สวัสดีค่ะ นี่เป็นครั้งแรกของ จ.ข.ก.ท ที่ทำการรีวิว ทริปท่องเที่ยวนะค่ะ จ.ข.ก.ท ได้ หาประโยชน์จากเพื่อนๆๆที่โพสในพันทิปเลยอยากมีโอกาสมาโพสบ้าง เพื่อเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านที่กำลังมองหาการผจญภัยหรือประสบการณ์ใหม่ๆในชีวิต คนเราต้องมีครั้งแรกเสมอ จ.ข.ก.ท ไม่เคยไปเที่ยวยุโรป ใฝ่ฝันมานานเก็บข้อมูลแล้วก็ค่าใช้จ่ายพอสมควรแล้วก็เก็ยสะสมวันพักร้อนเรื่อยมา พอจังหวะและเวลาที่ลงตัวมาเจอกัน ทริปนี้เลยเกิดขึ้น จ.ข.ก.ท เดินทางโดยสายการบิน air India เพราะ ได้ตั๋วโปรที่ 795usd ซื้อจาก เว็บ cheap ticket ช่างเมษา ตั๋วโปรไม่ค่อยมี แพงๆๆ ทั้งนั้น จ.ข.ก.ท เลยตกลงใช้บริการ air india ครั้งแรกกับสายการบินนี้ อาหารอร่อย ไม่เหม็น อาจไม่ใหม่มาก แต่ไม่น่ากลัวอย่างที่ได้ยินมา พนักงานน่ารักและค่อนข้างให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี จ.ข.ก.ท เลยได้เดินทางอย่างมีความสุข เพราะดื่มไวน์ฟรีตลอดการเดินทาง 555
อาหารบนเครื่อง
จ.ข.ก.ท เดินทาง จาก สุวรรณภูมิ ไปลงที่ New Delhi รอเปลี่ยนเครื่อง 1.5 ชั่วโมง เวลาค่อนข้างดี จ.ข.ก.ท ไปถึง Frankfurt international Airport ตอน 6 โมงเย็น สนามบินใหญ่ แต่ก็ไม่ลำบาก จ.ข.ก.ท รอเพื่อนสาวแป๊บนึง ก็เจอนางขับ camper มารับ
เราก็ขับตรงไปยัง camping pitch ที่เราจะค้างคืนประมาณ 20กิโล จากสนามบิน แล้วก็จัดแจงเอาของออกจากกระเป๋า เพื่อใส่ชั้นเก็บเสื้อผ้า ดื่มไวน์แพล๊บ เม๊าท์มอย เรื่อยไปแล้วเพื่อนสาวก้จัดแจงทำมื้อเย็น มื้อเย็นคืนนี้เรียกว่า Gulasch ซึ่งจะมีเนื้อหมูสตูเป็นก้อนกับเครื่องเทศ + มันฝรั่ง กับมะเขือเทศ อร่อยมากกกกกกก มะลิได้ทำมาก่อนล่วงหน้าแล้วก็แช่แข็งไว้ นางทำมาประมาณ 3-4 อย่าง เวลากิน ก็อุ่นอย่างเดียว เริ่ดอ่ะ อร่อยมากด้วย เป็น local German dishes ทั้งนั้น เวลาเรานอนรถบ้านเรามาสามารถทำกับข้าวได้หลายอย่างต้องเป็นจำพวก 1 pot 1 dinner
ขอเกริ่นก่อนนะค่ะว่าจขกท ไม่เคยตะลอนยุโรปมาก่อน ได้ยินมาเยอะพอสมควรเรื่องของความสวยงามและความโรแมนติก เลยคิดว่าสักครั้งในชีวิตต้องไปเยือน "ในแบบของเรา" จขกท เลยได้ทำการแพลนกับเพื่อนสาวชาวเยอรมัน ชื่อว่า มะลิ (แปลมาจากชื่อ eng. ของนาง) มะลิกับ จ.ข.ก.ท. เป็นเพื่อนทำงานที่บริษัทเดียวกันมานาน แต่อยู่คนละ office (คนละประเทศ) พอนางมาไทย จ.ข.ก.ท. ก็พาเที่ยวแบบไทยๆ พอจะได้เที่ยวยุโรป นางเลยพา จ.ข.ก.ท. แบบชาวยุโรปบ้าง จ.ข.ก.ท. เลยอยากเอามาแบ่งปัน ว่าความสุขในการได้พบเจอโลกกว้างอย่างสนุก เราต้องมีความฝัน+เพื่อน + เงิน 555555
มะลิ & I
