ก้า อรินธรณ์ ตะลุยไปกับ VIGO KING OF OFFROAD ศรีสะเกษ – เสียมเรียบ กัมพูชา

1
ก้า อรินธรณ์ เริ่มต้นออกเดินทางไปกับ คาราวาน Toyota Vigo King Of Offroad
ทริป ศรีสะเกษ มุ่งหน้าเมืองเสียมเรียบ วันแรก มุ่งหน้าสู่ ผามออีแดง เพื่อชมพื้นที่ประวัติศาสตร์


ชมภาพแกะสลัก อายุกว่า 1000 ปี จากผามอดีแดง ที่เชื่อกันว่า ช่างแกะสลัก สลักเพื่อซ้อมมือ
ก่อนไปสลักหินบนปราสาทหินเขาพระวิหาร ตั้งอยู่บริเวณชะง่อนหิน ใต้หน้าผามออีแดง เป็น Unseen Thailand ที่น่าสนใจมากๆ



2
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ในเวลาเพียงห้าวินาทีเท่านั้น  ข้อมูลทุกอย่าง ที่บรรจุอยู่ในระบบดิจิตอล
ของมือถือสมาร์ทโฟนคู่ใจเครื่องนี้ ก็สูญสิ้น มลายหายไปกับเหตุการณ์
ที่มือถือปลิวหลุดมือ ลอยละล่องไปตกบนถนนบนเส้นทาง ศรีสะเกษ ช่องสะงำ

งานนี้ ก้า อรินธรณ์ ถึงกับอึ้งไปครึ่งวัน แบบต้องไว้อาลัย ทำใจกันเป็นวัน นอนอึ้งอยู่ว่า จะทำอย่างไร

รวมทั้งต้องควานหากล้องใหม่ เพื่อมารายงานเหตุการณ์เส้นทางไปเสียบเรียบ โอ้ววว..เศร้าจริงๆ คร๊าบบเพื่อนๆ  
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ยังไม่รู้ เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่ คืนนี้ขอข่มตาหลับไปก่อน

เรื่องของพรุ่งนี้ ให้พรุ่งนี้เป็นคนจัดการเรื่องของวันนี้ เราคงต้องจัดการบาดแผลในใจกันเอาเอง


3
ใช้กล้องสำรองที่เตรียมมา ถ่ายภาพปราสาทเขาพระวิหาร เมื่อมองจากผามออีแดง
อ.กันทรลักษณ์ ศรีสะเกษ ช่วงนี้ยังไม่อนุญาติให้เดินทางเข้าไป ชมปราสาทในระยะใกล้
ก็ได้แต่ขอมองจากกล้องส่องทางไกล ให้เห็นตำแหน่งที่ตั้งเท่านั้นครับ


4
หลังพยายามทำใจ(ยังไม่ได้) กับมือถือ ที่เสียหาย ก้า อรินธรณ์ ก็กลับเข้าสู่เส้นทางจากปราสาทเขาพระวิหาร
มุ่งหน้าสู่ เขตรักษาพันธุ์สัตวป่า ห้วยศาลา อ.ภูสิงห์ ด้วย Toyota Vigo แบบเกียร์ธรรมดา (แต่ไร้เครื่องมือสื่อสารใดๆ)
มีก็แต่ วิทยุสื่อสารในคาราวานเพียงเครื่องเดียว


เส้นทางเป็นเส้นทางรอง สลับทางหลักขรุขระสุดๆ เพราะกำลังขยายถนน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า
หลังจากแวะทานอาหารกลางวันที่อ่างเก็บน้ำแล้ว จะพาไปอีกเส้นทาง
ย้อนรอยเส้นทาง ที่เขมรแดงเคยใช้เวลาลำเลียงพลข้ามแดน แย่กว่าเส้นทางนี้อีก

งานนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ มาช่วยดูแลเส้นทาง และให้ความสะดวก (ในป่า) เท่าที่จะเป็นไปได้
แวะเติมพลังที่หาดสำราญ อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา งานนี้ ก้า อรินธรณ์ มีพระเอกนักแข่ง พีท ทองเจือ และทีมงาน
มาช่วยดูแล ความปลอดภัยในเส้นทางออฟโรด และฝึกสอนการขับ ลองดูนะคร๊าบบบว่าจะรอดหรือไม่รอด



