
นี้เป็นกระทู้แรกของเด็กดอยอายุยี่สิบที่มีแรงบันดาลใจจากหลายๆกระทู้ในเว็บพันทิปนี้
ออกตัวก่อนว่าการไปต่างประเทศครั้งนี้เป็นการไปต่างประเทศครั้งแรกของเราเอง
ซึ่งเราไม่เคยไปไหนไกลๆคนเดียวเลย
ด้วยเหตุผลนี้แหละเรามาดูกันว่าผู้หญิงอายุยี่สิบที่ไม่เคยไปไหนไกล หรือไม่เคยนั่งรถเมลล์ หรือใช้รถไฟฟ้า
รวมทั้งภาษาอังกฤษง่อยๆ จะใช้ชีวิตต่างแดนเป็นเวลาห้าวันยังไง ??

ขอต้อนรับทุกท่านสู่ประสบการณ์การ การร่อนเร่พเนจรต่างแดนของเด็กดอย ผู้พกพาสกิลภาษาอังกฤษระดับง่อยๆ เยือนต่างแดนครั้งแรกได้เลยค่า



ด่านแรก
ก่อนอื่นอุปสรรคสำคัญของเราหรือหลายๆคนอาจจะประสบปัญหาแบบเรา
คือ "การคุยกับพ่อแม่"
ซึ่งมันเป็นเรื่องหนักใจสำหรับเราเลยทีเดียวเนื่องจากสาเหตุอย่างที่บอกไปข้างต้น
บวกกับเราเป็นลูกคนเล็กและเป็นผู้หญิงด้วย ทำไรก็ไม่เคยทำด้วยตัวเอง อยู่ที่บ้านก็มีคนทำให้ตลอด ทำไรต้องอยู่ในสายตาผู้ใหญ่
(ปล. ที่บ้านเราพ่อแม่ค่อนข้างเลี้ยงลูกแบบคนหัวโบราณ

แต่!ทำไงได้เมื่อความอยากบังเกิดเกินกว่าอะไรจะห้ามไหว บวกความเกรียนและความกล้า บ้าบิ่นเฉพาะตัว
จึงตัดสินใจกดจองตั๋วเครื่องบินช่วงโปรโมชั่นด้วยความงงๆ
เก็บเงินแบบเงียบๆ โดยที่ยังไม่ได้บอกให้ที่บ้านรู้ !!! (นังนี่ช่างกล้าจริงๆ

แต่ถึงยังไงความลับมักไม่มีในโลกกกกกกกกก (ก ไก่สามล้านตัว)
เมื่อรวบรวมความกล้าเปิดปากอ้อนวอนขอร้องท่านแม่
(แม่เราเป็นใหญ่ที่สุดในบ้านคะ ถ้าแม่อนุญาตทุกคนในบ้านก็ไม่มีปัญหา 55

สุดท้าย
.
.
.
.
.
แม่ก็ให้ไป เย้ๆ ๆ ๆ


ถึงยังไงขาข้างหนึ่งเราก็แหย่ออกไปนอกกรอบคร่ำครึนี้แล้ว ก็ต้อง The show must go on !
เอา วะ ! ต่อให้ช้างมาฉุด ตูก็ไม่สนแล้ว



15/01/57 ก้าวแรกสู่มาเก๊า ลาสเวกัสแห่งโลกตะวันออก
บอกตรงๆ ถึงแม้จะดีใจในตอนแรกแต่พอถึงวันเดินทางเท่านั้นแหละ รู้สึกไม่เหมือนตัวเองสุดๆ กังวล ผสมกับความตื่นเต้นไปหมด
เหมือนเราไปเผชิญโลกอีกโลกหนึ่ง โลกที่ไม่ใช่โลกใบเดิมใบเดิมเหมือนที่ใช้ชีวิตอยู่ในทุกวันๆ
(เวอร์ร์ร์มากนังนี่ แหะๆ

ทริปนี้เราเริ่มออกเดินทางจากเชียงใหม่ไปมาเก๊า โดยสารการบินแอร์เอเชีย สายการบินที่ใครๆก็บินได้ๆ รวมทั้งเด็กดอยแบบเรา
กราบขอบพระคุณแอร์เอเชียมา ณ ที่นี้

(น้ำตาจิไหลลลลล ถึงแม้จะใช้ตังตัวเองจ่าย 5555 แต่ก็ช่วยเราประหยัดเงินไปได้เยอะ

ด้วยเที่ยวบิน FD 752 จากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เวลา 11:55 am ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมาเก๊า เวลา 3:25 pm


และแล้วก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง

ขอสักแชะกับเจ้าหางแดง หนึ่งรูปที่ใครๆก็ควรค่าแก่การถ่ายเก็บไว้



ครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การครั้งแรกที่เรานั่งเครื่องบินคะ ที่นั่งของเราคือ 17A


ขาเกือบติดพนักด้านหน้านิดหน่อยแต่ไม่เป็นไรคะ
และแล้วก็ถึงเวลาอำลาไทยแลนด์แดนสมาย บายๆ เจียงใหม่จ้าว แล้วป๋ะกั๋นใหม่