ทริปนี้ จ.ข.ก.ท. ใช้เวลา 15 วันในการเดินทางด้วยรถบ้าน ( Caravan/Camper แล้วแต่จะเรียก) จ.ข.ก.ท. ได้กิน นอน เที่ยว ได้ทุกที่ ที่ต้องการ ประมาณว่า หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา …เอ้ย…จอดรถ ง่วงเมื่อไหร่ก็งีบ การเดินทางด้วยรถบ้านมีทั้งข้อดีและข้อเสียหลายประการ เริ่มจากข้อดี คือ ไม่ต้องขนย้ายกระเป๋าขึ้นลง โรงแรม เก็บสำภาระกะเราได้ทุกเมื่อ ประหยัดราคาอาหารเนื่องจากเราสามารถทำครัวได้ในรถ เพราะค่าอาหารเป็น 1 ในปัจจัยที่สิ้นเปลืองมากในการเดินทางของเรา แต่ถ้าซื้อกับข้าวแล้วมาทำเอง หลายมื้อกินหรูแต่ราคาถูกกว่าเมืองไทยเสียอีก จ.ข.ก.ท. เป็นคนชอบกินมาก ชอบกินดี อยู่ดีแต่ไม่แพง อิอิ…เก็บตังค์เที่ยวดีกว่า แล้วก็ดีที่ว่า มะลิเป็นคนเยอรมัน ทุกมื้อของนาง นางทำอร่อยอย่างกับ iron chef นางรู้ว่าซื้ออาหารสดที่ไหนถูก อะไรที่ควรซื้อ ทริปนี้ไม่ใช่ทริป budget แต่เป็นทริปที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับสิ่งที่เราได้รับตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา กินหรู อยู่ดี ดื่มไวน์ตลอดดดดดด การเดินทาง พื้นที่ ที่จ.ข.ก.ท. ไปเต็มไปด้วยสวนองุ่น ไวน์ขึ้นชื่อ ถูกละดี จ.ข.ก.ท. ดื่มไวน์วันละหลายแก้ว เพราะไวน์ถูกกว่าน้ำเปล่าเมื่อเทียบกับปริมาณ ไม่ได้ขี้เมานะค่ะ เพียงแต่อยู่ในพื้นที่เขา ต้องทำแบบเขา อิอิ
จ.ข.ก.ท. ไม่มีความคิดที่จะเอา อาหารสำเร็จรูปของไทยไปให้เสียบรรยากาศการ กิน กิน กิน เพราะทุกมื้อ จ.ข.ก.ท. ได้ขอมะลิ คือ ทุกพื้นที่ ที่เราเดินทาง จ.ข.ก.ท. ขอ local foods only ซึ่งนางก็ได้ทำให้อย่างไม่ขาดตกบกพล่อง อาหารบางประเภทเช่น ของ Austria นางทำไม่เป็น เราก็ไป ดินเนอร์ใต้แสงเทียนกัน 2 คนได้ เพราะถ้าให้นางทำกับข้าวทุกวัน นางคงเพลียเพื่อนชาวไทยคนนี้ เราดินเนอร์กันทุกประเทศที่เราเยี่ยมชม เพราะว่า จ.ข.ก.ท. อยากเก็บบรรยากาศ ร้านอาหารพื้นเมือง กับรถชาติอาหารพื้นเมืองให้ได้มากที่สุด … ถ้าวันไหนอากาศดีเราก็ทานกลางวันข้างนอกเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้ สรุปเริ่ดค่ะ
ฝีมือนางทำกับข้าว
มาดูข้อเสียกันมั่ง ทุกสิ่งทุกอย่างมีข้อดีแล้วก็ข้อเสียอยู่ในตัว อย่างแรก พื้นที่บนรถบ้านค่อนข้างจำกัด ผญ กะ ผช ไม่เหมือนกันตรงที่ ผญ มีมหาสมบัติ เสื้อผ้า เครื่องประทินผิวต่างๆนานา เพราะยังอยู่ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ อากาศยังแปรปรวนโดยเฉพาะในเดือนเมษาซึ่งฝรั่งเขาบอกว่า everything can happen หมายความว่า วันนี้แดดออก พรุ่งนี้ฝนตก มะรืนลูกเห็บลง วันต่อไปมีภายุหิมะ โอ๊วววแม่เจ้า….เจอมาหมดแล้ว พวกเราต้องมีเสื้อกันหนาวคนละหลายตัวแต่ละแบบเก็บไว้ใส้ตามแต่สภาพอากาศจะอำนวย..