วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หุ หุ งงล่ะสิคะ ในหนึ่งทริปจะมีประทับใจมั่งไม่ประทับใจมั่งได้ไง

จริง ๆ เรื่องมันย๊าวยาว มีหลายสายการบินมาเอี่ยว เรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ อิฉันก็ยังไม่แน่ใจว่าควรจะสรุปว่าอิฉันซวยเอง ควรลืม ๆ ไปซะ
หรือควรจะเม้งแตก (กับใคร)

Executive Summary:
เรื่องสรุป ๆ "เทียบเคียง"ได้ประมาณว่าอิฉัน (ผู้ซึ่งไม่ค่อยมีตังค์นักหรอก) สั่งซื้อรถเฟอรารี่ เพื่อต้องการไปธุระสำคัญ ณ ที่แห่งนึง
จ่ายเงินเรียบร้อย เซลส์บอกจะจัดหาให้ แต่ปรากฎว่า เวลาจัดหาให้ดันให้รถกระป๋องสุดโทรมมาคันนึง
แล้วบอกว่าก็เฟอรารี่ไม่มีอ้ะ จองให้ผิด แต่อิฉันจำเป็นต้องขับไปธุระละ ก็เลยจำใจขับไป
เสร็จธุระกลับมาบ่นกับคนขายเฟอรารี่ ว่ารถกระป๋อง มร่างห่วย จะชดเชยไรให้ได้มั่ง
คนขายเฟอรารี่เลยชดเชยบอกว่าจะส่งพวงมาลัยเฟอรารี่มาอันนึง กับช็อคโกแลตเฟอเรโร่ 1 อัน
อิฉันก็โวยไปว่า ให้พวงมาลัยมา ตรูก็ทำไรไม่ได้ แล้วอีเฟอเรโร่น่ะ ตรูไม่ได้ขอเลย
แล้วถ้าอยากให้จริง ที่อยู่จัดส่งอะไร เมิงก็ไม่เห็นขอไปเลยนะ
คนขายเฟอรารี่เลยเงียบฉี่ ไม่หือไม่อือตอบไรกลับมาเลย

สรุป ตรูอดหมดทุกสิ่งอัน อืมมมมมมม...


เรื่องข้างบนคือบทสรุป (แบบมั่ว ๆ)
จริงๆ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเฟอรารี่ และเฟอเรโร่เลยซักนิด เม่าหอยทาก


เรื่องมันเกี่ยวกับสายการบินหลาย ๆ สายค่ะ


เมื่อเมษา อิฉันและสามีไปเที่ยวนิวซีแลนด์ เนื่องจากจะฉลองครบรอบแต่งงาน 10 ปี
เราจึงเหิมเกริมควักกระเป๋าบาง ๆ ของเราดังหนึบ เพื่อที่จะบินเริ่ด พักเริ่ด ทุกอย่างต้องหรูฟู่สะดวกสบายน่าจดจำ

ปกติอิฉันกะอาเฮียเที่ยวปีละ 2 ครั้งค่ะ ก็ถือว่าไม่มากไม่น้อยเนอะ แต่เรามักจะบินชั้นประหยัดกัน
(นอกจากใกล้ ๆ อย่างฮ่องกง)  มีครั้งนี้แหละที่ลงทุนควักกระเป๋า คิดว่าแค่ครั้งหนึ่งในชีวิต ลองไปนั่งกระทบไหล่เศรษฐีกันบ้าง
และตั้งหน้าตั้งตารอทริปนี้ใจจดใจจ่อ


เราจองเอมิเรตต์ค่ะ  เพราะเท่าที่ดูรีวิว  Business class มา ของเอมิเรตต์ดูดีมาก ทั้งเล้าจน์ ที่นั่งบนเครื่องและการบริการ
แต่จากกรุงเทพ ไป Christchurch เอมิเรตต์เค้าเป็นพันธมิตรกะแควนตัส ขาไปเค้าให้บินแควนตัส BKK-Sydney-Christchurch
แต่ขากลับถึงได้บินเอมิเรตต์ Christchurch - Sydney-BKK  เราเซิร์ชดูรีวิว  Business class ของแควนตัสก็ไม่ขี้เหร่ รับได้
จึงตกลงจองตั๋วไป

