วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เป็นกระทู้แรกที่เขียนนะครับ  ดองมาหลายเดือนแล้วตัดสินใจอยู่ว่าจะรีวิวลงพันทิพดีไหม  เนื่องจากเราก็ได้แรงบันดาลใจจากการท่องเที่ยวรูปแบบนี้มาจากอ่านรีวิวในพันทิพย์ ดังนั้นเราจึงอยากจะแบ่งปันต่อเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้บ้าง สุดท้ายก็ได้เวลาบรรเลงคีบอร์ดเสียที  ทริปเชียงรายนี้เราไปกันวันที่ 12-17 ธันวาคม 2557  นอกจากไปเที่ยวแล้วพวกเราคิดว่าจะเอาของเล่น และขนมไปแจกเด็กๆบนดอยด้วย  โดยเราซื้อของเล่นและตุ๊กตาจากสำเพ็ง 2 อย่างรวมกันประมาณ 110 ชิ้น  แล้วก็มึลูกโป่งอีกเกือบ 100 ลูก  กะว่าจะไปแจกเด็กสัก 100 คน   ตอนที่ไปซื้อของเล่นเกิดเหตุนิดหน่อย  ขณะกำลังเลือกซื้อของไปแจกเด็กก็โดนโจรกรีดกระเป๋าถือแล้วล้วงเอากระเป๋าตังไป   แต่ก็ยังโชคดีที่มีเงินไม่กี่ร้อยในกระเป๋าตัง แต่ก็ต้องเสียเวลาไปแจ้งความ โทรอายัดบัตรแล้วก็กลับมาซื้อของเล่นต่อ  ส่วนขนมเราซื้อจากโลตัสในกรุงเทพไปส่วนนึงแล้วก็จะไปซื้อเพิ่มที่บิ๊กซีเชียงราย เนื่องจากจะเดินทางไม่สะดวกถ้าซื้อไปทั้งหมดจากกรุงเทพ


เริ่มออกเดินทางวันที่ 12 ธ.ค.ตอน 17.40 ด้วยรถทัวร์นครชัยแอร์  คนละ 699 บาทครับ  แต่ละเบาะบนรถจะมีจอแท๊ปเล๊ตให้ดูหนังฟังเพลงด้วยครับ  เดินทางไปถึงสถานีขนส่งเชียงรายวันที่ 13 เวลา 6.00 น. เร็วกว่ากำหนด 1 ชั่วโมง  ผมนัดเพื่อนที่อยู่เชียงรายไว้ตอน 7 โมง เพื่อนจะมารับจากขนส่งไปกินข้าวเช้าในเมืองแล้วก็พาไปรับรถเช่า  โดยการไปเที่ยวครั้งนี้เราได้เช่ารถฮอนด้าแจ๊สเพือขับเที่ยวตลอดทริป  ในราคาวันละประมาณ 850 กว่าบาท รวมค่าประกันอุบัติเหตุและประกันรถหายเรียบร้อย โดยซื้อในงานที่ยวไทยตั้งแต่กลางปี    และเรานัดรับรถที่บริษัทเช่ารถซึ่งอยู่ใกล้ๆหอนาฬิกาเวลา 8.30 โมง  แต่เมื่อเรามาถึงก่อนเวลาเราก็เลยเปลี่ยนแผนโดยเพื่อนเสนอว่าจะขับรถพาไปเที่ยววัดร่องขุ่นก่อนแล้วจึงพาไปรับรถ


วัดร่องขุ่นในวันที่ฟ้าไม่ค่อยสดใส    วันที่ผมไปถึงเชียงรายจะเป็นวันแรกๆที่เริ่มหนาวท้องฟ้าจะขมุกขมัวเกือบตลอดทั้งทริป  




หลังจากเที่ยววัดร่องขุ่นเสร็จเราก็กลับไปกินอาหารเช้าในเมืองแล้วก็ไปรับรถเช่า  แล้วก็ไปแวะซื้อขนมและนมกล่องเพิ่มที่บิ๊กซี  ซึ่งก่อนเดินทางมีน้องที่อยู่ลพบุรีร่วมสมทบทุนซื้อขนมให้น้อง  และเพื่อนของผมทั้ง 2 ท่านที่เชียงรายก็ได้มาแวะซื้อขนมที่บิ๊กซีเพิ่มให้อีกด้วย  ขอบคุณทั้ง 3 คนที่ร่วมทำบุญเป็นอย่างสูง  หลังจากซื้อของเสร็จเราก็ไปเที่ยวไร่บุญรอดต่อ


ไร่บุญรอด










จากนั้นก็ได้เวลาขึ้นดอยแม่สลอง วันนี้เราจะไปนอนบนดอยแม่สลองที่บ้านหอมหมื่นลี้


เราไปถึงที่พักช้ากว่าที่คิดไว้มาก  ซึ่งกว่าจะไปถึงดอยแม่สลองพระอาทิตย์ก็จะลับขอบฟ้าเสียแล้ว  ภาพนี้ถ่ายระหว่างทางก่อนจะถึงดอยแม่สลอง


เมื่อมาถึงที่พัก(บ้านหอมหมื่นลี้) พระอาทิตย์ก็ตกดินเสียแล้ว  คงเหลือไว้แต่แสงสีม่วงเพียงน้อยนิดให้เก็บภาพ


มื้อค่ำบนดอยแม่สลองของเรา  ร้านอิ่มโภชนา (แวะตามมาชิมจากการดุรีวิวในพันทิพย์)  นั่งกินไปหนาวไป  


