วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สวัสดีค่า  เล่นพันทิปมาได้สักพักล่ะค่าาาาา ตั้งมาหลายกระทู้แล้ว  แต่อันนี้เป็นกระทู้แรกที่รีวิวเรื่องการท่องเที่ยวค่าาา หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมานะที่นี้ด้วยน้าาา  
พอดีมหาวิทยาลัยที่เราเรียนได้จัดกิจกรรมให้สาขาเราไปดูการเรียนการสอนที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ  ให้ไป 5 วันค่ะ โดยไปดูการเรียนการสอน 1 ที่เหลือเที่ยวตามอัธยาสัยเราก็ได้ไปหลายย่านในโตเกียวเหมือนกัน  เรียกได้ว่าที่ไหนดังไปเกือบครบไม่ได้ไปแค่ชินจุกุ  นอกนั้นไปหมด  ได้ใช้ชีวิตแบบขึ้นรถไฟเอง  หาอาหารทานเอง  กํได้รู้จักเพิ่มขึ้น  จึงอยากจะมารีวิว เผื่อใครสนใจจะไปญี่ปุ่นจะได้ทิปไปใช้ค่า

ก่อนอื่นนะคะ  บอกตรงๆว่าในชีวิตไม่ได้เป็นคนคลั่งญี่ปุ่นอะไรมากมาย  ไม่เคยคิดจะไปญี่ปุ่น  รู้สึกเฉยๆ  อาจจะชื่นชมในเรื่องความมีระเบียบของเค้า หลังจากได้ดูข่าวในช่วงที่เกิดสึนามิ  ชื่นชมในความดีและเข้มแข็งหลังจากได้ดูคลิปฆ่าปาดคอโดยกลุ่ม isis แต่ก็ไม่ได้อยากไปอะไรมากมาย  แต่การไปญี่ปุ่นครั้งนี้เปลี่ยนความรู้สึกของเราจริงๆ  เราชอบประเทศนี้มากถึงมากที่สุด หลงรัก  จนตั้งใจว่าชาตินี้จะต้องเก็ยตังค์ไปอีกให้ได้สักครั้ง หรือไม่ก็ ป.โทจะหาทุนไปเรียนที่นั่นซะเลย  จะเพราะอะไรนั้น ไปเริ่มดูรีวิวกันเลย

การเดินทาง
การเดินทางครั้งนี้เราไปกับการบินไทย รักคุณเท่าฟ้าค่ะ โชคดีไปช่วงโปรโมชั่น ค่าตั๋วไปกลับ 18,000 เท่านั้นค่า



เมื่อมาถึงสนามบินนาริตะ  ก็ต้องนั่งรถไปโรงแรมค่ะ  การนั่งรถจากสนามบินไปโรงแรมก็มีหลายช่องทางค่ะ  มีทั้งรถไฟใต้ดิน  แต่กระเป๋าเราใบใหญ่มาก
ขี้เกียจลากไปขึ้นรถไฟ  ก็ไปรถบัสลีมูซีนค่ะ  เราพักที่ย่าน asakusa  ค่าตั๋วลีมูซีน ก็ 2,800 เยนค่ะ



นั่งลีมูซีนยังมีข้อดีอีกข้อค่ะ  ได้ดูวิวข้างทาง ก็ตื่นเต้นดี เพราะเพิ่งมาญี่ปุ่นครั้งแรก  ถ้านั่งรถไฟก็คงเห็นอุโมงค์ ไม่เห็นวิวนะคะ

ที่พัก

และแล้วก็มาถึงโรงแรมค่ะ  เราพักที่ keihan hotel



จะบอกว่า การบริการของพนักงานโรงแรมก็เป็นหนึ่งความประทับใจของเราเลยค่ะ  บริการดีมาก  ไม่มีสายตาดูถูกเลย ว่าเราเป็นคนไทย  มาจากประเทศด้อยกว่า  ขอยกตัวอย่างการบริการที่ดีของเค้านะคะ  เราแค่ถามว่าเราอยากใส่ชุดกิโมโนต้องไปที่ไหน  เค้าก็ไม่รู้ค่ะ  แต่เค้ารีบวิ่งไปเสิชข้อมูลมาให้เป็นปึกแถมมีแผนที่ร้านเช่าให้  ใจดีมากเลยค่ะ