เรานั่งฝันหวานกันเลยทีเดียว  บิน Business class  แบบบินระยะยาวครั้งหนึ่งในชีวิต


ขาไป BKK-Sydney-Christchurch  เราบินแควนตัส

เราไปนั่งเล้าจน์เอมิเรตต์  เริ่ดมากฮ่ะ น่าตื่นตาตื่นใจ บริการก็ดี๊ดี
ถึงเวลาขึ้นเครื่อง อาหารดี๊ดี บริการก็ดี๊ดี สมกับเป็นชั้น Business ให้ความรู้สึกที่ต่างจากการบริการของอีโค่นะคะ
ที่เราซื้อชั้น Business เพื่อต้องการการบริการอย่างนี้แหละ  (แควนตัสมีชุดนอนให้ด้วย แห่ะ แห่ะ)

และแล้วความซวยก็บังเกิด  เครื่องลงซิดนี่ไม่ได้ หมอกลงจัด เครื่องต้องไปลงจอดที่อะดิเลด ชั่วโมงกว่า ๆ ก่อนที่จะบินกลับซิดนี่
ระยะเวลาไม่นาน แต่ก็นานพอที่จะทำให้เราตกเครื่องที่ต่อไป Christchurch

แต่บริการของแควนตัสเค้าดีค่ะ มีป้ายมารอรับที่ซิดนี่ ขอโทษขอโพย ให้คูปองอาหาร และบอกเดี๋ยวจะหาไฟลท์ถัดไปให้

เราก็รอไปอีก 5 ชั่วโมง โอเคไม่เป็นไร เรื่องมันเลี่ยงไม่ได้ไม่ใช่ความผิดใคร
เราก็นั่ง ๆ นอน ๆ เลื้อยอยู่ในเล้าจน์ของแควนตัส (ที่แน่นมากที่ซิดนี่ คนล้นหลามสุด ๆ แทบหาที่นั่งไม่ได้)  
จนถึงเวลาบินก็เดินทางต่อได้ไม่มีปัญหา เครื่องแควนตัสไฟลท์นี้ ที่นั่งเป็นแบบเก่า เอียงได้นิดเดียว นอนราบไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร บินแป๊บเดียว
การบริการดีมากเหมือนเดิม



ไปถึงนิวซีแลนด์ เราก็ตะแล๊ดแต๊ดแต๋ เที่ยวรอบเกาะใต้อย่างมีความสุขซะเกือบ 2 อาทิตย์


ถึงวันกลับ มาแล้วไฟล์ทที่เรารอคอย ชั้น Business ของเอมิเรตต์ บินระยะยาว เม่าเริงร่า

มาถึงเคาน์เตอร์ปุ๊บ คุณแอร์กราวน์หลังจากได้เช็คบุ๊คกิ้งอิฉัน ก็หน้านิ่วคิ้วขมวด
แล้วบอกว่า ไม่มีนี่ ไม่มีที่นั่งที่จองไว้   เม่าสงสัย
และไม่พบว่าอิฉันและคุณสามีเข้าประเทศมาแล้ว  นางมึน ๆ และถามว่า พวกเราเข้าประเทศมายังไง

เอิ่มมมม.. ตรูแอบดำน้ำมามั้ง..  เม่าโกรธ


อ้าว.. ชิหัยแล้วมั๊ยคะ  นางพยามเช็คโน่นนี่นั่น ใช้เวลา 15 นาที ก็พบว่า มันเกิดจากการที่แควนตัสเปลี่ยนตั๋ว
แต่ไม่รีรูทให้ใหม่หรืออะไรประมาณนี้  ทำให้ประวัติเราขึ้น No show ไฟลท์ขากลับเลยโดน Cancel ไปฉิบ


แต่ยังไงซะนางจะจองที่นั่งให้ใหม่ ไม่มีปัญหา แล้วก็เคาะคอมต่อกแต่ก ๆ ไป

อิฉันกะคุณสามีก็แอบคุยกันว่า หูย.. ถ้าไม่ได้นั่งด้วยกันก็เซ็งเลยเนอะ มาจองที่นั่งกะทันหันขนาดนี้


นางเคาะต่อกแต่ก ๆ และหน้าเซียวลงทุกที และหันมาบอกว่า ที่นั่งระหว่าง Sydney- BKK  Fully booked ฮ่ะ



