ไปญี่ปุ่นกันเถอะ-yeah
にほんにいきましょう
สวัสดีค่า--ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า นี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรก เพื่อแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองครั้งแรก
ใ น แ บ บ ข อ ง เ ร า
อะไรอะไรก็ ครั้งแรก ตื่ น เ ต้ น ดีแท้ เพราะตอนก่อนที่จะไปเที่ยวก็ได้ใช้พื้นที่ตรงนี้หาข้อมูลและความรู้เหมือนกันค่ะ
หวังว่ารีวิวครั้งนี้จะมีประโยชน์สำหรับคนที่จะเดินทางด้วยตัวเองครั้งแรกไม่มากก็น้อยนะคะ
หากผิดพลาดสิ่งใดๆ โปรดชี้แนะด้วยนะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่า "น้องใหม่หัดรีวิว"
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่นะจ๊ะ-- http://www.facebook.com/paiyeepunkanteryeah ขอบคุณค่า
เราบันทึกการเดินทางแบบภาพเคลื่อนไหวมาด้วยค่ะ เป็นความทรงจำที่ดิ้นได้ น่ารักน่าชังเชียว (ใครบอก)
จุ ด เ ริ่ ม ต้ น ก า ร เ ดิ น ท า ง อ นุ บ า ล s t y l e
ครั้งนี้เราเดินทางกัน 3 คนค่ะ (มิ้ม อ๊อฟ และพี่ก้อง) ไปแถบคันไซ เมืองยอดฮิตแห่งการรีวิว ไปเองครั้งแรก เพราะฉนั้น เราจะออกนอกลู่นอกทางไม่ได้เลย 5555 เอาว๊ะ เริ่มจากแหล่งยอดฮิต สถานที่ที่เค้านิยมรีวิวกันนี่แหละ อยากจะได้เห็นเหมือนคนอื่นๆเค้าบ้าง (น้ำตารื่น)
เริ่มจากเลือกว่าจะไปแถบไหน จองโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน เมื่อได้ทุกอย่างดั่งใจหมาย ก็เริ่มทำตารางและวางแผนการได้ 555
อันนี้เป้นตารางการเดินทางที่เราทำขึ้น เพื่อให้เรามีจุดมุ่งหมายการไปในแต่ละวันค่ะ
จากนั้นก็ทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการเดินทางและ wifi
เราเลือกฟูจิwifiเพราะมีพี่ท่านนึงแนะนำมาว่าดี แล้วก็ดีอย่างที่ว่าจริงๆค่ะ
ส่วนhyperdiaมันสุดยอดของการตรงต่อเวลาค่ะ ใช้ดูเรื่องตารางรถไฟนะคะ http://www.hyperdia.com/
การเดินทางครั้งนี้เราอยากเก็บความประทับใจแบบเคลื่อนไหวได้ จึงแบกสำภาระไปมากมาย ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง สิ่งที่จำเป็นคือเมมโมรี่
แต่ดันมีน้อยมาก เลยถ่ายแบบครึ่งๆกลางๆน่าเสียดาย #ร้องไห้หนักมาก แถมฝีมือการถ่ายนี่ก็แนว อ นุ บ า ล s t y l e จริงๆ
#ร้องไห้หนักมากไปอีก แต่ก็ได้บรรยากาศอีกแบบนะ ดูทีไรก็ คิ ด ถึ ง จั ง
พอทฤษฎีเราแน่นแล้ว ก็ได้เวลาปฏิบัติจริงซะที ลุ ย กั น เ ล ย
กรุณานั่งประจำที่ รัดเข็มขัดอยู่กับที่นั่ง ปรับพนักเก้าอี้ให้อยู่ในระดับตรง เก็บโต๊ะหน้าที่นั่ง เปิดม่านหน้าต่าง และปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดด้วยค่ะ"เริ่มการเดินทาง 10 มีนาคม 2558" -- มุ่งตรงสู่ kansai
นั่งดูหนังมาเพลินๆก็ถึงแล้ว ความตื่นเต้นเพิ่มมากขึ้นเมื่อเห็นวิวญี่ปุ่นจากด้านบนเครื่องบิน ในใจก็นึกว่า ฉันจะผ่าน ต.ม ไม๊น้า 5555
ตอนเดินเข้าไปที่ ต.ม เค้าจะต้องเขียนใบขาเข้า(เรียกแบบนี้ป่าวไม่แน่ใจค่ะ) ด้วยภาษาอังกฤษที่สอบตกตั้งแต่อนุบาล 3 และการร่ำเรียนภาษาญี่ปุ่นมา 1 ปี แต่ไม่มีอะไรในหัวเลย โชคดีที่พี่ก้องพูดอังกฤษได้ 2ศรีพี่น้อง มิ้มออฟเลยรอดตาย จริงๆเค้ามีตัวอย่างเป็นภาษาไทยให้ดูเลยนะคะ ไม่ต้องห่วงค่า
