"ต้น คนถ่ายภาพ" พาเดินเล่นถ่าย "Life" ด้วยกล้องและเลนส์ตัวเดียว (ภาค1)

สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวพันทิปและชาวห้องกล้องทุกคน ผมเป็นแอดมินจากเพจถ่ายภาพชื่อ "ต้น คนถ่ายภาพ" บางคนในส่วนน้อยอาจจะรู้จักหรือเคยผ่านหูผ่านตากับเพจผมมาแล้ว แต่คนอีกจำนวนมากคงไม่รู้จักแน่ๆ 5555 แต่ไม่เป็นไรเพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นในกระทู้นี้ ประเด็นของกระทู้นี้คือการพาเดินเล่นเพื่อถ่ายภาพแนว "Life" กันด้วยกล้องและเลนส์เพียงตัวเดียวต่างหาก หุๆๆ จุดประสงค์ของกระทู้นี้ก็เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแต่ไม่มีเวลาและโอกาสในการเดินทางท่องเที่ยวไกลๆ จะได้มีแรงบันดาลใจว่าไม่ว่าจะไปที่ไหนใกล้หรือไกลคุณก็สามารถหยิบเอากล้องตัวโปรดของคุณไปเดินเล่นถ่ายภาพได้ไม่ว่าจะเป็นในจุดท่องเที่ยวที่ไม่ไกลหรือแม้แต่แถวบ้านคุณเอง ซึ่งสำหรับการโพสต์นี้หากมีสิ่งไหนผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ และในกระทู้นี้จะเหมือนเป็นภาคแรกของทริปเดินเล่นในครั้งนี้นะครับอาจจะลงรูปไม่เยอะและยังไม่เล่าลงดีเทลอะไรมาก (ต้องทำงานส่งลูกค้าเยอะเลยยังไม่ค่อยมีเวลาโปรเซสภาพที่ถ่ายเล่นเท่าไหร่ คิๆๆ) ไว้ถ้ามีคนสนใจจะมาลงเพิ่มให้อีกในภาคต่อไปนะครับ เอาล่ะเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า^^