อันนี้เป็นรูปภายในห้องพักค่ะ  เราพักกับเพื่อน 2 คน  มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง มีเยอะกว่าบ้านเราด้วยซ้ำ  แต่ขอบอกว่าห้องเล็กมาก วางกระเป๋าก็แทบเดินไม่ได้ละค่ะ  ที่ไทยเราก็จะมีแค่สบู่กับยาสระผมให้ใช่มั้ยคะ  แต่ที่นี มีครีมนวดผม ฟองน้ำถูตัว ไดร์เป่าผม โฟมล้างหน้าของ shisedo หวีผม รองเท้าสำหรับเดินในห้อง มีดโกน ซึ่งสิ่หล่านี้พนักงานจะมาเปลี่ยนให้ทุกวันค่ะ  นอกจากนั้นยังมีเครื่องรีดผ้า  โทรศัพท์ ทีวีก็พิเศษกว่าบ้านเรานิดนึง  คือนอกจากจะมีโปรแกรมทีวีธรรมดาแล้ว  ก็ยังมีหนังต่าง  adult video ก็มีค่ะ  แต่รายการพิเศษเหล่านี้ใครอยากดูก็ต้องไปยอดตู้ เอารหัสมากใส่  1,000 เยนดูได้ 1 จ้า

เที่ยวรอบ asakusa

วันแรกพอมาถึงก็ไปหาที่ซื้อของใกล้ที่พักจ้า ก็มาเจอที่นี่จ้า



เป็นร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่มากเปิด 24 ชม.  มีตั้งสี่ชั้น  มีทุกอย่างจริงๆที่จำเป็น  อาหาร ขนม สกินแคร์  เสื้อผ้า นาฬิกา ขนม อาหาร ขนาด sex toy ยังขายเลย อิอิ

วันที่ 1 Tsukuba university

วันแรกจะต้องไปดูการสอนที่ มหาวิทยาลัย Tsukuba วิทยาเขต tokyo ค่ะ  ไปดูการสอนเด็กมัธยม ซึ่งเป็นเด็กสาธิตของมหาลัยนี้  ความรงความรู้เราไม่ค่อยได้อ่ะ  เราะเราง่วงมาก เลยหลับตอนนั่งดูการสอน  รู้อย่างเดียวว่าเดียวว่าเด็กญี่ปุ่นน่ารักมากค่ะ  แอบไปขอถ่ายรูปมาด้วยแหละ



วันแรกไปมหาลัยทั้งวัน และแวะไปวัดเซนโซจินิดหน่อย ซึ่งวัดนี้อยู่ใกล้ที่พัก ไปหลายรอบมาก เดี๋ยวจะมารีวิวที่หลังจ้า

