 2 อาทิตย์
และมีเวลาเพียงแค่ 1 วันเต็ม แต่ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ตัวเองได้อย่างมากมาย
เพราะสิ่งที่เจอลบภาพความคิดเดิมๆออกไปแทบหมดสิ้น เพราะนอกจากไม่ได้ร้อนระอุอย่างที่คาดแล้ว
อากาศยังแทบไม่ต่างจากบ้านเราเลย แถมต้นไม้ใหญ่ริมถนน ป่าไม้แน่นทั้งที่ออกจากตัวเมืองไปไม่ไกล
สายลมท้องทะเลที่พัดผ่าน ถนนกว้างขวาง ไร้ปัญหาด้านการจราจร บ้านเมืองที่เงียบสงบ ชาวเมืองที่แสนจะเป็นมิตร
และที่สำคัญที่สุดมัสยิดสำคัญของเมืองทั้งสองแห่ง สวยจับจิต น่าตะลึง และควรค่าแก่การไปชมสักครั้งจริงๆ
ทำให้นึกถึงคำโฆษณาของการท่องเที่ยวบรูไนที่ว่า Brunei : A Kingdom of Unexpected Treasures
มันคือใช่เลย เพราะสำหรับผมที่นี่คือ “ดินแดนที่สวยเหนือความคาดหวัง” จริงๆ
ชื่อสินค้า: บรูไน
คะแนน:
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
ถามหน่อยครับคือถ้าต้องไปทำงานที่ Toulouse อาทิตย์นึงและกะว่าถ้าจะลาเที่ยวต่อ ตอนแรกดูไว้ว่าจะไป Bordeaux, Saint-Emilion กะ Barcelona แต่ติดตรงที่ต้องกลับมาขึ้นเครื่องกลับที่ Toulouse ดูแล้วมันเหมือนย้อยไปย้อนมา กลัวเสียเวลาบนรถเป็นวันๆ เลยอยากถามว่าระหว่าง Toulose ไป Bordeaux พอมีเมืองอะไรน่าเที่ยวมั้ยครับ
คือไม่รู้จักเมืองแถวนั้นเลย ตอนนี้ได้แพลนดีขึ้นมานิดนึงคือ ย้อนไปไม่มากเที่ยว Montpellier จิงๆลองดูอยู่ถ้ามีเวลาอยากไปถึง Avignon แต่มันต้องย้อนกลับมา Toulouse มันก็ดูย้อนไปย้อนมาเหมือนกัน
ถ้ามีเมืองไหนที่น่าสนใจอยู่ระหว่างทางไป Toulouse กับ Bordeaux ช่วยแนะนำทีครับจะได้ไม่ต้องขับรถจาก Toulouse ไปตะวันตก ย้อนมาตะวันออกแล้วกลับตะวันตกอีกเพื่อกลับ Toulouse อะครับ ขอบคุณครับ
- 07:17
- Unknown
- ข่าวท่องเที่ยว
- No comments
อยากเป็นเกษตรกรอย่างมีอิสระ มีความสุข พึ่งตนเองได้ ไม่ควรพลาดมางาน “เกษตรอิสระ” วันที่ 4 – 5 ตุลาคม ๒๕๕๗ ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตร ฯ ปทุมธานี พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดงานตลาดนัดเศรษฐกิจพอเพียง “เกษตรอิสระ” ระหว่างวันที่ 4 – 5 ตุลาคม ๒๕๕๗ เพื่อทำให้เกษตรกรทำเกษตรอย่างมีอิสระ ไร้ข้อจำกัด ด้วยการพึ่งตนเองและพึ่งพิงธรรมชาติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจกิจพอเพียง โดยการถ่ายทอดประสบการณ์ตรง ด้วยองค์ความรู้ ภูมิปัญญา ทักษะ ต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญทางด้านเกษตร ผ่านการปฏิบัติเอง เห็นผลสำเร็จเชิงประจักษ์ เช่น บ้านดินลูกรัง ไส้เดือนการเกษตร และเกษตรไม่กลัวแล้ง เป็นต้น ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตรงข้ามโรงพยาบาลการุญเวช ปทุมธานี (โรงพยาบาลนวนครเดิม) ถนนพหลโยธิน กม.36-37 (ฝั่งขวา) จ.ปทุมธานี เป็นเกษตรอย่างมีอิสระได้ด้วยการเข้าอบรมเรียนรู้ฟรี หลักสูตร “วิชาของแผ่นดิน” อาทิ เช่น “ไส้เดือนการเกษตร” โดย รศ.ดร. อานัฐ ตันโช อาจารย์ประจำภาควิชาทรัพยากรดินและสิ่งแวดล้อม คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ การเลี้ยงไส้เดือน ได้ปุ๋ย สร้างรายได้ ไม่ต้องพึ่งปุ๋ยเคมี “น้ำ ลม ชีวมวล คือพลังงาน” โดย อ.นที ศรีทอง นักประดิษฐ์พลังงานทดแทน เรียนรู้รูปแบบการนำพลังงานจากธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ในพื้นที่ อยู่ที่ไหนก็ทำได้ ลดค่าใช้จ่าย สร้างอาชีพ “เกษตรไม่กลัวแล้ง” โดย อ.ทอง ธรรมดา วิสาหกิจชุมชนเพชรพิมาย เผยรูปแบบการทำเกษตรฤดูแล้งให้เหมาะสมและสร้างรายได้ “บ้านดินลูกรัง” โดยคุณเดชา ฤทธิ์แดง กลุ่มรอยยิ้มบ้านดินสระแก้ว ดินลูกรังก็สร้างบ้านได้ “เทคนิคพืชและสัตว์ เพื่อพึ่งตนเอง” โดย คุณสุพจน์ โคมณี เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน จ.นครสวรรค์ ระบบเกษตรครบวงจรของเกษตรกรรายย่อย สร้างรายได้ ปลดหนี้สิน “บ้านไม้ไผ่” โดย คุณธนา ทิพย์เจริญ นักออกแบบและผู้ผลิตไม้ไผ่ นวัตกรรมสร้างบ้านด้วยไม้ไผ่ ลดค่าใช้จ่าย โดยการพึ่งพิงธรรมชาติ อาหารเป็นยา รศ.