วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558

ช่วงอาทิตย์ก่อนชีพจรลงเท้า เดินทางบ่อยเป็นว่าเล่น ขับรถเข้าออกเชียงใหม่ บินไปกรุงเทพฯ ทำธุระในกรุงเสร็จก็มาทำธุระที่บ้านอีก เหมือนว่าความยุ่งเหยิงเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน แต่โชคดีของผมอย่างหนึ่งคือ ในความวุ่นวาย มีคนคอยจับมือและยุ่งหัวฟูไปด้วยกัน ก็ใครหล่ะครับถ้าไม่ใช่ภรรยาของตัวกระผมเอง
แม้ว่าระยะทางจะดูยาวไกลระหว่างจุดเริ่มต้นไปยังปลายทาง แต่ถ้ามีเพื่อนคุยที่รู้ใจมันจะทำให้ความน่าเบื่อของปริมาณกิโลเมตรนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย นี้อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่เวลาผมไปไหนอยากจะให้เขาไปด้วย ใกล้ไกลคงไม่ใช่ปัญหาถ้ามีคนคนนี้

ระหว่างที่ผมหมุนควงพวงมาลัยรถยนต์ ซ้ายทีขวาทีผ่านดอยเล็กดอยน้อยที่คั่นกลางฝางและเชียงใหม่ มีบทสนทนาหัวข้อหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะว่ามันเป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดาในชีวิตคู่ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นเรื่องที่ทำให้คนสองคนอยู่ด้วยกันไม่ได้เลยทีเดียว ไม่แน่ใจว่ามันเริ่มต้นยังไง แต่จำได้ว่าคำถามที่ผมถามเขาไปคือ

"อะไรคือสามสิ่งของผู้ชาย ที่ที่รักคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อที่รัก?"

ผมขยายความต่อไปว่าเราไม่นับถึงความซื่อสัตย์ รักเดียวใจเดียว ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์อยู่แล้ว หรือเรื่องนอกกายอย่างหล่อรวยพวกนี้ก็ไม่เอา เอาสามสิ่งที่คิดว่าเป็นคุณภาพของผู้ชายคนนั้นเลยนะ

เธอนิ่งคิดไปอยู่สักพักก่อนจะตอบกลับมาว่า

1. แกะกุ้งแกะปูให้
ผมก็ยิ้มแล้วถามว่าเพราะอะไรเหรอ เธออธิบายต่อว่าไม่ใช่ว่าแกะเองไม่เป็นนะ แต่ถ้าเขาทำให้นอกจากมันแสดงถึงความใส่ใจดูแล มันยังแสดงออกถึงการเสียสละได้อีกด้วย ถ้าไปกินข้าวด้วยกันแล้วเขาแกะให้เรากินก่อนแบบ "สม่ำเสมอ" ไม่ใช่แค่ช่วงโปรหรือช่วงฮันนีมูน ก็เป็นเหมือนข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งเลยทีเดียวว่าไม่ว่าเขาจะหิวแค่ไหนก็จะให้เรากินก่อน เพราะฉะนั้นไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็น่าจะคิดถึงเราก่อน มีเหตุผลประกอบอย่างหนักแน่น
เขาต่อด้วยข้อสองทันที

2. เป็นผู้ฟังที่ดี
ไม่เอาแบบฟังหูซ้ายทะลุหูขวานะ ไม่เอาแบบนั่งดูบอลแล้วปล่อยให้เราพูดคนเดียวมีคำตอบแค่ "อื้อ...อื้อ...ด้วย" เอาแบบผู้ฟังที่ตั้งใจฟังและตอนสุดท้ายคอยให้คำปรึกษาที่ดี หรือว่าถ้าเขาช่วยอะไรไม่ได้ก็จะคอยกอดแล้วปลอบใจ ซึ่งนำไปสู่ข้อสุดท้าย

3. อยู่ตรงนั้นเสมอ (Always There)
ซึ่งข้อนี้แหละที่ผู้ชายส่วนมากจะสอบตก เพราะเวลาสนุกก็สุขด้วยกัน แต่ตอนทุกข์ปล่อยกูเศร้าอยู่คนเดียว เจอปัญหามาหน่อยก็ยิ้มติสขึ้นมาดื้อๆบอกว่าอยากอยู่คนเดียวสักพัก หรือตอนที่อยากได้คำปรึกษาก็กลับบอกว่างานยุ่งชีวิตแย่ตอนนี้ไม่ว่าง "เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง..." คือคำที่ไม่อยากได้ยินแต่กลับผ่านหูบ่อยที่สุดตอนที่เจอพายุชีวิต ผู้ชายบางคนก็เงียบและคิดว่านั้นคือทางออก แต่มันก็ไม่ใช่
"ความเงียบอาจจะเป็นทางแก้ แต่ไม่มีทางเป็นทางออกอย่างแน่นอน" ผมเสริม
"นั้นแหละ บางคนไม่เข้าใจไง" เธอบอกต่อ
ไม่ว่าช่วงเวลาไหนของชีวิต ช่วงจังหวะขึ้นสุขหรือลงทุกข์ คลุกคลานหรือวิ่งเต้น ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ยอมห่างไปไหน มีปัญหาก็คอยแก้ด้วยกัน อันนั้นแหละคือ "สิ่งสำคัญของผู้ชาย"

ฟังจบแล้วก็รู้สึกพึงพอใจกับคำตอบที่ได้ ผมรู้ตัวดีว่าไม่ใช่ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ มีบกพร่องและจุดด้อย พลาดบ้างเป็นบางครั้งคราว แต่สำหรับสามข้อที่เขาพูดมา ผมว่าผมสอบผ่านด้วยคะแนนแบบสวยงาม

ผู้หญิงทุกคนก็คงเห็นความสำคัญต่างกันออกไป ทำให้มันกลายเป็นข้อแม้ของการใช้ชีวิตคู่แบบพอดี สุขร่วมหัวเราะทุกข์ร่วมกันสู้ และจับมือกันก้าวไปข้างหน้าด้วยกันของแต่ละคู่ก็แตกต่างกันออกไป

ระยะทางข้างหน้าคงอีกหลายหลักกิโลเมตรสำหรับเราทั้งคู่ แต่ผมว่ามันไม่ได้น่าเบื่อเท่าไหร่นักหรอก
(ปล.มีภาคต่อนะครับ อาทิตย์หน้าเป็น version ผู้ชาย)

‪#‎lifenote‬ ‪#‎โสภณศุภมั่งมี แก้ไขข้อความเมื่อ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศนียบัตรชนะเลิศ การบริการยอดเยี่ยม Tripadvisor.com

Sample Text

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

VartikaAdventure Kuiburi

VartikaAdventure Kuiburi

VartKa Kuiburi

VartKa Kuiburi

Facebook Vartika Adventure Retreatic Resort

Facebook Vartika Resovilla Kuiburi

Popular Posts