ระหว่างกินข้าวเราเจอเป้าหมายแรก  เราก็รีบลุกมาแจกของเลย (กลัวไม่ได้แจก)  แต่หลังจากนั้นเป้าหมายแรกของเราก็ไปตามเพื่อนๆมาอีกหลายคน  เราก็เลยต้องให้เด็กๆรอให้เรากินข้าวเสร็จเสียก่อนน้องผู้ ญ ได้ตุ๊กตา


น้องผู้ชายได้ของเล่น


น้องๆชาวเขานับถือคริสต์  และต้องเรียนภาษาจีนหลังจากเลิกเรียนทุกวัน


ตื่นเช้ามาเราก็ไปเดินเที่ยวตลาดแม่สลอง  และออกไปหาเป้าหมายในการแจกของเล่นและขนม


บรรยากาศในตลาดดอยแม่สลอง






แม่บ้านบนดอยแม่สลองที่มาจ่ายตลาดจะมีตะกร้าแบบนี้กันแทบทุกคน  แม่ของผมก็ยังใช้ตะกร้าไปจ่ายตลาดอยู่แต่เป็นตะกร้าแบบถือ (ถ้าคนในเมืองใช้ตะกร้าแบบหรือถุงผ้าไปจ่ายตลาดก็น่าจะลดการใช้ถุงพลาสติกลงไปได้ในอีกระดับนึง)


ผมคิดว่าผมเจอเป้าหมายล่ะ


น้องผู้ ญ รับตุ๊กตาไป พร้อมขนม



น้องผู้ชายเป่าลูกโป่งโชว์ทันที


2 คนนี้เป็นพี่น้องกันครับ  ผมจะถามชื่อเด็กๆทุกคนที่ผมได้แจกขนมให้  เพื่อเป็นการฝึกให้เขากล้าพูดคุยตอบโต้กับนักท่องเที่ยวบ้าง  เด็กชาวเขาส่วนใหญ่จะขี้อายครับ


จากนั้นก็เริ่มเจอเป้าหมายต่อเนื่องเลยครับ



หนุ่มน้อยผู้นี้เหมือนจะมาซื้อของเล่นที่ตลาดนะครับ  เห็นถืออยู่ในมือก่อนหน้าแล้ว  แต่เราไม่สนครับ  เราแจกหมดไม่มีข้อยกเว้น


สาวน้อยผู้นี้ขี้อายมากครับ  เห็นยืนหลบหลังพ่ออย่างเดียวไม่กล้าคุยโต้ตอบกับเรา


ร้อยยิ้มของเด็กน้อย



แม่ค้าชาวเขาแต่งตัวเต็มยศ


คนนี้มีลูกที่บ้านอีกคน  เราก็ฝากของไปให้ครับ








หนุ่มน้อยผู้นี้เพิ่งได้ของจากเราไป  ก็เป่าลูกโป่งโชว์เราซะเลย  ปอดแข็งแรงมากนะครับ  นี่เป่าลูกที่ 2 แล้ว  เห็นน้องชอบเป่าลูกโป่งเราก็ให้ลูกโป่งเพิ่มไปอีก



หน้าดุมาเลยนะครับ  นึกว่าจะโดนเด็กดอยเล่นซะแล้ว


พอแจกขนมมือไม้ก็อ่อนลงในทันตา


เป้าหมาย 2 สาว คนสุดท้ายบนตลาดเช้าของดอยแม่สลอง



หลังจากนั้นเราก็กลับมาทานอาหารเช้าที่บ้านหอมหมื่นลี้  อาหารเช้ารวมอยู่ในค่าที่พัก 1200 บาท/ห้อง  สำหรับ 2 ท่านแล้วนะครับ  อาหารทานได้ไม่อั้นนะครับมีทั้งก๋วยเตี๋ยว ปลาท่องโก๋  ชา กาแฟ  โอวันติล




วิวจากระเบียงห้องอาหารของบ้านหอมหมื่นลี้ครับ


หลังจากทานอาหารแล้ว  เราก็ไปหาที่เที่ยวกันต่อบนดอยแม่สลอง ระหว่างทางก็แวะถามทางเด็กๆไปเรื่อย แล้วก็แจกของไปด้วย น้องคนนี้ป้อนข้าวน้องอายุ 1 ขวบอยู่  เราก็แจกให้ทั้ง 2 คน


น้องคนนี้กำลังจะข้ามถนนตัดหน้ารถเรา  เราก็เลยเปิดกระจกแล้วก็เรียกมาตักเตือนด้วยการให้ของเล่นกับขนมกลับไป  ผมชอบภาพนี้มากที่สุดแม้มันจะไม่ชัดก็ตามเนื่องจากรีบถ่ายจากบนรถ  แววตาของเด็กในภาพแสดงออกถึงความสุขอย่างชัดเจนมาก


พระบรมธาตุ เจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี



วิวจากพระธาตุมองกลับลงไปเห็นที่พักของเรา



พ่อค้าน้อยบนค้าพระธาตุ




ได้ของแล้วเทสเลย  ท่าทางจะสนุกมากไปหน่อยจนได้ยินเด็กคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า "ลานหมดอายุเหรอ"  หมายถึงลานของรถพังนั่นเอง


เส้นทางขึ้นพระธาตุ


ลงมาจากพระธาตุเราก็มาแจกของเล่นต่อในตลาดขายของฝากของดอยแม่สลอง


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศนียบัตรชนะเลิศ การบริการยอดเยี่ยม Tripadvisor.com

Sample Text

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

VartikaAdventure Kuiburi

VartikaAdventure Kuiburi

VartKa Kuiburi

VartKa Kuiburi

Facebook Vartika Adventure Retreatic Resort

Facebook Vartika Resovilla Kuiburi

Popular Posts