วันที่ 2 ย่านกินซ่า Ginza

วันนี้เป็นวันแรกที่ไม่ต้องไปดูงานจ้า  เป็นวันเที่ยว ที่แรกที่เพื่อนพามา คือย่านกินซ่า  เราก็ไม่ได้ศึกษามาก่อน พอมาถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่ย่านเราอ่ะ ย่านนี้เป็นสวรรค์ของคนชอบสินค้าแบรนด์เนมเลยจ้า  เพราะรวมทุกแบรนด์ไว้ในย่านเดียว  แถมแอบถูกว่าที่ไทยด้วยนะจ๊ะ ทั้ง zara charls & keite จำไม่ได้ ไม่ค่อยรู้จักแบรนด์ เราก็แอบเบื่อนิดๆนะ เพราะเป็นคนไม่ใช้ของแบรนด์ เอาง่ายๆไม่มีตังค์ซื้อ  แต่ก็ถือว่ามาเปิดหูเปิดตาค่ะ เดินดูของแพงตามเพื่อนไป ก็ได้เห็อะไรใหม่ๆดี  สรุปว่าใครชอบเสื้อผ้า ชอบของแบรนด์เนมต้องมาย่านนี้จ้า  เพระาอย่างอื่นย่านนี้ไม่มีเลย  
แต่แบรนด์ที่ไม่แพง คุณภาพนี้ในย่านนี้ที่เราพอซื้อได้ ก็คงเป็นแบรนด์ GU จ้า รู้สึกในไทยจะไม่มี (ขออภัยไม่สันทัดเรื่องนี้จริงๆ) ราคา 1,000 -2,000 พันเยนก็มี แถมใหญ่มีหลายชั้น มีหลายแบบให้เลือกจ้า



วันนี้ตื่นสายได้เที่ยวย่านเดียวจ้า ตอนเย็นไปเดินแถวที่พักอีกเล็กน้อย

วันที่ 3 ชิบูย่า และฮาราจูกุ Shibuya & Harajugu

การมาสองย่านนี้ทำให้รู้ว่า ย่าน asakusa ที่พักอยู่นั้นช่างเป็นย่านที่สงบมาก  เพราะสองย่านนี้คนเยอะมาก  เยอะจนจะเดินชนกัน เอ่อ วันที่มา ย่านนี้เป็นวันที่ 14 กุมภา 2558 หรือวันวาเลนไทน์จ้า แอบตื่นเต้นว่าวันวาเลนไทน์ที่ญี่ปุ่นจะเป็นยังไง จะคึกคักขนาดไหน สำหรับเราที่เห็นก็ปกตินะ  คนก็เดินช๊อปกันปกติ ไม่ได้เต็มไปด้วยคู่รัก หรือดอกไม้อะไรมากมาย  แต่ก็มีกิจกรรมพิเศษบ้าง  เรามาเจอกิจกรรมที่หน้าตึก shibuya 109 ค่ะ ก็ไม่ได้ไปเล่นกะเค้า เพราะไม่รู้ว่าเล่นยังไง ฟังภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่อง  แต่ได้เก็บภาพกับมาสคอต สุดน่ารักมาด้วย



ย่านนี้เราก็ไม่ได้เดินไรมาก มาแค่ร้านขายเครื่องสำอางกะสกินแคร์ เลยไม่รู้จะรีวิวอะไร รู้แต่ว่าสกินแคร์กับเครื่องสำอางถูกมาก  เพื่อนเราเหมาเป็นกระบุง พวกเครื่องสำอางที่ญี่ปุ่นจะถูกกว่าบ้านเราอยู่แล้วทุกที่  แต่ย่านนี้คือถูกกว่าย่านอื่นค่ะ  ใครอยากได้สกินแคร์ หรือเครื่องสำอางก็มาซื้อนะ มีทุกแบรนด์จริง majolica canmake kate shisedo หรือแบรนด์ที่ไทยไม่มีก็มีนะจ๊ะ

ต่อมาก็นั่งรถมาที่ฮาราจุกุ ย่านดังของญี่ปุ่น อย่าคิดว่าย่านนี้มีแต่ชอปปิ้งนะจ๊ะที่ท่องเที่ยวอื่นๆก็มี อย่างแรกเราก็ไปเที่ยวที่ศาลเจ้า เมอิจิ เพราะมาถึงก็เย็นแล้ว เดี๋ยวจะปิดซะก่อน

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศนียบัตรชนะเลิศ การบริการยอดเยี่ยม Tripadvisor.com

Sample Text

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

VartikaAdventure Kuiburi

VartikaAdventure Kuiburi

VartKa Kuiburi

VartKa Kuiburi

Facebook Vartika Adventure Retreatic Resort

Facebook Vartika Resovilla Kuiburi

Popular Posts