ดร. ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ เจ้าของตำนานผู้ตั้งชื่อ “ฟ้าทะลายโจร” เมื่อแรกนำเข้าเมืองไทย กินอาหารอย่างไรให้เป็นยา รักษาสุขภาพไม่ต้องพึ่งแผนปัจจุบัน พร้อมด้วยการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรียนฟรี 1 ชั่วโมงครึ่ง และยังได้ของกลับบ้านติดมือด้วย เช่น “ผ้าย้อมสีธรรมชาติ” และ “การทำแชมพูสดสระผม” โดย คุณสุพจน์ ศรีไสยเพชร เครือข่ายคนเคียงดิน จ.นครสวรรค์ การทำเสื้อผ้าย้อมจากเปลือกไม้ ใบไม้ สวมใส่สบายกาย และการทำแชมพูใช้เองจากวัสดุธรรมชาติ ปลอดภัย ลดค่าใช้จ่าย “ล้างจาน ล้างใจ” โดย คุณลัดดาวัลย์ จันทร์พรม เครือข่าย จ.ศรีสะเกษ การทำน้ำยาล้างจานปลอดภัย ล้างใจตนเอง เราทำเองได้ “จาก หนึ่ง เป็น ร้อย” โดยคุณบุญเฮียง บุตรจันทา เครือข่าย จ.ฉะเชิงเทรา (มูลนิธิวนเกษตรเพื่อชุมชน) เรียนรู้การขยายพันธุ์พืช เทคนิคใหม่ สร้างรายได้สร้างอาชีพ ชม ชิม ช้อป ของกิน ของใช้ จากระบบเกษตรอินทรีย์แท้ ๆ เครื่องมือการเกษตร พันธุ์ไม้นานาพรรณ ราคามิตรภาพ จากพี่น้องเครือข่ายพิพิธภัณฑ์เกษตร ฯ ทุกภาค ชมนิทรรศการ “บ้านดินในสวนรอยยิ้มของพ่อ” โดย คุณเดชา ฤทธิ์แดง จ.สระแก้ว เรียนรู้วิถีชีวิตบ้านดินเชิงเกษตรพึ่งตนเอง พัฒนาคนให้มีจิตสำนึกรู้จักคุณค่าในวิถีของตนเอง ไม่พึ่งพิงเทคโนโลยีมากเกินความจำเป็น และ รักแผ่นดินเกิด รักษ์ธรรมชาติ รักและเคารพทั้งตนเองและผู้อื่น และนิทรรศการ “ชุมชนพึ่งตนเอง” ด้านการย้อมผ้าใช้เอง ทำแชมพู น้ำยาล้างจาน ผลิตภัณฑ์จากแปลงเกษตร โดยเครือข่าย จ.นครสวรรค์ (เครือข่ายคนเคียงดิน) พร้อมทั้งสาธิตเชิงปฏิบัติการ “อาหารปลาสรรพสิ่ง” โดยคุณวันชัย พลขัน และคุณโยธิน ปะกิทัง “การสานตะกร้าจากสายรัดของ” โดยคุณพงษ์ทิพย์ จันทร์สน เครือข่าย จ.ชุมพร ติดต่อสำรองที่นั่งและโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-529-2212-13 0-2529-0885 หรือมือถือ 087-359-7171 086-901-4638 หรือคลิกดูรายละเอียดใน www.wisdomking.or.th และ facebook แฟนคลับพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ ฯ พร้อมชวนเพื่อน follow ในทวิตเตอร์และอินสตาแกรมกันได้ที่ wisdomkingfan หรือ Line : ID wisdomkingfan
- 07:01
- Unknown
- ข่าวท่องเที่ยว
- No comments
ฯพณฯ เจมส์ ไวส์ (ที่ 2 จากขวา) เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ให้เกียรติถ่ายภาพร่วมกับ นายบัญญัติ อธิยุตกุล (ซ้ายสุด) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เดอะ คอฟฟี่ คลับ (ประเทศไทย) จำกัด นางสาวสุภา ไชยสิทธิพร (ที่ 3 จากขวา) เจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย สายการบิน แควนตัส นางสาวเรเน โบว์แมน (ขวาสุด) ผู้อำนวยการบริหาร หอการค้าออสเตรเลีย-ไทย และ มร.ปีเตอร์ โอลิทนิส (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้โชคดีที่ได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัด เส้นทางกรุงเทพฯ-ออสเตรเลีย-กรุงเทพฯ จำนวน 2 ที่นั่ง จากสายการบิน แควนตัส ในงาน เดอะ คอฟฟี่ คลับ 2014 เอเอฟแอล แกรนด์ ไฟนอล แฟมิลี่ เดย์ (The Coffee Club 2014 AFL Grand Final Family Day) รอบชิงชนะเลิศ ถ่ายทอดสดจากประเทศออสเตรเลีย จัดโดยหอการค้าออสเตรเลีย-ไทย ณ โรงแรม รอยัล อคิด เชอราตัน ผู้สนใจการบริการของสายการบิน แควนตัส สามารถติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 02 632 6611 หรือคลิก http://www.qantas.com/ หรือติดต่อบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวใกล้บ้าน
- 06:45
- Unknown
- ข่าวท่องเที่ยว
- No comments