รองเท้าคนละหลายค่ เพราะต้องมีรองเท้าสำหรับใส่ในรถ ร้องเท้าบูทตอนฝนตก ร้องเท้าใส่อาบน้ำจำพวก crocs เพราะพวกเราต้องอาบน้ำห้องน้ำสาธารณะตลอดการเดินทาง แล้วก็รองเท้าผ้าใบสักคู่ใส่ระหว่างเดินทางหรือปั่นจักรยานในวันที่อากาศดี ของจ.ข.ก.ท. จะมีอย่างละคู่แต่มะลิ มีอย่างละหลายคู่ 5555 การจัดสรร พื้นที่ในรถเลยเป็นเรื่องใหญ่ที่ทั้งผู้มาใหม่อย่าง จ.ข.ก.ท. และเพื่อน ของปรับตัวเข้าหากันอย่างมาก ห้องน้ำห้องท่าก็ไม่สะดวกนัก เพราะเราเข้าเบาได้อย่างเดียว แถมต้องเทฉี่ตัวเองตอนถังมันเต็ม โอ๊ววววว ….แบบหนักต้องรอให้ถึงที่จอด camping pitch เพื่อที่จะใช้บริการที่นั่นแทน
ค่าใช้จ่ายในการเช่ารถบ้านก็ 995eur สำหรับ 14 คืน ไม่รวมค่าเช่า pitch สำหรับจอดรถนอนซึ่งจะมีตั้งแต่ 18 – 24 eur/คืน แล้วแต่สถานที่ แต่ละสถานที่ให้ความสะดวกสบายไม่เหมือนกัน อาจจะอาบน้ำฟรี หรือ ต้องหยอดเหรียญก็แล้วแต่ บางทีมีไฟฟ้าให้ใช้ฟรีบางที่ต้องเสียตังค์ พวกเราพยายามหาที่ ที่มีไฟฟ้าเพราะถ้าไม่มี ตอนกลางคืนเวลานอนค่อนข้างลำบาก เพราะอยู่ในช่วงระหว่าง 1 องศา ถึง 15 องศา แล้วเราต้องให้แก็สเพื่อทำความอุ่น แล้วก็หุงหาอาหาร ใช้เสียบตู้เย็น ซึ่งถ้าใช้ไฟฟ้าจะประหยัดกว่า ส่วนค่าน้ำมัน ค่าแก๊สก็ต้องจ่ายเพิ่มอยู่แล้ว ถ้าจะบอกว่าถูกว่าโรงแรม ก็คงไม่เสมอไป โดยอีกทั้งที่รถบ้านนั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่พอสมควร การเคลื่อนตัวอาจจะลำบากกว่ารถปกติที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน
จิ๋วแต่แจ๋วนะครัช
มาถึงสิ่งอานวยความสะดวกในรถบ้าง
เตียงนอนขนาด 4 ฟุต นอน 2 คน เวลานอนดึงลงมาจากเพดานรถ เวลาตื่นก็พับผ้าแล้วดันขึ้นไปเก็บที่เดิมเพื่อใช้พื้นที่ข้างล่างเป็นโต๊ะทานอาหาร
ครัว มาพร้อมเตา 2 หัวใช้แก๊ส เป็นหลัก มีซิ้งค์สำหรับล้างผักใกล้ๆกัน
ใต้เตาเป็นตู้เย็นขนาดความสูง 2 ฟุต แล้วข้างๆๆเป็นชั้นเก็บพวกหมอ กะทะแล้วก็อาหาร จำพวกแยม ขนมปัง ผลไม้
ตู้ติดผนังข้างบนสำหรับเก็บจาน แก้วน้ำ เครื่องครัวต่างๆๆ
เบาะนั่งที่โต๊ะกินข้าวเปิดมาเป็นที่เก็บของทางซ้าย เก็บไวน์ ตุนไว้ 2 ลัง ….ก็หมดนะครัช แล้วก็เอาไว้เก็บพวกน้ำเปล่า/ ขนมขบเคี้ยว ส่วนทางขวาเป็นที่เก็บน้ำไว้ใช้สำหรับใช้ในห้องน้ำทุกอย่าง 30 ลิตร ต้องคอยเติม
ในบริเวณรอบพื้นที่รอบๆข้างในจะเป็นตู้เล็กๆน้อยๆให้เก็บสำภาระ เสื้อผ้าต่างๆ
เกริ่นมาเสียเยอะ แค่อยากจะเล่าสู่กันฟังนะครัชว่า เที่ยวรถบ้าน สนุกก็จริงแต่ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง ลองศึกษาดีๆๆ ทุกคนก็เที่ยวได้ จ.ข.ก.ท. ที่ มีมะลิเป็นคนพื้นที่ นางจองรถ เช่ารถอะไรเสร็จสรรพ ขั้นตอนนี้ ยกความดีงามให้นาง