นี้เป็นหน้าตาอาหารที่เราสั่งจากเว็บไว้กินบนเครื่องคะ ถือว่ารสชาติอร่อยใช้ได้เลย


บนเครื่องเรานั่งติดกับคุณตาคุณยายชาวจีนคู่หนึ่ง คุณตาชาวจีนที่นั่งข้างเรา พูดภาษาอังกฤษเก่งมากเลยคะ นับถือๆ


แปบๆ เราก็เดินทางมาถึงมาเก๊าโดยตลอดระยะเวลาที่อยู่บนเครื่องเราไม่หลับเลยคะ เพราตื่นเต้น 555

Helloooooooooo!! MACUA

ก่อนลงจากเครื่องก็ต้องเอากระเป๋าที่อยู่บนที่นั่งของเรา เนื่องจากเรานั่งติดหน้าต่างและนั่งในสุดเลยไม่สามารถเอากระเป๋าได้อย่างสะดวก
แต่คุณยายชาวจีนที่นั่งอยู่ด้านนอกสุด แกใจดีมากพูดเป็นภาษาจีน ที่เราไม่เข้าใจแล้วมโนไปเองว่า
'กระเป๋าด้านในใช่ของเราหรือเปล่า?'
ไอ้เราก็ไม่รู้ว่าที่มโนไปถูกหรือไม่ แต่หัวเราดันพยักหงึกหงึกไปแล้ว ฮา

พอลงจากเครื่องด้วยความที่ไม่เคยมามาเก๊ามาก่อนไอ้เราก็ไม่รู้ว่าต้องเดินไปไหน ก็เดินตามผู้โดยสารท่านอื่นไป
จนไปเจอกับตม. ความรู้สึกเราตอนนั้นที่เจอตม. บอกตรงๆเลยคะ กลัวสุดๆ

ด้วยความที่ไม่เคยมาต่างประเทศเลย พลาสปอร์ตก็ข๊าวขาววววววววจะขาวไปไหน ก็เลยขอไปตั้งหลักในห้องน้ำก่อน
แต่ปรากฏว่ามีแต่คนเข้าห้องน้ำจนแถวล้นออกมาด้านนอก

เราเลยตัดใจเดินมาต่อแถว เอาวะ!ไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน
เด็กดอยเลยต้องจำยอมไปต่อแถวแบบตัวสั่นๆ

ถึงแม้ตอนอยู่ที่ไทยเราเป็นคนกล้ามากๆ โดยเฉพาะเรื่องที่คนอื่นเค้าไม่ทำกันนั้นไม่อายเลยคะ แต่ ณ จุดนั้นเราสั่นจริงๆคะ
พอถึงคิวเราเราก็ยื่นพลาสปอร์ต แล้วตีหน้านิ่งๆไว้ เจ้าหน้าที่ก็เปิดพลาสปอร์ตเรา แล้วจ้องเราซักพัก
จากที่พยายามตั้งสติไม่ให้สั่นอีกก็เริ่มสั่นแต่เราก็ทำหน้านิ่งจ้องเจ้าหน้าที่กลับ 555555
เตรียมไฟท์กับเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา

สุดท้าย....เค้าก็ให้เราผ่านคะ โล่งมากกกกกกกกกกก(ก ไก่ สามพันล้านห้าแสนตัว)


พอออกจากตม.เราก็ไปรับกระเป๋า แล้วเดินตามทางออกไปตามป้าย ตรงนั้นเค้าจะมีเจ้าหน้าที่บอกเราคะว่าเราควรเดินออกไปทางไหน
แล้วเราก็เดินออกมาเจอบริเวณนี้


นั่งพักสักแปบ หาข้อมูลว่าเราจะเดินทางไปโรงแรมยังไงดี
สุดท้ายก็ตัดสินใจใช้วิธีประหยัดเงินค่าเดินทางเหมือนคนไทยหลายๆท่าน ขึ้นรถเมล์ฟรีไปฝากกระเป๋าที่เวเนเชี่ยนคาสิโนก่อน

รถเมล์ของเวเนเชี่ยนคาสิโนแอบเก่านิดนึง คนขับหน้าโหดมากคะ 5555
ตอนแรกเรามองหน้าแล้วไม่กล้าขึ้นแต่มีพนักงานเดินมาช่วยเรายกกระเป๋าไว้ใต้ท้องรถ ไอ้เราก็เลยทำใจกล้าบวกความหน้าด้านขึ้นรถเค้าไป
รถก็ขับมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าเวเนเชี่ยนคาสิโน



พอถึงเวเนเชี่ยนคาสิโนปุ๊บ เราก็เอากระเป๋าไปฝากบริการฝากกระเป๋าจะอยู่ติดกับประตูที่เราเข้ามาเลยคะ
ตอนไปฝากเราก็บอกเค้าว่าเอาไปไว้ที่ west lobby ซึ่งตอนฝากกระเป๋าเจ้าหน้าที่เค้าจะถามเราว่าเราจะผูกป้ายว่านักท่องเที่ยวหรือเปล่า
แต่ตอนนั้นเราฟังไม่ออกคะ เพราะว่าเจ้าหน้าที่เค้าแอบพูดภาษาอังกฤษติดสำเนียงจีน ด้วยความที่ภาษาอังกฤษเราอยู่ในระดับง่อย
เราก็ทำหน้าเอ๋อๆ