สมเด็จพระมหามุนีวงศ์.เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร.เป็นประธานในพิธีเจิมเครื่องบิน.จำนวน 2 ลำ.ของบริษัท.การบินไทย.จำกัด.(มหาชน).ได้แก่ เครื่องบินโบอิ้ง.787-8.ดรีมไลเนอร์ นามพระราชทาน.“จตุรพักต พิมาน” (CHATURAPHAKPHIMAN).และเครื่องบินโบอิ้งใ777-300ER.นามพระราชทาน “ศรีอัมพร”.(SRI-AMPHORN). โดยมี.พลโทอนันตพร กาญจนรัตน์.(ที่ 2.จากซ้าย)กรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย.นายรัฐพล ภักดีภูมิ (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการบริษัทฯ เรืออากาศโทเฉลิมพล.อินทรวงศ์.(ที่ 5 จากซ้าย) รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง ฝ่ายบริหาร และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมในพิธี ณ บริเวณลานจอดหน้าโรงซ่อมเครื่องบิน (Hangar) ฝ่ายช่าง.การบินไทย สุวรรณภูมิ ทั้งนี้.บริษัทฯได้ติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องบินทั้ง.2.ลำอย่างครบครัน.ทั้งในด้านอุปกรณ์ และระบบสาระบันเทิงบนเครื่องบิน.เพื่อให้ผู้โดยสารในทุกชั้นโดยสาร ได้รับความเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง. ปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินประจำฝูงบิน ทั้งหมด 93 ลำ.
- 06:29
- Unknown
- ข่าวท่องเที่ยว
- No comments
Hospitality Company Unveils Brand Direction Focused on New Outrigger Resorts and Hawaii Vacation Condos by Outrigger brands Outrigger founders Roy and Estelle Kelley opened their first hotel in the Hawaii resort destination of Waikiki in September 1947. Today, as Outrigger Enterprises Group celebrates its Founders Day, the company is excited to announce the launch of a dedicated beachfront resort brand -- Outrigger Resorts, which includes its existing world-class properties in Hawaii, Australia, Fiji, Guam, Thailand, Mauritius, and now the Maldives, as well as future resorts planned for China, Vietnam and elsewhere across Asia-Pacific and the Indian Ocean. Outrigger currently operates 15 full service resorts in seven countries with plans to open two to four additional Outrigger Resorts annually over the next decade. The World's Premier Beachfront Resort Brand "Our goal is to be known as the premier beachfront resort brand in the world," said David Carey, president and chief executive officer, Outrigger Enterprises Group. "I'm proud to be making this announcement today -- Outrigger's Founders Day -- because this refreshed brand strategy and vision was born from more than 67 years in the hospitality industry. We know beachfront destinations, and have the experience to do it better than anyone else. Our guests will be able to rediscover Outrigger with authentic localized experiences in iconic destinations, paired with unmatched hospitality. Outrigger is an exceptional experience where 'Local Culture Meets World-Class Hospitality.'" Set in spectacular locations on some of the world's most incredible beaches, each Outrigger Resorts property focuses on delivering culturally authentic guest experiences and signature amenities to include iconic beachfront bars, exceptional spas, and a premier Voyager 47 club lounge.All Outrigger Resorts are guided by the company's proprietary standard of hospitality, Ke 'Ano Wa'a, "The Outrigger Way." This unique approach to hospitality deepens the company's understanding of and appreciation for local host cultures. The Outrigger Way has been adapted globally at every property to embrace authentic cultural programs and amenities which underscore Outrigger's commitment to its guests and local communities, and the relationships between host, guest and place.Additional updates and amenities will be phased in at