เราเลือกพักแถว Umeda ค่ะ จึงเลือกวิธีเข้าเมืองแบบ รถบัส เพราะพี่ๆที่เคยไปเค้าแนะนำว่าเรามีกระเป๋า นั่งบัสจะสะดวกกว่ารถไฟ เราจึงเลือกไปด้วยวิธีนี้ค่ะ ดูรายละเอียดลีมูซีนบัสได้ที่นี่ค่ะ-- http://www.kate.co.jp/pc/index_e.html ตอนดูในเวปไป เค้าให้ไปขึ้นที่ Terminal 1 กับ 2 ตรงชั้น 1 ของสนามบิน แต่พอไปถึงที่จริงๆเค้าให้เราไปซื้อที่ Terminal 5 ค่ะ จัดแจงซื้อตั๋วเสร็จก็ขึ้นรถเดินทางสู่ Umeda กันเล้ย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ50นาทีค่ะ)
จากkansai airport ลงที่ Hotel New Hankyu (Umeda)
พอไปถึงเราก็เปิด Google Maps เพื่อหาทางเดินไปโรงแรม คุณพระ ไม่เป็นอย่างใจคิดค่ะ ใช้ไม่เป็น "หลงสิคะ" คำเดียวเลย เดินไปไหนก็ไม่รู้ มันไม่ง่ายเหมือนตอนเซิสดูเลย ทำยังไงดี มองไปรอบๆที่นี่ที่ไหนว๊ะเนี่ย อากาศก็หนาวมาก ดูจากไทยไป 13 องศา ไปจริง 2 องศาจ้า เดินไปเรื่อยหาจุดหมายไม่เจอ ทันใดนั้น ก็มีแก๊งสาวคาวาอิเกิลปรากฏตัวขึ้น เข้าช่วยเหลือแก๊งเราที่ยืนงกๆเงิ่นๆหนาวสั่นอยู่ เค้าเดินมาส่งเราถึงโรงแรมเลยค่ะ ตอนนั้นเกรงใจมากๆ ในใจคิด เฮ๊ยเดินไปส่งเลยหรอ ทำไมดีกับเราแบบนี้ #น้ำตาไหลหนักมาก ระหว่างทางก็สนทนาภาษาท่าทาง และอยากใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมา จึงถามเค้าด้วยศัพย์ง่ายๆว่า ในบรรดาอาหารไทย คุณชอบกินอะไรมากที่สุดคะ เค้าก็ตอบมาว่า ผัดไทย กับ ต้มยำกุ้ง เข้าทางเราค่ะ พอเดินมาถึงที่หมายก็แทบก้มลงกราบในความมีน้ำใจของเค้า และหยิบเอามาม่าต้มยำกุ้งที่เราเตรียมมา ตอบแทนความมีน้ำใจให้สาวๆไปคนละซองค่ะ นี่คือความประทับใจแรกของเราในญี่ปุ่นเลยค่ะ "ขอบคุณอีกครั้งนะคะสาวๆ"
จริงๆจากจุดที่ลงรถบัส (Hotel New Hankyu) จะใช้เวลาเดินไปโรงแรมแค่ 10 นาทีเองค่ะ แต่ด้วยครั้งแรกจึงหลงแบบโงหัวไม่ขึ้นเลย 555 เอาล่ะเมื่อสาวๆเดินมาส่งเราที่โรงแรมแล้ว ก็จัดแจงนำกระเป๋าขึ้นไปเก็บค่ะ โรงแรมที่เราพักคือ Hotel Kinki ส่วนตัวชอบโรงแรมนี้นะคะสะดวก ใกล้กับสถานที่เที่ยวต่างๆ ห้องน้ำก็แยกส่วนอาบน้ำกับสุขา ที่สำคัญ สะอาด และยังดูใหม่อยู่เลยค่ะ
อันนี้คือแผนที่จากจุดลงบัสมาถึงโรงแรมค่ะ
หลังจากนั้นเราก็ออกมาเดินทางหาอะไรกินกันค่ะ ออกมาหน้าโรงแรม ทั้งซอยเลยค่ะเป็นร้านอาหาร แต่เป็นstyle เหมือนร้านเหล้านิดๆมีสาวๆยืนเรียกอยู่หน้าร้านด้วย แต่ไม่ได้แต่งตัวโป๊นะคะ แล้วก็ไม่มีการเข้ามาดึงแขนหรือตื๊อเราแต่อย่างใด เป็นการเชียร์แบบน่ารักน่าชัง เราเดินดูสักพักแต่คืนนี้ที่นี่ไม่ใช่tergetเราค่ะ จึงเดินข้ามถนนไปทาง hep five ก็มาเจอร้านนึง เป็นอาหารแนวๆทอดไรประมาณนี้ค่ะ ดูราคาแล้ว เริ่มต้นที่ 580 เยน เราเลยถลาเข้าไปอย่างรวดเร็วค่ะ อยากบอกว่า อร่อยมากกกกก คือแบบทอดเก่งอ่ะ ไม่อมน้ำมันเลย แถมกรอบเกรียวเคี้ยวโปเต้อีกด้วย และที่สำคัญเยอะมาก เนี่ยมันดีตรงเนี๊ยะ 555
เมื่ออิ่มท้อง เราจะทำอะไรได้ นอกจาก "นอน" 555 แต่จริงๆร้านที่ญี่ปุ่นปิดเร็วมากค่ะ เราแวะซื้อขนมนิดหน่อยแล้วก็กลับไปพักเอาแรง
จบทริปวันแรกค่ะ おやすみなさい
เด๊วมาต่อนะคะ ฝากติดตามด้วยน้า
つづく
ชื่อสินค้า: ไปญี่ปุ่นกันเถอะ-yeah
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น