5
ขับตะลุยต่อไปในเส้นทางลำลอง ที่เป็นทางฝุ่นขรุขระ เพื่อไป ทำกิจกรรม CSR เพื่อสังคม เป็นตัวแทนโตโยต้า
มอบแท็งก์น้ำ เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ และวิทยุสื่อสาร ให้กับเขตรักษาพันธุ์สัตวป่า ห้วยศาลา อ.ภูสิงห์
ณ หน่วยพิทักษ์ป่า ไพรพัฒนา เพื่อใช้ในการป้องกันการตัดไม้



เขตนี้นับเป็นแหล่งสำคัญของป่าไม้พะยูง ซึ่งนับเป็นไม้เนื้อแข็งมีค่า ที่มักถูกลักลอบตัดกันในเวลากลางคืน
เพราะเป็นไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ด้วยความเชื่อว่าเป็นไม้มงคล ช่างจะนำเอาไม้พะยูงไปแกะสลักรูปเทพเจ้า
และการที่เนื้อไม้มีลวดลายสวยงาม จึงนิยมนำไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เพื่อส่งขายต่อไปในประเทศจีน
ดังนั้นเส้นทางนี้ จึงถือเป็นเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ใช้ลาดตระเวน เพื่อป้องกันการตัดไม้ และจะเป็นจุดเริ่มต้นของการขับรถย้อนรอยเส้นทางป่า
ที่ทหารเขมรแดงเคยใช้ในการลำเลียงเสบียง และอาวุธ ผ่านช่องสะงำ คร๊าบบ



6
ออกเดินทาง เข้าไปในเขตที่เคยเป็นเส้นทางลำเลียงพล ย้อนรอยเส้นทางที่เขมรแดง เคยใช้ในการการทำสงคราม ในสมัยก่อน
ก้า อรินธรณ์ ใช้รถ VIGO 4W ขับเคลื่อนสี่ล้อ แบบเกียรธรรมดาเดิมๆ โช๊คเดิมๆ ล้อเดิมๆ
ที่มาจากโรงงานไม่ได้มีการแต่งออฟชั่นใดๆ เพิ่ม เพื่อลองไต่ขึ้นไปในเส้นทางวิบาก ของหน่วยพิทักษ์ไพรพัฒนา
สภาพถนนเป็นเส้นทาง หินที่ความชันประมาณ 30 –45 องศา
สารภาพตามตรงเลยครับว่า ไม่ได้มีอาการหัวใจเต้นแรงแบบนี้ มานานมากแล้ว


ลืมบอกไปว่า เค้าให้มาทดสอบรถ แต่จริงๆ มันก็เป็นการทดสอบใจคนขับ ด้วย เพราะนี่เป็นเส้นทางออฟโรดจริงๆ
ใส่เกียร์ L4 แล้วใช้เทคนิคการขับแบบออฟโรด เพื่อให้รถแล่นผ่านทางหิน ที่ตรงกลางเป็นร่องน้ำ
และทางเดินเขา ที่ใช้ตรวจการลาดตระเวณ ด้วยสมรรถนะแบบรถขับสี่ล้อบ้านๆ โอ้ว..มันช่างระทึกใจจริงๆ
รถนะไปไหวแน่ๆ แต่คนขับแบบ ก้า อรินธรณ์ นะซิ ใจเต็นตูมตามสุดๆ



7
ต้องขอบอกว่า ด้วยสภาพเส้นทางหินชันๆ ที่เป็นร่องน้ำลึก
บางช่วงก็เป็นก้อนหิน ตะปุ่มตะป่ำ กีดขวาง มันทำให้นักขับมือใหม่อย่าง ก้า อรินธรณ์ หวาดหวั่นใจ
เพราะตัวรถน่ะสบาย มีกำลังเพียงพอ เพราะเป็นรถ 4WD และเมื่อใส่เกียร์ L4 รอบเครื่องก็หมุนแรง ไปได้รอดแน่ๆ