มร่างเอ๊ยยย..  ซวยกว่าโดนแยกที่นั่งซะอีก


นางให้อิฉันและคุณสามีไปหากาแฟนั่งกินกันก่อน นางจะรีบหาวิธีแก้ปัญหาให้ (ทั้งที่เรารีบมาเพื่อที่จะได้ enjoy เล้านจน์ของเอมิเรตต์นะคะ
แต่ต้องมานั่งซื้อกาแฟสนามบินกินกันเอง)  โอเคไม่เป็นไร ก็ร๊อรอรอ ผ่านไป 20 นาที

Duty manager เดินมาบอกว่า เสียใจด้วย ไม่มีตั๋วขา Sydney- BKK ให้กลับ  ทางที่เราเสนอได้คือ

1.  Down grade ลงไปนั่งอีโค่  (เอิ่มมมม..  คำว่า down grade ที่นั่ง อิฉันแทบไม่เคยได้ยินใครเค้าคุยกัน นางช่างกล้านะคะ)

กับอีกทางคือ

บิน Business Class ของสายการบินแห่งชาติ ๆ นึงที่มีชื่อเสียงว่าแอร์ส่วนใหญ่สวยเริ่ดเชิ่ดหยิ่ง การบริการแบบรักฝรั่งเท่าฟ้า
พวกเราช็อคฮ่ะ เพราะถ้าเป็นสายการบินนี้ พวกเราจะไม่ซื้อตั๋วชั้น Business แน่ เพราะที่นั่ง เล้าจน์ การบริการไม่ได้อยู่ในระดับที่พวกเราต้องการ

อิฉันไม่มีอคติใด ๆ นะคะ ใช้บริการของสายการบินนี้อยู่เป็นระยะ ๆ เคยเห็นคนบ่นก่นด่าแอร์ของสายการบินนี้ อิฉันก็ว่ามันเกินไปนะ
เพราะการบริการอยู่ในระดับโอเค อิฉันใช้มาไม่มีปัญหาการโดนเชิดใส่ หรือพบเจอการบริการไม่ดีใด ๆ เคยเข้ามาแก้ตัวแทนตามกระทู้ต่าง ๆ อยู่บ้าง


แต่ไม่ใช่กับทริปนี้ค่ะ อิฉันคาดหวังการบริการระดับดีเลิศสมกับที่บิน Business  ไม่ได้ต้องการแค่ระดับโอเค ไม่มีข้อผิดพลาด


แต่ไงซะ มันมีทางเลือกแค่ 2 ทางเลือกนี้เท่านั้น ทางเลือกอื่น จะเป็นการบินวันอื่นไปเลย ซึ่งอิฉันไม่สามารถ เราต้องรีบกลับมาทำงาน


เราเลยต้องยอมบิน Business class ของสายการบินแห่งชาติ ๆ หนึ่งกลับ


โดยต้องรอต่อไปจากไฟลท์เอมิเรตต์ที่เราควรจะได้กลับ โดยรอต่อไปอีก 3 ชั่วโมงค่ะ  เม่าเหม่อ



และได้แต่คาดหวังว่า การบริการและที่นั่งบนเครื่องจะดีพอสมควร ระดับน้องๆ เอมิเรตต์ที่อยากนั่ง (และเสียตังค์มาเพื่อมัน)


แต่สุดท้าย ฝันสลายค่ะ

ระหว่าง Christchurch- Sydney เราได้บินเอมิเรตต์สมใจ ทุกอย่างดีงามตามต้องการ

แต่พอมาถึงไฟลท์ Sydney -BKK ของสายการบินแห่งชาติ ๆ หนึ่ง พวกนางรวมพลังกันสวยเริ่ดเชิ่ดหยิ่งกันบนไฟลท์นี้ อาจจะอยู่ในระดับโอเคที่อิฉันพูดถึงนะคะ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับการบริการของชั้น Business ทั้งแควนตัสและเอมิเรตต์ที่ได้นั่งมา มันต่างกันฟ้ากับเหวค่ะ