April 1 ตื่นแต่เช้าเริ่มชีวิตด้วยกาแฟแก้วใหญ่กับอาหารเช้าแบบ full options เป็นอาหารเช้าที่เยอรมั๊นนน …เยอรมัน จะมีขนมปัง แฮมหลากหลายชนิด ตับบด อันนี้ จ.ข.ก.ท. ชอบมาก กินไม่เบื่อแถมซื้อกลับบ้านมาตรึม แยม ไข่ต้มหลากสี เพราะเป็นช่วง Easter พอดี ชีสนานาชนิด เนย ครีมชีส Nuttella ดูเอาแล้วกัน
แปลกมากที่ จ.ข.ก.ท. ตื่นมา ไม่รู้สึก jetlag เลยแม่แต่น้อย อาจคงเป็นเป็นเพราะตื่นเต้นมั๊ง เพราะเมื่อวานลงมามืด ยังไม่ได้เจออะไร วันนี้พอตื่นเช้าปุ๊บเลยวิ่งออกไปนอกรถเพื่อสูดอากาศเยอรมันให้เต็มปอดผลปรากฏว่า หนาว ชิหาย !! ประมาณ 4 อาศาได้ ขณะนั้นประเทศไทยยัง 38 องศาอยู่เบย ปรับตัวเรื่องอากาศยากนิดหน่อยแต่ก็ผ่านปได้ด้วยดี เสื้อผ้าที่เอามา ใส่ได้ประมาณ20% นอกนั้นแพ็คลงกระเป๋าเหมือนเดิม โชคดีที่มะลิเตรียมพวก แจ็คเก๊ตมาให้พร้อม ขุ่นแม่นางก็น่ารักซื้อเสื้อกันหนาวกับพวก sweater ให้ จ.ข.ก.ท. อยู่หลายตัว อากาศเขาแห้งๆๆเย็นๆๆ ใส่ซ้ำได้ ไม่เหม็น อิอิ
วันแรกเรามุ่งหน้าจาก Frankfurt ลงไปตอนใต้สู่ Heidelberg เมืองมหาวิทยาลัยที่โรแมนติกมากๆๆ จ.ข.ก.ท. ทราบมาว่าเป็นที่ประสูต ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 8 เลยเพิ่มความพิเศษเข้าไปอีก จ.ข.ก.ท. ไม่ได้เที่ยวแบบละเอียดมาก แต่เป็นจำพวก Hop on Hop Off เสียมากกว่า. ได้ไปแวะเยี่ยมชม ปราสาท Heidelberg และได้เห็นวิวสวยๆของเมืองเก่า น่าเสียดายที่ ตัวปราสาทถูกทำลายเสียมากเลยในช่วงสงคราม แต่ก็อย่างว่า ปราสาทนี้ถึงจะโดนถล่มอย่างหนักแต่ก็ไม่ทำให้ความสวยลดลงไปได้ ความที่ปราสาทถูกสร้างมาด้วยอิฐเลยทำให้เห็นถึงความขลังบวกกับความโรแมนติก วันนั้นอากาศดี มีแสงแดดอ่อนๆกระทบปลายหญ้าเลยไม่ทำให้หนาวมาก ซักประมาณ 8 องศาได้ จ.ข.ก.ท. ได้เดินเล่นไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปกับเพื่อนสาวแล้วมานั่งมอง บ้านเมืองเค๊า สวยสะอาดและเป็นระเบียบมากเลย หลังจากถ่ายรูปเสร็จ จ.ข.ก.ท. ก็เดินมาเรื่อยๆเพื่อเก็บภาพ
ก่อนเดินทางต่อไปแคว้น Alsace ประเทศฝรั่งเศส จ.ข.ก.ท. ได้ไปเจอสุนัขน่ารักไซส์บิ๊กเบิ้ม ด้วยความที่ จ.ข.ก.ท. เป็นพวกโลกสวยเลยวิ่งไปขอลูบหลังพี่เบิ้มหน่อย พยายามพูดกะเจ้าของหมาว่าขอถ่ายรูปกะขอเล่นหน่อย เจ้าของหมาไม่เข้าใจ เดือดร้อนมะลิ ต้องมาช่วยแปล มะลิกะเจ้าของหมาคุยกันยาวยืดหัวเราะคิ๊กคัก แล้วก็อนุญาติให้จ.ข.ก.ท.เล่นกะพี่เบิ๊บแป๊บ พอพวกเค๊าเดินจากไป จ.ข.ก.ท. เลยถามมะลิว่า คุยรัยกัน นานจุง แถมหัวเราะคิ๊กคั๊กตลอด นางเลยบอกว่า ทำมัยผญ คนนั้นอยากเล่นกะหมาฉัน นางมาจากประเทศที่กินหมาป่าว เพราะฉันรู้ว่าหลายประเทศในเอเซียกินหมากัน จ.ข.ก.ท. หน้าชาเบย อายมาก แต่มะลิก็แก้ต่างให้ว่า คนไทย …ม่ายกินเนื้อหมานะครัช หร๋า !!!
เด๋วมาต่อใหม่
วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น