แต่ฝีมือการขับนี่ซิคร๊าบบ ที่น่าหวั่นใจมากกว่า แรกๆ รู้สึกว่ายังควบคุมรถไม่คล่อง เพราะไม่รู้เทคนิคการขับ
แต่ก็ได้ครูดีๆ เก่งๆ นักขับระดับแชมป์ประเทศไทย จากนิตยสารออฟโรด มาบอกให้เข้าใจว่า
มันเป็นการผสมผสาน การใช้รอบเครื่องยนต์ที่ถูกต้อง ใช้คันเร่ง ให้สัมพันธ์กับสภาพถนน
ผสมกับจังหวะการขับขี่ ที่ต้องใช้ประสบการณ์จริง

แม้บางช่วงมือใหม่ออฟโรด อย่าง ก้า อรินธรณ์ จะทุลักทุเล
มีทำรถไหล ไปชนต้นไม้บ้าง ตกร่องน้ำบ้าง ไรบ้าง  แต่ด้วยกำลังใจ และเทคนิคจากทีมงาน
สต๊าฟออฟโรด ก็ทำให้ ก้า อรินธรณ์ ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้คร๊าบบบ




8
ท้ายบุบไปหนึ่งแผล โดยฝีมือ ก้า อรินธรณ์ แค่เพราะปล่อยคลัชช้าไป ทำให้รถไหลไปชนกับต้นไม้ ดังตุ๊บ
มาขับรถ 4WD จริงๆ แบบนี้ ทำให้เข้าใจว่าการขับออฟโรด นอกจากจะต้องมีกำลังเครื่องยนต์ และสภาพรถที่พร้อมสุดๆแล้ว
เทคนิคและประสบการณ์การขับขี่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้รถเราเคลื่อนผ่านอุปสรรค ทั้งตอไม้ ถนนหิน ร่องน้ำใหญ่ ไปได้แบบนุ่มนวล
เส้นทางนี้ เป็นทางป่า สลับกับทุ่งไผ่ ที่แลไปไม่เห็นถนนว่า เป็นดินหรือหิน

บางช่วงของเส้นทาง ต้องอุทานว่า เฮ้ย ถนนอยู่ไหนเนี่ย และที่แน่ๆ ต้องใช้ความอึด และใจล้วนๆ
มาเคลื่อนตัวผ่านไปทีละคืบ ทีละคืบ



9
การเดินทางออฟโรด อีกสิ่งที่สำคัญคือ ทีมเซอร์วิส และสต๊าฟเนวิเกเตอร์ ที่ช่วยดูแลบอกไลน์เส้นทางว่า
ตรงไหนเป็นอุปสรรค และเราต้องเคลื่อนผ่านไปอย่างไร

การที่ทุกคัน สามารถรอดผ่านเส้นทางออฟโรด หน่วยพิทักษ์ไพรพัฒนา แบบทันเวลา
ก็ด้วยองค์ประกอบร่วมกันของทีมสต๊าฟ และฝีมือช่าง ที่ต้องเปลี่ยนยางแตกไป สี่เส้น และซ่อมแซมเพลาหน้าของรถร่วมคณะอีก 1 คัน
สิริรวมขับ 4 กิโล คาราวานเรา ใช้ไปเกือบห้าชั่วโมง ถึงได้รวมตัวกันข้ามพรมแดนช่องสะงำ
พร้อมกับประสบการณ์การขับออฟโรด อีกกระบุงโกย




10
ก้า อรินธรณ์ บันทึกภาพที่ระทึก บนเส้นทางสุดโหด ไพรพัฒนา ศรีสะเกษ กับรถเบอร์ 9 คู่ใจที่บุก ตะลุยไปด้วยกัน  
ต้องขอบอกว่า ใจระทึก และหัวใจเต้นแรงตึกตัก ในรอบสิบปี ก็ครานี้แหละ

พอเคลื่อนผ่านอุปสรรคมาได้  ฝีมือการขับก็แข็งแรงขึ้น(อีกนิด)
หัวใจก็เข้มแข็งขึ้น (อีกหน่อย) นี่กระมังที่เรียกว่า "การฝึกฝนตัวเองด้วยอุปสรรค"


