วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558

สวัสดีครับ วันนี้วันเสาร์วันหยุดอยู่หอเซงๆเบื่อๆอีกแล้ว ไม่ค่อยชอบอยู่ห้องแต่ก็ไม่อยากออกไปเตร่ๆในกรุงเทพเพราะมีแต่หมอกควันและคอนกรีต จึงนึกอยากออกไปต่างจังหวัดไกล้ๆแบบไปเช้าเย็นกลับได้ มีกิจกรรมให้ทำ ซึ่งล่าสุดไปเกาะล้านแล้ว คราวนี้ไกล้สุดมีกิจกรรมให้ทำก็นึกออกแค่อยุธยา เอ้า !! ถ้างั้นไปอยุธยาละกันครับ 5555 แจ้งก่อนว่าในรีวิวอาจจะไม่มีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่มากนักนะครับเนื่องจากผมไม่ได้เตรียมตัวและไม่ได้วางแผนล่วงหน้ามาครับ และต้องการแค่จะมาเที่ยวชมความสวยงามของโบราณสถาน ชมวิถีชีวิตผู้คน และบรรยากาศการท่องเที่ยวครับ และสาเหตุที่เลือกไปที่นี่ เพราะ
1. ไปเช้าเย็นกลับได้
2. ได้นั่งรถไฟชมบรรยากาศ และที่สำคัญคือ ฟรี หุหุ
3. ระยะทางกำลังดีครับ
4. มีกิจกรรมคือปั่นจักรยาน หรือ มอเตอร์ไชค์ รอบเมือง
5. นึกไม่ออกแล้ว แค่นี้ละกัน อิอิ

สิ่งที่ควรเตรียม
-หมวก/ร่ม
-ทากันแดดด้วยก็ดีครับ แดดแรงมาก
-น้ำดื่มครับ ขวดใหญ่ๆ
-นอกนั้นแล้วแต่สะดวกตามจุดประสงค์การมาของท่านเลยครับ 5555
ว่าแล้วก็จัดกระเป๋า ออกเดินทางกันเลยละกันครับ เช่นเคยนะครับ ทริปนี้เดินทางคนเดียว และใช้กล้อง I phone 4s คู่ใจครับ พร้อมแล้วออกเดินทางไปด้วยกันเลยครับ 5555



10.20 น เช้า ออกจากหอครับนั่งรถเมล์สาย 122 ไปลงเซ็นทรัลลาดพร้าว แล้วเดินไปต่อสาย 510  เส้นวิภาวดีรังสิตครับ เพื่อไปสถานีรถไฟดอนเมือง


11.15 น ก็มาถึงสถานีรถไฟดอนเมืองครับ


จากนั้นพุ่งตัวไปยังห้องจำหน่ายตั๋วแล้วยื่นบัตรประชาชน เพื่อรับตั๋วฟรีไปอยุธยาครับ ผมได๋ตั๋วเวลา 12.12 น. ออกจากสถานีดอนเมืองครับ ลักษณะตั๋วแบบนี้นะแจ๊ะ ถ้าต้องการตารางเวลาเดินรถเผื่อตอนขากลับจะได้กะเวลาถูกก็ขอกับเจ้าหน้าที่ห้องจำหน่ายตั๋วได้เลยนะครับ


ระหว่างรอรถไฟก็ซื้อน้ำดื่มและจกข้าวปั้นที่ซื้อไว้จากแฟมิลี่มาร์ทเมื่อคืน อิอิ


บรรยากาศในสถานีรถไฟดอนเมืองครับ


ช่วงที่ผมรอรถไฟผมก็จินตนาการไว้ว่า จะนั่งริมหน้าต่างรับลม ชมวิว ทำมิวสิควีดีโอ 55555 แต่เมื่อรถไฟมาถึงก็.......แม่จ้าวววว เต็มทุกที่นั่งครับท่าน เนื่องจากเป็นวันเสาร์มีนักท่องเที่ยวและประชาชนมากมายเราจึงต้องยืน เหอๆ หมดกัน


2 หนุ่มชาวเรา เอ้ย!!! 2 หนุ่มชาวต่างชาติ


ผ่านไป 2-3 สถานี ก็จะมีคนเริ่มลงบ้าง ผมจึงได้นั่งครับ  ทีนี้หละ ได้ทำมิวสิควีดีโอละ 55555 แชะๆเก็บบรรยากาศเล็กน้อยระหว่างทางครับ



13.04 น ก็มาถึงสถานีอยุธยาครับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม


จากนั้นก็เดินเข้าไปในซอยตรงข้ามสถานีนะครับ เพื่อไปยังท่าเรือข้ามฟากครับ เด็ก 4 บาท ผู้ใหญ่ 5 บาทครับ


เรือมาแล้วครับ หุหุ




พอข้ามฝั่งมาขึ้นจากเรือก็จะเจอร้านให้เช่าจักรยานและมอเตอไซค์ครับ เนื่องจาก จขกท ไม่ถนัดขับมอเตอไซค์ในเมืองที่ไม่คุ้นเคย+เน้นประหยัด เราจึงเลือกเช่า จักรยานครับ ค่าเช่า 40 บาท+GPS นำทางสุดเจ๋งแบบนี้ครับ 5555



ที่ร้านเช่าคุณน้าจะแนะนำเส้นทางเบื้องต้นให้ก่อนะครับว่าที่ไหนควรไป ไปทางไหน และหากเกิดเหตุยางแตกหรือมีปัญหาก็โทรเรียกได้เลย คุณน้าจะบุกไปหาเราเองถึงที่ยิ่งกว่าประกันภัยชั้น1 ครับ 555 จากนั้นพร้อมแล้วก็ปั่นโลดครับ