ตลอดไฟลท์ อิฉันได้ดื่มน้ำเปล่าที่พวกนางเวียนมาเติมให้  เอาล่ะ อิฉันอาจจะผิดที่ผลอยหลับช่วงที่นางเริ่มเสริฟอาหาร แต่อิฉันตื่นมาระหว่างที่นางกำลังเสริฟแถวหลังๆ  และลุกขึ้นมาเมียงมอง จริงๆ ไม่หิวนะคะ แต่สงสัยว่าแอร์ไม่คิดจะถามอิฉันเลยหรือ ว่าอยากกินอะไรมั้ย เดินผ่านไปมาตั้งหลายรอบ คือทำเหมือนว่าก็เดินผ่านไปแล้วอ่ะ หมดสิทธิ์ได้รับอาหารแล้วนะ แล้วพวกนางมาถามเป็นรายคนตอนเครื่องขึ้นทำไมฟระว่าจะรับอะไร ซึ่งอิฉันก็สั่งอาหารไปแล้ว

อ่ะ โอเค เรื่องอาหาร ไม่เป็นไร  

เรื่องที่นั่ง  อิฉันคาดหวังที่นั่งแบบปรับราบนอนสบ๊าย ตกแต่งหรูหรา มีช่องเก็บของเยอะแยะของเอมิเรตต์ แต่สิ่งที่เจอคือที่นั่งที่ราบได้จริง แต่มันเอียงเว้ยเฮ้ย มันไม่ 180 องศา นอนแล้วไหลลงตรงเท้าฮ่ะ ที่นั่งนั่งไม่สบายนะคะ ที่ได้นั่งมา 3 สายการบินในทริปนี้ ของอันนี้ไม่สบายที่สุดเลย  ที่นั่งของคุณสามีไม่มีแม้แต่ช่องเก็บของอะไรเลย เพราะนั่งตรง exit ไม่มีกระเป๋าด้านหน้า

มีอีกเรื่อง คืออิฉันติดใจชุดนอนของแควนตัสค่ะ ใส่นอนบนเครื่องมันสบ๊ายสบาย เลยเหิมเกริม แอบถามคุณแอร์ ว่าไม่มีเหรอ อยากได้จัง
คุณแอร์ตอบเชิ่ด ๆ ฮ่ะ ว่า "ชุดนอนมีค่ะ มีให้แต่บินชั้นหนึ่งเท่านั้นคะ่" เอิ่มมมม...  จ้ะ..  ไม่มีสิทธิ์สินะ  ไม่เป็นไร..  เม่าตกอับ


แต่เรื่องที่อิฉันไม่แฮปปี้สุด ๆ กับสายการบินนี้คือ ความใส่ใจเรื่องความปลอดภัยต่ำเหลือเกิน
ที่นั่งอิฉัน อยู่ตรง Exit พอดี จึงไม่มีจอทีวีด้านหน้า เวลาที่เค้ามาแสดงวิธีการปฏิบัติด้านความปลอดภัย เราต้องดูจากจอขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง
ของที่นี่เป็นแบบ Screen ต้องดึงลงมาค่ะ แต่ช่วงเวลาฉาย พวกนางไม่ดึงให้ค่ะ ดังนั้น คนที่ไม่มีจอ PTV ด้านหน้าก็ไม่ได้ดู
ก็รู้นะคะ ว่ามันก็เหมือน ๆ กะทุกสายการบินนั่นแหละ เคยดูกันมาตั้งไม่รู้กี่รอบแล้ว
แต่มันเหมาะสมมั้ยน่ะ ที่จะไม่มีให้ดู  มันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีใช่มั้ย
ถ้าเป็นคนไม่เคยเดินทาง จะทำอย่างไร


อ้ะ.. สุดท้าย ก็ถึงที่หมายเหมือนกัน เรากลับมาถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ



แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น  อิฉันกะสามีตัดสินใจ complain ไปที่ Customer Service ของเอมิเรตต์
เล่าเรื่องทุกสิ่งอัน เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่แฟร์ เราสั่งซื้อของที่เราเลือกมาอย่างดีแล้ว เราต้องการของจากห้าง แต่เอมิเรตต์จัดหาของตลาดนัดมาให้
เป็นความผิดของ ๆ ตลาดนัดมั๊ย อิฉันว่าไม่ใช่  มันอยู่ที่คนขายที่ทำผิดพลาด เอาของคุณภาพต่ำมาให้เรา ซึ่งมันดันเป็นของที่คืนไม่ได้ซะด้วย

