วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

TAIWAN REVEALED 168 ชั่วโมงบนเกาะมันเทศ, เดินทางเพียงลำพังแต่ไม่เคยอยู่คนเดียว ไม่เดินตามไกค์บุ๊คแต่เดินตามคำบอกเล่า, ไม่นอนโรงแรมแต่นอนบ้านคนท้องถิ่น ใช้เวลาร่วมกับคนแปลกหน้ามากกว่าอยู่ลำพังกับหูฟัง Taiwan Revealed ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/32793784 Taiwan Revealed ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/32798389 Taiwan Revealed ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/32808018ญี่ปู้นนน ญี่ปุ่น ต่อให้หลับตาคุณจะได้ยินเสียงคนญี่ปุ่นเสมอในไทเป เวลาขณะนั้น 5 ทุ่มครึ่ง สถานีรถไฟไต้ดินจวนเจียนใกล้ปิดเต็มแก่ผมเร่งฝีเท้าหลังหมดเงินกับ Eslite Bookstore ที่สาขา Dunhua ระหว่างเดินมีชายเดินตรงมาที่ผมแล้วถามว่า "คุณรู้จักร้านหนังสือที่เปิด 24 ชั่วโมงมั้ย” ผมตอบทันควัน “รู้ นั่นไงผมพึ่งออกมาจากที่นั้น อยู่ด้านหน้าคุณไง” เขาถามต่อว่า “ร้านหนังสือแน่นะ ผมว่าจะไปนอนที่ร้านหนังสือ” คำพูดเขาทำผมผงะไปชั่วหนึ่งก่อนจะย้อนกลับไปว่า "จะนอนจริงเหรอ แน่นะ!?” ด้วยความสงสัยผมไม่รีรอเดินตาม (อย่างน้อยก็ได้เรื่องมาเขียนลงพันทิพหน่ะ 555) Eslite มีโต๊ะขนาดใหญ่สำหรับคนนั่งอ่านแต่ถ้าจะใช้นอนจริงๆ ผมคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้นะ เราเดินวนเวียนอยู่สักพักจนรู้สึกเวทนา "เอางี้ ไปนอนที่เกสต์เฮาท์ผมมั้ยมันพอมีเตียงเหลืออยู่ตื่นเช้ามาก็จ่ายเงินให้เจ้าของเอาเองแล้วกัน” เขาเริ่มมองเห็นว่าร้านหนังสือมันนอนไม่ได้จริงๆ เลยตกลงที่จะตามผมกลับ ระหว่างทางกลับก็ชวนคุยจนได้เรื่องว่าเขาชื่อ Nobuki พึ่งเรียบจบจาก Tokyo University สาขา Science อยู่เมือง Yokohama บินมาไทเปด้วยกระเป๋าเป๋ที่มีเสื้อหนึ่งชุดและซากกระป๋องเบียร์ เช้าวันรุ่งขึ้น Nobuki หายตัวอย่างลึกลับเมื่อตอนเช้าตรู่ทิ้งเงินไว้บนเตียง 500 TWD สำหรับค่าที่พัก นับเป็นความทรงจำที่ทั้งประหลาดและฮาเท่าที่ผมเคยเจอตลอดเวลา 3 ปีที่เดินทางเลยแหละ 555ปั่นจักรยานริมเปซิฟิก หลังได้แรงบันดาลใจล้นหลามจาก The Secret Life of Walter Mitty ผมตัดสินใจว่า การเดินทางมาไต้หวันครั้งนี้ต้องแตกต่าง ต้องวิ่งหนีออกจาก comfort zone บ้าง "Once in a life time ใช่มั้ย ผมถามตัวเองหลังดูหนังจบ” นี่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการปั่นจักรยานทางไกลครั้งแรกในชีวิต วันที่ 7 ของการเดินทาง ผมซื้อตั๋วรถไฟไปเมือง Hualien (ฮัว เลียน) เมืองฝั่งตะวันออกประชันหน้ามหาสมุทรแปซิปิก รถไฟใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงบนขบวนรถปกติ และ 2 ชั่วโมงนิดๆ สำหรับขบวนรถด่วน Hualien