พอปั่นมาซัก 1 กิโล ตามที่คุณน้าบอกจะเจอวัดมหาธาตุครับ เสียค่าเข้าชมสำหรับคนไทย 10 บาทครับ



ไฮไลท์ของวัดนี้ครับ มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจถ่ายรูปเยอะมากครับ


บรรยากาศโดยรอบครับ



ข้างๆวัดมหาธาตุก็จะเป็นวัดราชบูรณะครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเนื่องจากมีการบูรณะอยู่ครับ จากนั้นก็ปั่นหลงๆวนๆอยู่แถวนั้นซักพัก 555 พยายามดูแผนที่แล้วปั่นไปตามนั้นก็มาถึงอีกสถานที่สำคัญคือ วิหารพระมงคลบพิตร แต่เนื่องจากคนเยอะมากผมจึงไม่ได้เข้าไปข้างในครับ


จากนั้นก็ปั่นต่อ หอบแป๊บ แฮ๊กๆ แถวนั้นก็จะมีสถานที่สำคัญหลายแห่งใกล้ๆกันครับ
วัดพระรามครับ


พี่ช้างระหว่างเส้นทางครับ หุหุ


ปั่นเลยไปหน่อยก็จะเจอ ปางช้างครับ เต็มไปด้วยพี่ช้างมากมาย อิอิ น่าร๊ากก


ปั่นๆๆๆๆจนตอนนี้จะบ่าย 3 แล้วลืมไปว่ายังไม่กินข้าวเที่ยงเลย  ระหว่างทางเจอร้านผัดไทตรงข้ามโรงเรียนดำรงศ์วิทยา  จึงแวะทานครับ รสชาติสำหรับผมเฉยๆนะครับ



อิ่มท้องแล้ว ก็ปั่นๆกันต่อครับ ระหว่างทางมีวัดและสถานที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากมายที่อาจไม่ได้เอ่ยถึงนะครับ จุดหมายต่อไปจึงปั่นไปวัดไชยวัฒนารามครับ ค่อนข้างไกลและต้องปั่นขึ้นสะพานด้วยครับ งานนี้เล่นเอาเหงื่อโชก เนื่องจากอากาศร้อนจัดครับ และแล้วผมก็มาถึงครับ






ทีแรกกะจะมารอชมพระอาทิตย์ตกดินตอน 17.30 น ตามที่คุณน้าเช่า จยย แนะนำไว้แต่เนื่องจากผมมาถึงวัดเร็วประมาณบ่าย3กว่าๆเดินชมเสร็จก็เพิ่งบ่าย4โมงและกลัวจะกลับค่ำ จึงเลือกที่จะไม่รอและปั่นกลับครับและคืนจักรยานตอนเกือบ 5 โมงเย็น คุณน้าเช่า จยย ก็ให้ของที่ระลึกเป็นชุดโปสการ์ดสวยงาม ชอบมากๆครับ อิอิ


ร้านคุณน้าครับ


จากนั้นก็นั่งเรือข้ามฟากกลับ แล้วก็ไปรอรับตั๋วรถไฟฟรีซึ่งต้องรอรับตั๋ว 6 โมงเย็น และรถไฟออกจากอยุธยา 18.47 น ผมนั่งพักผ่อนรอในสถานีเลยครับ เพราะเหงื่อท่วมมาก 555


ได้ตั๋วกลับแว้วววววว


บรรยากาศก่อนกลับก็มีนักท่องเที่ยวมากมายเช่นเดิม




จบทริปแล้วครับ ข้อมูลไม่เยอะมากเท่าไหร่ ยังไงขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

ท้ายนี้จะบอกว่าเป็นทริปที่สนุกมากครับแม้อากาศจะร้อนไปซักหน่อย แต่ตลอดเส้นทางที่เราปั่นจักรยานผู้คนที่ผมพบเจอหรือคนที่สอบถามเส้นทางดูเป็นมิตรและเป็นเจ้าบ้านที่น่ารักมากๆ ขนาดไปซื้อแค่น้ำเปล่าผมยังไม่เอ่ยอะไรเลยคนขายน้ำก็คุยแนะนำที่เที่ยวผมใหญ่เลยน่ารักและกันเองมากๆครับ

สรุปค่าใช้จ่าย
-วินมอเตอร์ไซค์จากหอ 20 บาท ไป-กลับ
-รถเมล์ 2 ต่อ 38 บาท ไป-กลับ
-รถไฟ ฟรี .....  ไป-กลับ
-เช่าจักรยาน 40 บาท 1 วัน
-เรือข้ามฟาก 10 บาท ไป-กลับ
-ผัดไทกุ้งสดพิเศษ+น้ำส้ม  55 บาท
-น้ำดื่ม 44 บาท (อันนี้ดื่มไปหลายขวดมากเพราะอากาศร้อนมากครับ55)
-ค่าเข้าห้องน้ำ 14 บาท (เข้าที่สถานีรถไฟอยุธยา 3 บาท เข้าที่วัดไชยวัฒนาราม 5 บาท)
-ค่าเข้าชม 2 ที่ 20 บาท (ที่ละ 10 บาท )
------รวม 241 บาทครับ ------

แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า สวัสดีครับ แก้ไขข้อความเมื่อ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศนียบัตรชนะเลิศ การบริการยอดเยี่ยม Tripadvisor.com

Sample Text

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

VartikaAdventure Kuiburi

VartikaAdventure Kuiburi

VartKa Kuiburi

VartKa Kuiburi

Facebook Vartika Adventure Retreatic Resort

Facebook Vartika Resovilla Kuiburi

Popular Posts