หลังฝากกระเป๋าเสร็จเราก็เดินต่อมาอีกหน่อยเราก็จะเจอกับเจ้านี้




หลังจากถ่ายรูปอยู่แถวนั้นสักพักหนึ่งเราก็ตัดสินใจไปว่าจะไปดูเรือกอนโดล่า เดินวนไปวนมานานพอสมควรก็หาทางไปไม่เจอ
เลยเข้าไวไฟฟรีของเวเนเชี่ยนคาสิโนเข้ากูเกิ้ล ไปเจอกระทู้ที่บอกว่าต้องเดินผ่านส่วนที่เค้าเล่นคาสิโนเข้าไป
เราเลยเดินไปบริเวณนั้นแล้วสอบถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้าประตู

แต่ชีวิตมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ....
เพราะเจ้าหน้าที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้คะ (เวรแล้วไง

เราเลยเปิดรูปให้ดูแล้วบอกว่าเราจะไปตรงนี้จะไปยังไง เค้าก็พูดภาษาจีนใส่เรา
เราเลยใช้วิธีเดิมคะ มโนนั้นเอง !เรามโนว่าเค้าขอพาสปอร์ตเราไปดู เราก็ยื่นให้เค้าดู
ปรากฏว่าสิ่งที่เดาอะถูกด้วย ! (สงสัยว่าชาติที่แล้วเราคงเป็นคนจีนหรือเปล่า)
แต่!! เค้าก็ไม่ให้เราผ่านเข้าไป เงิบบบบบบบบบบบบ-เลยทีเดียว

ยืนเอ๋ออยู่สักพักเจ้าหน้าที่เค้าก็ชี้ปีเกิดในพาสปอร์ตของเราแล้วพูดอะไรสักอย่างที่เราเดาเอาเองว่าอายุเราน่าจะยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเข้าได้
เค้าเลยไม่ให้เราผ่านเข้าไป ความคิดตอนนั้นคือ ไหนอายุยี่สิบจะเข้าข้างในได้ไม่ใช่เหรอ
เฟลสักพักเราเลยเดินออกมา ถามพนักงานที่อยู่ร้านแถวนั้นก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้อีกแล้ว

เราเลยเดินย้อนกลับไปที่บริการฝากกระเป๋า เผื่อว่าจะเจอพนักงานที่สามารถสื่อสารกับเราได้
จนเราเจอเคาเตอร์ที่เราคิดว่าเค้าน่าจะมีไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวติดต่อเวลามีปัญหา
พอเราเข้าไปสอบถามคร่าวๆ ก็ได้คำตอบ ว่าทางเข้าจะอยู่ขวามือติดประตูแล้วให้ขึ้นไปคะ

กว่าจะเจอเล่นซะเราเกือบจะร้องไห้



ภายในก็จะมีร้านค้าต่างๆหลายแบรนด์ แต่ละร้านก็จะออกแบบคล้ายๆอาคารบ้านเรือนที่อิตาลีคะ


คนพายเรือกอนโดล่าเฟรนลี่สุดๆเลยคะ โชคดีที่เรากำลังถ่ายรูปตรงนั้นพอดี
แล้วมีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งเค้าทักทายคนพายเรือกอนโดล่า เค้าเลยเงยหน้าโบกมือให้ เราก็เลยได้อนิจสงส์ถ่ายติดได้มาหนึ่งรูป


เดินเล่นสักพักเราก็เจอบันไดเลื่อน เราเลยใช้บันไดเลื่อนเพื่อที่จะไปรับกระเป๋าแล้วกลับโรงแรม
แต่ตอนที่ใช้บันไดเลื่อนเราก็คิดว่ามันจะต้องไปโผล่ที่main lobbyแน่ๆ แต่พอลงไปมันดันไปโผล่ที่west lobbyได้ไงไม่รู้ งงๆดีเหมือนกัน
พอถึงwest lobbyเราก็ไปเอากระเป๋าแล้วก็เรียกtaxiให้ไปส่งที่โรงแรมคะ

ระหว่างทางที่มาโรงแรมเห็นมาเก๊าทาวเวอร์อยู่ไกลๆ เราเลยถ่ายรูปเก็บไว้
หมายเหตุ
-เดี๋ยวมาต่อนะคะ ตัวอักษรใกล้ครบหนึ่งหมื่นตัวแล้ว
-หากผิดพลาดประการใด เราก็ต้องขออภัยด้วยคะ เนื่องจากนี้เป็นกระทู้แรกของเรา
ไม่ว่าจะการใช้ภาษา หรือการเลือกใช้คำที่เยิ่นเย้อ
สุดท้ายขอขอบคุณที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านนะคะ



ชื่อสินค้า: พันทิปท่องเที่ยว คะแนน: **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น