existing Outrigger Resorts over the next few years and become part of all future projects, including: * Iconic Beachfront Bars: Capitalizing on the brand's distinctive beach locations, Outrigger is committed to operating the most iconic beachfront bars in the world where you can hang out with the locals, toast old and new friends, sway to the beat of the local music scene, all while enjoying spectacular views. Duke's Waikiki at the Outrigger Waikiki Beach Resort in Hawaii, considered by many the most famous of all beachfront bars in the world, or the Sundowner Bar and Grill at the Outrigger on the Lagoon, Fiji, where the service is warm and friendly, are both inspirations for the iconic beachfront bar concept. * Exceptional Spas: Indulgent treatments that refresh and rejuvenate with indigenous ingredients and techniques fused with the world's finest spa products – all of this and more are part of the exceptional spa experiences already available at award-winning Bebe Spa at the Outrigger on the Lagoon, Fiji and Navasana Spa at the newly-opened Outrigger Mauritius Resort and Spa, both blueprints for more exceptional spas yet to come. * Voyager 47: A premier Voyager 47 club lounge with luxurious furnishings and spectacular views offering elevated guest amenities is planned for every Outrigger Resorts property. The number 47 is a nod to the year when company founders Roy and Estelle Kelley opened their first hotel in 1947. Today, guests can relax and unwind in soon-to-be rebranded club lounges at Outrigger Laguna Phuket Beach Resort in Thailand, Outrigger Mauritius Resort and Spa; and Outrigger Guam Resort, with more to come.New Marketing Campaign: Find Out. Find Outrigger Outrigger's newly focused brand vision also includes a refreshed corporate look and marketing campaign. An updated logo highlights the company's iconic Outrigger canoe, which evokes a sense of discovery and exploration. The new color palette includes ocean blues and tans and browns that speak to the pristine natural environment where Outrigger properties are located. Outrigger's new advertising and marketing campaign, "Find Out. Find Outrigger," prominently features Outrigger's gracious hosts from around the world along with vibrant destination photography that brings the unique stories of each Outrigger property to life. "With our brand revitalization, we are creating a solid foundation that will help fuel our future growth and build upon Outrigger's position in the hospitality industry," said Carey. "As Outrigger has expanded to nearly 11,000 rooms at more than 40 properties worldwide, we have continued to stay true to our roots and the family-run business ideals on which we were founded. The just announced acquisition of the Outrigger Konotta Maldives Resort project, the recent openings of Outrigger Laguna Phuket Beach Resort in Thailand and Outrigger Mauritius Resort and Spa, and the recently purchased Outrigger on the Lagoon, Fiji and Castaway Island, Fiji resorts all are part of the new standard that all future Outrigger Resorts will embody as we grow." Hawaii Vacation Condos by Outrigger With the launch of the Outrigger Resorts brand, the company's 15 resort condominium properties on Oahu, Maui, Kauai and Hawaii Island will now be marketed