       เนื่องด้วยวันนั้นเป็นวันนึงที่ได้พักจากการไปถ่ายงานทำให้รู้สึกว่าอยากที่จะออกไปเดินเล่นพักผ่อนและถ่ายรูปอะไรที่ไม่ใช่งานดูบ้าง แต่ด้วยความที่เวลาทำงานจริงๆผมต้องแบกอุปกรณ์อันหนักหนาอยู่แล้ว จึงทำให้รู้สึกว่าขอออกไปแบบสบายๆให้สมกับคำว่าเดินเล่นหน่อยดีกว่า จึงหยิบกล้องมาหนึ่งตัวแล้วยืนมองเลนส์ที่มีว่าจะเอาตัวไหนไปดี และหลังจากที่พิจารณาอย่างแน่วแน่แล้วจึงทำให้เลนส์ที่ผมเลือกไปในวันนั้นคือเลนส์ Fix ซึ่งเหตุผลที่เลือกเลนส์ชนิดนี้เพราะว่าเป็นเลนส์ที่ให้มิติของภาพที่ดีเหมาะกับการถ่ายไลฟ์ ได้ความคมชัด ได้รูรับแสงที่กว้างซึ่งจะมีประโยชน์มากๆกรณีที่เราอยู่ในที่แสงน้อย แล้วก็อีกอย่างนึงคือการที่ทำให้เราได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนที่เราจะถ่ายด้วยครับเพราะเราอาจจะต้องเข้าใกล้กับแบบหรือคนแปลกหน้าที่เราพบเจอนั่นเองจะได้ไม่ดูเป็นช่างภาพเห็นแก่ตัวที่ยกกล้องถ่ายๆอย่างเดียวแต่เรายังได้มีการสร้างอัธยาศัยที่ดีให้กับคนที่เราจะถ่ายด้วย จึงทำให้เลือกเลนส์นี้ไปในที่สุด อ้อ! เผื่อมีใครสงสัยว่ากล้องและเลนส์ที่ผมใช้วันนั้นคือตัวไหน กล้อง Canon 70D เลนส์ Sigma 35 F1.4 Art ครับ หลังจากอุปกรณ์พร้อมแล้วเราก็ออกเดินทางกันดีกว่า Let's Go!! และที่แรกที่เราจะไปคือ "ร้านข้าวแถวบ้าน" ครับ 5555+ อย่างที่เค้าว่ากันว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง สั่งอะไรพื้นๆมากินกันตายก่อนออกเดินทาง และก่อนออกจากร้านจึงให้ป้าแกมายืนยิ้มหวานเป็นนางแบบให้ด้วยเป็นการเริ่มต้นการถ่ายไลฟ์ที่สวยงามจริงๆ หลังจากออกจากร้านแล้วสถานที่ต่อไปที่เราไปก็คือ "เกาะเกร็ด" ครับ ใครเคยไปเกาะเกร็ดต้องเคยโดนเจ้าทีเร็กซ์ตัวนี้ขู่คำรามใส่หรือไล่งับแน่ๆ 5555 พี่แกเก่งจริงๆครับบังคับได้ราวกับเจ้าทีเร็กซ์นั้นมีชีวิตจริงๆเลย 0< จากนั้นต่อมาเราก็ไปต่ออีกหลายจุด(ขอข้ามอย่างเร็วๆก่อนเน้อ หุๆๆ) จนเราได้มาเจอกับหนึ่งในแลนด์มาร์คของเกาะเกร็ดนั่นคือจุดทำเครื่องปั้นดินเผานั่นเอง ซึ่งจะเจอคุณลุงใจดีนั่งปั้นเครื่องปั้นให้ดูอย่างอารมณ์ดีและก็มีการสอนปั้นด้วย (ในส่วนของเกาะเกร็ดเดี๋ยวผมจะมาทำรีวิวการเที่ยวที่นี่ให้อีกทีแบบเต็มครับ) ทีนี้หลังจากเดินเล่นถ่ายรูปที่เกาะเกร็ดมาจนถึงเวลาประมาณหนึ่งจึงคิดว่าย้ายที่ดีกว่า ซึ่งสถานที่ที่เราจะไปกันต่อก็คือสถาานที่นึงที่เหมาะกับการเดินถ่ายรูปเล่นมากๆนั่นก็คือ "สนามหลวง" ครับ^^ เพราะว่าจากที่นี่เราสามารถเดินทะลุไปจุดนั้นจุดนี้ได้อีกมากมายและมีวิถีชีวิตให้เราแช๊ะรูปค่อนข้างเยอะครับ ซึ่งผมก็เลือกเดินทางไปสนามหลวงด้วยการนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาครับ ชิวๆกันไป คิๆๆ ฝรั่งยังมานั่งเรือเล่นถ่ายรูปเลยนะเนี่ย^^
     แล้วทีนี้พอขึ้นจากท่าเรือผมก็แพลนไว้ว่าจะเดินไปถ่ายรูปที่เสาชิงช้าดีกว่า ซึ่งก่อนจะถึงเสาชิงช้าก็ต้องเดินผ่านวัดพระแก้ว กระทรวงกลาโหม และพื้นที่หลังกระทรวงฯ ทำให้เราพอจะเห็นจุดที่จะถ่ายรูปได้แล้วว่ามีจุดไหนบ้างก็ไปกันต่อเลยดีกว่า (ซึ่งจากท่าเรือไปจนถึงเสาชิงช้านั้นผมใช้วิธีเดินเท้าอย่างเดียวนะครับเพื่อปล่อยกายปล่อยใจไปกับถ่ายรูปเล่นอย่างแท้จริง) ระหว่างผ่านวัดพระแก้ว ระหว่างผ่านกระทรวงกลาโหม ส่วนคุณลุงยิ้มหวานนี่ขายของอยู่แถวหลังกระทรวงฯครับ^^