11
อาทิตย์กำลังอัสดง คาราวานก็เคลื่อนผ่านด่านพรมแดน ช่องสะงำ ก่อนพลบค่ำ
แล้วเข้าพักที่สะงำรีสอร์ท เพื่อให้ฝ่ายเซอร์วิส ตรวจสภาพรถ เพื่อเตรียมการเดินทางต่อ



ส่วนพลขับ แบบ ก้า อรินธรณ์ นั้น ก็ต้องขอทาถู นวดยาหม่อง แก้เมื่อยกันหน่อย
เพราะแขนเกร็งสุดๆ แล้วค่ำคืนนี้ก็คงหลับแบบสนิทสุดๆ


12
ตื่นเช้ามา แล้วก็ขอถ่ายภาพเซลฟี่กับคุณพีท ทองเจือ ตอนรับอรุณ ก่อนนำรถเบอร์ 9 คู่ใจ มาเข้าขบวนคาราวาน
เพื่อออกเดินทางต่อไปยัง อำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา



ช่องเขานี้บ้านเราเรียกว่าช่องสะงำ ฝั่งกัมพูชาเรียกว่าช่องจวม ณ จุดผ่านแดนแห่งนี้จะมีบรรดาพ่อค้าแม่ขาย นำข้าวของเครื่องใช้
เครื่องอุปโภค-บริโภค รวมถึงของป่าจำพวกหวาย เห็ดป่า ผักหวาน มาวางขายทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และวันอาทิตย์

จากช่องสะงำ ผ่านอำเภออัลลองเวง เส้นทางนี้ สามารถเดินทางด้วยรถเข้าไปยังเมืองเสียมเรียบ แบบสะดวกสบาย
ด้วยระยะทางเพียง 135 กิโลเมตร
เส้นทางทอดยาวจากเขาพนมดงรัก มุ่งหน้าสู่อำเภออัลลองเวง ซึ่งเป็นเส้นทางที่คาราวานเรากำลังมุ่งหน้าไปคร๊าบบบ




13
"อัลลองเวง" ตามภาษาเขมร คำว่า “อัลลอง” แปลแบบบ้านๆ คือ “บึงใหญ่” คำว่า “เวง” แปลว่า "ยาว"
รวมๆ กันก็หมายถึงบึงน้ำขนาดใหญ่ยาว ที่นายพลตาม็อก นายทหารของเขมรแดง ได้สร้างขึ้น เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำกินน้ำใช้

สถานที่ที่เราแวะไปเที่ยวชม นั่นคือ บ้านพักของนายพล ตาม็อก ซึ่งสร้างขึ้นอย่างใหญ่โต เสาบ้านใช้ไม้ขนาดใหญ่หลายสิบต้น
ก่อสร้างอย่างแข็งแรง ชัยภูมินั้นสุดแสนจะปลอดภัย เพราะอยู่กลางบึงขนาดใหญ่ ที่ท่านขุดขึ้น


ตามประวัตินั้น นายพลตาม็อก ที่มีสมญานามว่า นายพลขาเดียวแห่งเขมรแดง เป็นผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องการรบ
ดังนั้น การเลือกสร้างบ้าน ณ ชัยภูมิเมืองอัลลองเวง ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของเขมรแดง ก็เพราะเป็นเมืองที่มีน้ำล้อมรอบ
ทำให้ยากต่อการซุ่มโจมตี และท่านนายพล ก็ยังสร้างบ้านไว้อีกหนึ่งหลังบนภูเขา ติดพรมแดนไทย
เพื่อใช้เป็นสถานที่สังเกตุการณ์วางแผน เพื่อเป็นประโยชน์ในการรบ อย่างที่สุด

ปัจจุบันหลังจากเขมรแดงสิ้นไป บ้านนายพล ก็ถูกทำลาย จนแทบจะไม่เหลืออะไรไว้ให้ชม นอกจากภาพวาดที่อยู่บนผนัง
และเสาบ้านที่ทำจากต้นไม้หลายสิบต้นเท่านั้น ที่ยืนยันความอุดมสมบูรณ์ของป่าแถบนี้ได้เป็นอย่างดี



ติดตามเรื่องราวต่อไปนะคร๊าบบ ชื่อสินค้า:   Toyota Vigo คะแนน:      **SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว แก้ไขข้อความเมื่อ