under a new brand, Hawaii Vacation Condos by Outrigger. Condo properties are comfortable vacation apartment or villa accommodations located in prime locations and are ideal for families and groups of friends traveling together who want a comfortable home base for exploring Hawaii's renowned beaches, pristine landscapes, and local attractions. Through its new strategy and framework, Outrigger will continue to demonstrate the entrepreneurial outlook and sound business practices that have driven the successful growth of the company for more than 67 years. Today, family-owned Outrigger Enterprises Group continues the legacy of its founders Roy Kelley, the "Father of Hawaii's Modern Tourism," and wife Estelle, with a global vision for hospitality-based innovation, effective partnerships, and a deep respect for culture, tradition and environmental sustainability.
สวัสดีค่ะ เราอยากขอรบกวนเพื่อนๆ ช่วยตรวจการบ้าน Road Trip ของเราหน่อยค่ะ
เราอยู่ กทม. บ้านพ่อแม่อยู่กำแพงเพชร เราวางแผนจะไปเที่ยวเชียงใหม่วันที่ 5- 10 ธ.ค. ตามนี้ค่า
ยังไงรบกวนแนะนำด้วยนะคะ ขอขอบคุณล่วงหน้าค่า
ปล. เราโหลดรูปภาพมาจาก ในเน็ต มาจากหลายเว็บไซต์ มาจาก pantip ก็มี เราขออนุญาติเจ้าของภาพไว้ ณ ที่นี้นะคะ เราไม่สามารถให้เครดิตได้ เพราะโหลดไว้จากหลายที่เลยจำไม่ได้เลยค่ะ ถ้าหากเจ้าของภาพไม่อนุญาติที่จะให้นำมาใช้ รบกวนแจ้งด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ แก้ไขข้อความเมื่อ
สวัสดีครับ เพื่อนท่องเที่ยวทุกท่าน
ผมได้รับเชิญให้ร่วมเป็นหนึ่งในนักรีวิวของโครงการ Thailand Boutique Awards 2014-2015 (TBA)
โดยมีโรงแรมที่เข้าร่วมในการประกวดโครงการนี้อยู่จำนวนมาก ซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 ที่มีการจัดงานนี้ขึ้น
มีบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เป็นแม่งาน และมี Sponsor ที่เข้าร่วมการสนับสนุนในครั้งนี้อีก 2 ที่
คือ สายการบิน Bangkok Airways และ รถเช่า Thai Rent A Car โดยผมรับผิดชอบทั้งหมด 5 โรงแรมที่เข้าร่วมในโครงการ
มาถึงโรงแรมที่ 5 โรงแรมสุดท้ายที่ผมได้รับผิดชอบในครั้งนี้ คือ... "วิลล่า มาร็อก รีสอร์ท (Villa Maroc Resort)"
ด้วยสไตล์อันโดดเด่น การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอารยธรรมโมร็อกโก บนทำเลที่พักริมหาดปราณบุรี
ทำให้ที่นี่เป็นที่พักในฝันของใครหลายๆคน ตามผมไปเปิดประสบการณ์การเป็นชาวโมร็อกโก
ในที่พักที่เต็มไปด้วยดีไซน์และสีสันแห่งนี้กันครับ ^^“Moroccan Style – Villa Maroc”
ปล. สำหรับ เพื่อนๆ ที่ต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามทาง message pantip หรือที่ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ปล2. สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรีวิวถ้า ถูกใจ ชอบใจ ขอกำลังใจคนทำรีวิว ด้วยนะครับ ^^
ปล3. รีวิวนี้ได้รับ SR คือ ที่พัก Villa Maroc Resort
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายภาพในทริปนี้
- Nikon D600
- Lens : Nikkor 14-24 f/2.8 , Nikkor 24-70 f/2.8
ชื่อสินค้า: villa maroc ,วิลล่า มาร็อก รีสอร์ท ,ที่พักปราณบุรี
คะแนน:
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
เหตุการณ์เกิดขึ้นตอนขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยา คือกำลังลงเรือแล้วยางที่กั้นเรือกระเด้งขึ้นมากระเเทรกกับขาเป็นแผลและเขียว .มันกระเด้งแรงอะไรขนาดนั้น เค้าขับเรือกระเเทรกเข้าไปอ่ะ ขับเบาไไม่ได้เหรอ เราว่ายนำ้ไม่เป้นนะ โดนก้อถือว่าไม่เยอะหรอกเเต่ถ้ามันกระเด็้นมาที่หน้าล่ะ คุณจะรับผิดชอบอเไรกับสงที่เสียไปอ่ะ วันนั้นก้อเชือกขาดฟาดที่ข้อเท้าผู้หญิงง หมอต้องให้พัก7วัน อีกวันก้อเห็นฝรั่งมาโวยวายเพราะเเขนเค้าหักเลยนะ เค้าใส่ที่ดามแขนมาหลังจากไปหาหมอนั่นล่ะ บริษัทก้อให้เบิกค่ารักษาจบมะ...เเต่เค้าต้องเจ็บนะว้อยยยย.....นี่ยัง อีกหลายครั้งนะ