         **อันนี้ผมจะแนะนำเทคนิคในการเข้าไปถ่ายรูปคนแปลกหน้าที่เราพบเจอให้นะครับ อันนี้เป็นเทคนิคที่ผมใช้นะครับแล้วมันมักจะได้ผลทุกที 1. ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไปทักทายเค้า 2.ชวนคุยเรื่องสัพเพเหระบ้าง ไม่ใช่เจอปุ๊ปก็ยกกล้องหรือจะขอถ่ายรูปอย่างเดียว 3. ถ้ากรณีคนที่อยากจะถ่ายเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ช่วยอุดหนุนเค้าบ้างสักนิดหน่อยแล้วใช้อัธยาศัยที่ดียิ้มแย้มบอกขอเค้าปกติแล้วก็จะให้ทุกคนครับ 4. ถ้าคนที่เราอยากจะถ่ายดูแล้วไม่เป็นมิตรก็ใช้วิธีแคนดิตเค้าก็พอครับ เพราะหากทะเล่อทะล่าเข้าไปอาจมีปัญหาได้แต่ถ้าเลนส์ที่ใช้ไม่เหมาะกับการแคนดิตก็อย่าไปถ่ายเค้าเลยครับ 5. อย่าลืมแจ้งความจำนงว่าจะถ่ายรูปเค้าไปทำอะไร เพราะถึงบางคนจะยอมให้เราถ่ายภาพเค้าได้แล้วแต่ลึกๆเค้าก็จะแอบกลัวครับว่าเราจะเอาภาพเค้าไปทำอะไรไม่ดีรึเปล่า ในเมื่อเราคิดจะเป็นผู้รับจากเค้าแล้วควรดูแลสวัสดิภาพของเค้าเหล่านั้นด้วยนะครับ 6. หากมีโอกาสตอบแทนเค้าได้ก็ตอบแทนเค้าบ้างเช่น คนที่เราถ่ายภาพเค้าทำงานอยู่ตรงนั้น ทำมาค้าขายอยู่ตรงนั้น หากมีโอกาสก็อัดรูปที่เราถ่ายเค้าไปให้บ้างเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจเค้าก็จะดูเป็นคนถ่ายภาพที่น่ารักมากครับ 6 ข้อนี้ผมทำแล้วทำให้ผมมีโอกาสได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ที่พบเห็นและได้ถ่ายภาพเค้าด้วยความเต็มใจจริงๆ ซึ่งหวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกๆคนนะครับลองเอาไปใช้กันดู ^_^

         ทีนี้เราก็เดินๆๆแล้วก็เดินกันต่อเพื่อจะไปให้ถึงจุด Check point ของเราที่เสาชิงช้า และนี่ก็คือภาพที่เก็บมาระหว่างทางครับ โดยส่วนตัวผมชอบภาพลุงแก่ดูดบุหรี่ในภาพด้านล่างนี้มากๆ เพราะตอนนั้นคิดว่าอยากได้ภาพคนแก่ดูดบุหรี่ชัดๆจัง พอคิดปุ๊ปก็เจอลุงคนนี้ดูดให้ตามที่ใจต้องการเลยทีเดียว และแล้วในที่สุดผมก็เดินมาถึงจนได้ครับที่ "เสาชิงช้า" พอเดินมาถึงที่นี่แล้วก็แวะเข้าไปไหว้พระในวัดสุทัศน์ที่อยู่ติดกันสักหน่อยแล้วก็ถ่ายรูปเล่นอยู่ครู่หนึ่ง แต่ด้วยความที่ไฟยังไม่มอดยังมีความอยากจะหาจุดถ่ายรูปเล่นอีก จึงคิดว่าจะไปที่เยาวราชกันต่อดีกว่าเพราะที่นั่นน่าจะถ่ายอะไรได้เยอะ แต่คราวนี้เริ่มขี้เกียจเดินละเลยขอโบกตุ๊กๆและโดดขึ้นไปเลยดีกว่า หุๆๆ แล้วหลังจากนั้นเมื่อไปถึงเยาวราชแล้วผมก็ไม่รอช้ารีบโดดลงจากรถตุ๊กๆแล้วรีบวิ่งหนีไปไม่จ่ายเงิน  เอ๊ย!!ไม่ช่ายย จ่ายเงินเสร็จแล้วก็ตะลุยกันต่อเลยต่างหากกกก.........

        ***โปรดติดตามต่อในตอนต่อไป ภาค2 นะคร้าบบบ***

หากใครอยากแวะเข้าไปทำความรู้จักกับเพจของผมหรือลองชมภาพถ่ายผลงานอื่นๆไปพลางๆก็เข้าไปได้เลยครับที่ เพจ "ต้น คนถ่ายภาพ" www.facebook.com/hackerty ยินดีต้องรับและขอบคุณทุกๆคนมากๆนะครับ^^ แก้ไขข้อความเมื่อ