ดังนั้น เอมิเรตต์น่าจะชดเชยอะไรให้ได้บ้าง เพราะเราไม่ได้ของที่เราต้องการ เราไม่ได้ต้องการแค่ถึงที่หมาย แต่เราต้องการการบริการที่ดีที่นั่งที่ดี
แต่เราไม่ได้ เอมิเรตต์จัดหาของด้อยคุณภาพมาให้

คุณสามีก็เขียนบ่น ๆ ไปว่านอกจากครั้งนี้แล้ว เอมิเรตต์เคยทำเราเซ็งมาหนนึง เมื่อปีที่แล้วที่เราไปสเปน แล้วส่งกระเป๋ามาช้า มันไม่มากับเครื่องด้วย ต้องรอไปอีกหลายชั่วโมง เราเจอเรื่องแย่ ๆ  กับเอมิเรตต์มาแล้ว ดันมาเจออีกนะนี่

เราได้คำตอบจากเอมิเรตต์ ขอโทษ บลา ๆ ๆ  แล้วเสนอชดเชยให้ค่ากระเป๋าช้าเมื่อปีที่แล้วคนละ 50 USD  (เอิ่มมมม จริงๆ ไม่ได้บอกเรื่องนี้ เพราะต้องการค่าชดเชยเลย) และเสนอชดเชยสำหรับทริปนี้เป็น Mileage คนละ 20,000 ไมล์  

ซึ่งอิฉันก็งุงงงเหลือเกินถึงความจริงใจในการชดเชย เพราะไม่มีการถามเลขบัญชีหรือวิธีการโอนเงินนะคะ และอี Mileage สองหมื่นไมล์นั่นน่ะ แทบทำอะไรไม่ได้เลย ต้องบินเพิ่ม ต้องสะสมเพิ่มอีกเพียบ ถึงจะนำไปซื้อตั๋ว หรือ Upgrade  ที่นั่งได้  
ดังนั้น เหมือนเอมิเรตต์ Offer มางั้น ๆ เพราะมันเอาไปทำอะไรไม่ได้  เหมือนที่อิฉันสรุปด้านบนล่ะค่ะ ว่าคนขายเฟอรารี่มันตบหัวอิฉันด้วยพวงมาลัยเฟอรารี่ เพราะอิฉันเอาไปทำอะไรไม่ได้

คุณสามีอิฉันจึงตอบกลับไป ว่าเห็นที่เสนอมาแล้ว ไอ้ 50 USD นั่น ก็ขอขอบคุณ ทั้งที่จริง ๆ ไม่ได้ขอ
แต่ไอ้ที่เสนอ mileage มานั้น เหมือนโดนดูถูกเลย


หลังจากนั้น ขณะนี้ผ่านไปเกือบ 3 อาทิตย์ เราก็ไม่ได้ยินอะไรใด ๆ จากเอมิเรตต์อีกเลย

ฮ่วยยยย..   เม่าบาดเจ็บ

เรื่องเล่า Business class ก็คงจบเพียงแค่นี้ น่าเสียใจน่าเสียดายค่ะ เพราะอิฉันคาดหวังไว้สูงไป สำหรับการบริการความรับผิดชอบต่าง ๆ ของสายการบิน

"เมื่อเราเลือกซื้อที่นั่ง Business class สิ่งที่เราซื้อไม่ได้เป็นเพียงแค่ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยเท่านั้น แต่รวมถึงคุณภาพที่นั่ง เล้าจน์อย่างดี และการบริการที่เยี่ยมยอด การซื้อในครั้งนี้ เอมิเรตต์ทำอิฉันอย่างเจ็บแสบ จัดหาของที่เราต้องการมาให้ไม่ได้ ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย และเลือกที่จะเงียบหาย น่าผิดหวังมากค่ะ"

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศนียบัตรชนะเลิศ การบริการยอดเยี่ยม Tripadvisor.com

Sample Text

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

VartikaAdventure Kuiburi

VartikaAdventure Kuiburi

VartKa Kuiburi

VartKa Kuiburi

Facebook Vartika Adventure Retreatic Resort

Facebook Vartika Resovilla Kuiburi

Popular Posts