ต่อจากกระทู้เก่านะครับต้องขอเปิดใหม่เพราะของเก่าตกไปไกลแล้วครับ
ข้อมูลสำหรับมาเลเซียhttp://pantip.com/topic/32587659สิงคโปร์
การเดินทางมายังสิงคโปร์ของผมนั้นใช้การนั่งรถบัสจากมะละกาข้ามฝั่งมาครับใช้เวลาราวๆ 4 ชม
ค่าตั๋วประมาณประมาณ 200 กว่าบาทแต่ที่นั่งเล็กนะครับจะมีรถอีกแบบที่
ที่นั่งกว้างกว่าราคาประมาณ 400 กว่าบาท สำหรับการผ่าน ตม ที่นี่จะมี 2 จุด
จุดแรกคืออกจากมาเลเซียอันนี้สบายๆครับ รถบัสจะจอดให้เราลง
จำรถให้ดีนะครับเพราะเราต้องเดินกลับไปขึ้นรถคันเดิมอีกทีหลังจากข้ามฝั่งมาก็จะถึง
ตม ขาเข้าของฝั่งสิงคโปร์ซึ่งรอบนี้ถ้าจำไม่ผิดจะต้องเอากระเป๋าลงมาด้วยครับ
ทำเอกสารเหมือนปกติแล้วก็กลับมาขึ้นรถคันเดิมครับแล้วรถบัสจะพาเรามาส่งที่ท่ารถ
หลังจากนั้นรถบัสจะมาส่งเราที่ท่ารถย่านเกลังจากท่ารถเราสามารถเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินได้
ครั้งแรกสำหรับการขึ้นรถไฟฟ้าที่นี่ ไม่งงครับ ง่ายกว่าที่ญี่ปุ่นเยอะเลย (แหงล่ะ)
เพราะจะมีสายการวิ่งอยู่ประมาณ 4-5 สี แต่ละสีจะมีจุดตัดของมันระบุไว้ชัดเจน
ซึ่งซื้อตั๋วแค่ครั้งเดียวแล้วนั่งยาวๆได้เลยครับ
สำหรับที่พัก ที่นี่ผมพักทั้งหมด 4 คืน ผมพัก 2 โฮสเทลครับอยากลองหลายๆบรรยากาศ
2 คืนแรกพักที่ Chinatown ที่พักชื่อ Pillow & Toast Heritage ขึ้นมาจากรถไฟใต้ดินปุ๊ปเดินอีกไม่ถึง 200 เมตร
สะดวกมากที่พักดี ราคาย่อมเยา พนักงานน่ารักมากกกกก (นิสัยนะฮะ) ช่วยเหลือดี คุยสนุก ราคาก็ไม่แพงครับ
ค่าที่พักตกประมาณ 700 กว่าบาทต่อคืน สำหรับเรื่องความสะอาดที่นี่ผ่านนะครับทั้งห้องน้ำและที่นอน
อาหารการกินแถวนี้ก็ราคาย่อมเยากว่าในเมืองพอสมควรแต่ก็ยังคงรักษามาตรฐานสิงคโปร์ไว้ได้ดี (คือก็ยังคงแพงอยู่ดี 555)
เนื่องจากอยู่ใกล้ ไชน่าทาวน์ ผมก็ได้ฝากท้องไว้ที่ไชน่าทาวน์หลายมื้ออยู่เหมือนกัน
ถึงจะแพงแต่ก็จานใหญ่อยู่นะครับเทียบกับแขนผมดู
อีก 2 คืนผมพักอยู่แถว Clarke Quay ใกล้แหล่งท่องราตรีที่ 5footway.inn project boat quay
ที่นี่ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย อยู่ที่คืนละ 900 กว่าบาท แต่ขอบอกว่าโคตรคุ้มค่าครับสำหรับที่นี่
เพราะที่นี่จะมีระเบียงสำหรับนั่งตากลมให้เราสามารถมานั่งกินดื่ม บรรยากาศริมน้ำนั่งมองยานอวกาศจากระยะไกลๆได้ครับ
ใช่ครับมันเห็นยานอวกาศจริงๆนะครับ
สำหรับละแวกนี้ค่าครองชีพจะสูงกว่าพอสมควรผมจึงต้องฝากท้องไว้กับ 7-11 ครับ
การท่องเที่ยวในสิงคโปร์นั้นแนะนำให้มาที่ Chinatown ก่อนเลยครับและไปที่ People park center
ตึกใหญ่มากป้ายชัดเจนหาไม่ยากครับหรือจะถามคนแถวนั้นก็ได้จากนั้นไปที่ชั้น 3 ครับจะมีร้านขายตั๋วในตำนาน
ชื่อ sea wheel สังเกตว่าจะมีคนเยอะๆครับ เพราะร้านอื่นแถวนั้นเงียบกันหมด 555 ร้านนี้มีตั๋วแทบทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวพึงจะมี
สำหรับการท่องเที่ยวในสิงคโปร์ตั้งแต่บัตร universal ยันตั๋วนั่งเรือเที่ยวรอบเมือง เป็นต้น ซึ่งตั๋วทุกอย่างที่นี่ถูกกว่าข้างนอกทั้งหมด
และถูกกว่าเยอะมากกกกกกก เพราะฉะนั้นก่อนจะไปเผลอเสียเงินราคาเต็มแบบผม แนะนำให้มาที่นี่ก่อนจะดีกว่าครับ T_T
สามารถวางแผนท่องเที่ยวจากที่นี่ได้ทั้งหมดเลย
การเดินทางท่องเที่ยวที่นี่ถ้าเอาแบบแน่นอนที่สุดก็คงจะเป็นรถไฟฟ้าครับแต่ราคาก็แอบแรงอยู่เหมือนกัน
ถ้าเทียบกับมาเลเซียที่เพิ่งจากมา (อาจจะเป็นเพราะตั๋วที่มาเลเซียถูกเกินไปก็เป็นได้ 555)
หากไม่ใช้รถไฟฟ้าก็ใช้รถเมล์ได้เหมือนกันครับครอบคลุมแทบจะทุกพื้นที่เหมือนกันแต่ผมเป็นประเภท
ไม่ถูกจริตกับรถเมล์สักเท่าไหร่เลยไม่ได้ใช้ครับ การเดินทางที่ผมใช้เยอะที่สุดที่นี่ก็คงจะเป็น
เท้าของผมนี่ล่ะครับเดินมันไปเรื่อยๆทั้งวัน 555 ไม่แนะนำสำหรับคนที่แพ้แสงอาทิตย์นะครับวิธีนี้ ร้อนมากกกก
ไฮไลท์การท่องเที่ยวที่สิงคโปร์Merlion !!
แน่นอนครับมาถึงนี่ถ้าไม่มาสร้างแลนด์มาร์คที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงนะครับ การเดินทางมาไม่ยากครับ
รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานี Raffle Place แต่ถ้าจะชิลแล้วมีเวลาแนะนำให้ลงที่ Clarke Quay
แล้วเดินเรียบแม่น้ำมาเรื่อยๆนะครับ ชมวิว
แล้วก็จะเจอกับ Merlion เองโดยอัตโนมัติยานอวกาศ !! Marina Bay Sand
อยู่ตรงข้ามกับ Merlion เลยครับจะเดินริมน้ำไปเรื่อยๆก็ได้ครับ ออกกำลังกาย
หรือจะนั่งเรือก็ได้นะครับ เรือสามารถนั่งทัวร์ได้ด้วย (ถ่ายจากบนเรือครับ)
ที่นี่เป็นห้างรวบรวมของแพงๆไว้มากมายแบรนเนมทั้งหลาย และก็ร้านชิวๆแบบไฮโซๆ
แนะนำว่ามาถึงแล้วก็มาเดินเอาบรรยากาศหน่อยก็ดีครับ ในตอนกลางคืนด้านหน้าจะมีการแสดงแสงสีเสียงอลังการมากครับ
ไม่แน่ใจว่าทุกคืนไหม แต่ผมไปดูมันตรงกับวันเสาร์พอดีครับ การแสดงมี 2 รอบครับ รู้สึกจะไม่เหมือนกันด้วย ฟรีครับ
แว้บแรกคิดว่าออโรร่า 555 (ปีหน้า เดือน มีค ผมจะไปล่าแสงเหนือรอติดตามด้วยนะครับ)
หน้าตาแบบนี้ไม่เรียกยานอวกาศจะให้เรียกอะไรครับ
Art Science Museum ที่อยู่ข้างๆเอาไว้ถ่ายรูปนะครับ แต่ถ้าใครเงินถึงจะเข้าไปชมนิทรรศการข้างในก็จัดเลย
The Helix สะพานหน้าตาสวยงาม ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง เอาไว้ถ่ายรูปเล่นนะครับGarden by the bay
พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงครับสำหรับที่นี่ โดยเฉพาะตอนกลางคืนแทบจะเรียกได้ว่า
หลุดออกไปอยู่อีกโลกนึงกันเลยทีเดียวครับ ที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวคือนี่ Super Tree
ต้นไม้ปลอมๆที่เจ๋งมากๆ ด้านบนมี skywalk ให้เดินชมวิว กับมีร้านอาหารด้านบนนะครับ
ค่าขึ้นไปเดิน skywalk นั้นไม่แพงแต่ผมแพ้ความสูงเลยไม่ได้ขึ้นไปเพราะทางเดินมันดูโล่งเกิ๊น 555
สำหรับร้านอาหารนี่ก็อยากขึ้นไปครับแต่แพงก็เลยอดอีก 555 แต่แค่อยู่ข้างล่างก็เยี่ยมมากๆแล้วล่ะครับ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมี Cloud Forestและ Flower Dome ตั้งอยู่สำหรับใครที่สนใจ
ซื้อบัตรจาก People park center มาเลยนะครับถูกกว่ามากสำหรับผม Flower dome
ก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนักครับถ้าชอบดอกไม้ของสวยของงามก็จัดเลยครับ
แต่ Cloud Forest นี่เยี่ยมมากเลยมีน้ำตก ต้นไม้เห็ด รา มอส มากมายอันนี้ชอบเป็นการส่วนตัวครับ 555Singapore flyer หนึ่งในที่เที่ยวยอดฮิตครับ แต่ก็ว่ากันตามตรงผมไม่ได้ขึ้นครับเลย no comment หะหะSentosa
อีกหนึ่ง It is a must ของประเทศนี้ครับการเดินทางมาไม่ยากนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานี Harbour Front
และเดินเข้ามาในห้างชื่อ VIVO CITY ภายในห้างจะมีรถไฟฟ้าเข้าไปด้านในค่าตั๋วประมาณ 4 เหรียญ
แต่ช้าก่อน !! ถ้าท่านต้องการลดรายจ่าย พร้อมกับสุขภาพที่ดี เราสามารถเดินข้ามฝั่งไปได้ครับเสียค่าเข้าเพียงแค่ 1 เหรียญเท่านั้น !!
ภายใน Sentosa นี่ก็จะมีสิ่งในน่าสนใจอยู่หลายสิ่งและแน่นอนว่าเบอร์ 1 เลยก็คือ...Universal Studio และแน่นอนว่า ผมไม่ได้เข้าครับ = =” จึง no comment
ก็แหม่ ไปคนเดียวจะมาเที่ยวอะไรแบบนี้มันก็ไม่ใช่อะนะคับ อย่าลืมซื้อตั๋วถูกจาก People park centerS.E.A. Aquarium สำหรับผู้ที่ชื่นชอบตู้ปลาขนาดมโหฬาร ไม่ควรพลาดที่นี่ด้วยประการทั้งปวงครับ
ผมเป็นคนชอบตูปลามากจึงอินกับ aquarium เป็นพิเศษ ซึ่งที่นี่มันยอดเยี่ยมมากจริงๆครับ
โดยเฉพาะตู้ใหญ่สุดของที่นี่เหมือนเป็นโรงหนังเลยครับให้เรานั่งดูได้แบบไม่มีเบื่อ พร้อมดนตรีประกอบสุดชิล ไม่ควรพลาดครับSentosa Beach ว่ากันตามตรงก็สู้ทะเลบ้านเราไม่ได้หรอกครับ แต่ก็มาถึงแล้วก็ต้องจัดเสียหน่อย
เพราะคงไม่บ่อยที่เราจะนั่งอยู่ริมชายหาดแล้วได้เห็นเรือสินค้ามากมายจอดลอยอยู่ใกล้ๆ!! จะมาจอดทำไมแถวนี้ = =”
นอกจากนี้ภายใน Sentosa นั้นยังมีจุดท่องเที่ยวอีกหลายจุดอย่างเช่น Merlion ตัวปลอมที่ให้เราขึ้นไปโผล่ที่ปากได้
สวนผีเสื้อ และอื่นๆอีกมาก ที่ผมไม่ได้เข้าไป
ปล.ภายในนี้รถไฟฟ้าขึ้นฟรีนะครับรวมถึงรถที่หน้าตาเหมือนรถวิ่งในมหาลัยก็ฟรีครับBuddha Tooth Relic Temple
เป็นวัดพุทธที่โด่งดังมากของที่นี่ผู้คนนิยมมาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตถ้ามีเวลาแวะมาได้ครับอยู่ติดกับ Chinatown
และไฮไลท์สุดท้ายของผมสำหรับทริปนี้ก็คือ... Walking Trails ที่ทางสิงคโปร์จัดเตรียมไว้ให้
สามารถเลือกเส้นทางได้จาก link นี้ครับ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.nparks.gov.sg/cms/index.php?option=com_content&view=article&id=20&Itemid=135
ซึ่งจะมีเส้นทางเดินสำรวจเกาะแห่งนี้ โดยจะมีเวลาบอกว่า แต่ละเส้นทางใช้เวลาประมาณเท่าไหร่
เหมาะกับคนกลุ่มไหนด้วยนะครับ แต่อยากจะบอกว่าเวลาที่บอกในเว็บนี่มันน่าจะสำหรับเดินอย่างเดียว
ไม่หยุด ไม่พัก ไม่เม้ามอย ไม่เหนื่อย ใดๆทั้งสิ้น เพราะที่ผมเดินก็เลยเวลาที่เขาบอกไว้เป็นชั่วโมงกันเลยทีเดียว
เส้นทางที่ผมเดิน คือ Labrador Nature & Coastal Walk ซึ่งก็ได้ชมวิวสวยๆงามๆมากมาย
Forest walk สุดสยิวครับเดินผ่านป่าเขาด้วยทางเดินสูงๆ
Handerson Wave สะพานไม้เก๋ไก๋สไลเดอร์ของที่นี่ครับ
บันไดน่ารักๆระหว่างทาง
ที่จริงแล้วยังมีอีกหลายที่แต่ด้วยเวลาจำกัดทำให้ต้องหาโอกาสมาแก้มือใหม่รอบหน้าครับ
ถ้าใครต้องการข้อมูลสอบถามมาได้เลยนะครับจะพยายามตอบให้ได้ทั้งหมดครับบทสรุปของการเดินทางคนเดียว
อยากจะบอกว่าการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวมันก็ไม่ได้น่ากลัว หรือเหงาหงอยอย่างที่หลายๆคนคิดนะครับ
ตลอดทั้งทริปนี้ผมได้เพื่อนใหม่มากมายตลอดทั้งการเดินทางเลย ตั้งแต่ปีนังก็ได้เพื่อนร่วมทางชาว Ireland
คนนี้แหละที่สอนให้ใช้ foursquare ในการหาของกิน ที่เที่ยว แล้วยังเดินทางมา Cameron ด้วยกันและแยกกันที่นี่
ได้เพื่อนชาว Canada UK จากที่นี่ เพื่อนที่ Canada นี่ก็เที่ยวด้วยกันยันมะละกา แล้วไปบังเอิญเจอกันอีกทีที่ Sentosa
โลกมันช่างแคบเหลือเกิน 555 และก็ได้เจอน้องคนไทยจากที่โฮสเทลที่สิงคโปร์ด้วยครับ
น้องคนนี้แหละที่แนะนำให้ผมรู้จักที่ซื้อตั๋วราคาถูก (เสียดายมากที่เจอกันช้าไปหน่อยเพราะผมโดนตั๋วแพงไปหลายใบแล้ว = =”)
ที่จริงก็ยังมีเพื่อนๆเฮฮาปาร์ตี้อีกมากมายตามโฮสเทลต่างๆที่ได้เจอะเจอ เพราะฉะนั้นผมกล้านั่งยัน ยืนยัน นอนยัน ครับ
ว่าการเดินทางคนเดียวไม่เหงาแน่นอนครับ กลับกันเราจะได้เพื่อนใหม่มากมาย ได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาติพันธุ์อื่นๆอีกด้วย
ฉะนั้นอย่ากลัวที่จะต้องเดินทางคนเดียวครับ แล้วคุณจะได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆแบบที่ผมได้เจอครับ
สุดท้ายผมขออนุญาตฝากเพจการเดินทางของผมด้วยนะครับ เพจนี้จะแชร์ทั้งเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยว
และการเดินทางในชีวิตเพื่อไปสู่จุดหมายในชีวิตของผมครับ ขอบคุณครับhttps://www.facebook.com/duckchronicle
ปล.ต้นปีหน้าผมจะไปล่าแสงเหนือที่ Iceland รอติดตามชมกันด้วยนะครับ ถึงจะอีกนานก็เถอะ 555
ชื่อสินค้า: สิงคโปร์
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)