รถไฟออกเดินทางและถึงจุดหมายอย่างเที่ยงตรง ผมรีบขึ้นแท๊กซี่ดิ่งตรงเช็คอินที่ Clear Sky Backpacker Hostel เพราะลมที่พัดลอยขึ้นจากทะเลกระหนำความหนาวเย็นโดยไม่ปราณีจนคนไทยตัวเล็กอย่างผมทนไม่ไหว ต้องซื้อเสื้อกันใหม่เลยทีเดียว เกสต์เฮาท์ติดกับห้างสรรพสินค้า FE21 ห้างที่ทันสมัยที่สุดของเมืองก็ว่าได้ ผมเดินเท้าสำรวจเมืองแปลกนี้ด้วยความเร็วเท่าหอยทาก a-Zone หรือ Hualien Culture and Creative Industries Park แปลเป็นไทยว่า ศูนย์เยาวชนไทยญี่ปุ่นดินแดง ถุ้ย!!!! a-Zone เป็นครีเอทีฟพาร์คแบบเดียวกับ Huashan 1914 Creative Park เดิมทีพื้นที่นี้เป็นโรงงานผลิตไวน์เก่าแก่และมีบ้านไม้โบราณญี่ปุ่น, ศูนย์แสดงผลงานจากฝีมือช่างชาว hualien, บาร์, คาแฟ่ แม้จะเป็นวันศุกร์เย็นแต่บรรยากาศกลับเงียบเหงาราวเดินอยู่กลางสนามหลวงตอนกลางคืน Old Railway Walking Path ถนนคนเดินถูกปรับจากเส้นทางรถไฟเก่าเปลี่ยนเป็นแหล่งพักผ่อนเมื่อปี 2003 แถมถนนเส้นนี้ยังเดินเชื่อมต่อกับถนนช็อปปิ้งหลัก Zhonghua และ Zhongshan ไม่กี่อึดใจ ผมปิดท้ายคืนแรกใน Hualien ด้วยการชิมของทอดและตบท้ายกับการลิ้มลองเบียร์ผลไม้รสกล้วยและสัปปะรดครั้งแรก ถ้าให้เรทติ้งผมคงให้ 1.5 เต็ม 5 คะแนน เพราะรสชาติผลไม้และรสชาติเบียร์มันขัดแยงในตัวมันเอง ดื่มเอาสนุกอาจพอได้แต่เอาเข้าจริงผมแนะนำเป็น Taiwan Beer สีเขียว วันที่ 8 ของการเดินทาง เช้านี้ผมลากจักรยานเสือภูเขาจากเกสต์เฮาท์ออกไปท้าทายตัวเองตามที่ตั้งใจ เส้นทางปั่นจักรยาน 花蓮市海岸自行車道 กินระยะทาง 15 กิโลเมตรจากจุดสตาร์ทที่ Nabin Park สิ้นสุดที่ Qixingtan Beach จักรยานเช่าได้จากร้านจักรยานหน้าสถานีไฟ Hualien และตามสถานที่พักที่คุณอยู่ ราคา 100-150 TWD ต่อหนึ่งวันแล้วแต่ตกลง เส้นทางปั่นจักรยานใน hualien ส่วนใหญ่จะออกไปนอกเมือง ขึ้นเขา ริมหน้าผา  เหมาะอย่างยิ่งกับกลุ่มนักปั่นมืออาขีพ คงเกินตัวจนเกินไปสำหรับมือสมัครเล่นอย่างผม เส้นทางที่ผมเลือกได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดเพราะระยะทางไม่มากไม่น้อย สมบุกสมบันระดับหนึ่ง แถมใกล้ชิดขอบแปซิฟิกแบบสุดๆ ยิ่งปั่นไกลเท่าไรยิ่งสดชื่น ตลอดเส้นทางมีจุดแวะพักห้ามพลาด ปั่นไปถึงเดี่ยวคุณก็รู้เองว่าต้องแวะ ผมถึง Qixingtan Beach จำได้ว่าใช้เวลาชั่วโมงเศษสำหรับ 15 กิโล ถือว่านานไปนิด แต่คงไม่เลวเกินไปสำหรับครั้งแรก บรรยากาศทะเลหมนเป็นสีเทา ชวนหดหู่ เงียบสงัดไร้ผู้คน ลมทะเลที่เย็นเจี้ยบคล้ายจุมมือลงถังน้ำแข็งปะทะหน้าไม่เว้นช่วง คลื่นที่ซัดเข้าฝั่งก็ไม่เคยลดความน่ากลัวลง (ชายหาดไม่น่าเหมาะลงเล่นน้ำ คลื่นสูง คงลึกมาก) ชายหาดเป็นหิน 100% มีเนินเขาสูงชันชวนน่าเกรงขามเป็นแบ๊กกราว มันคงไม่ใช่ภาพชาดหายที่ผมวาดฝันไว้แต่สิ่งที่สำคัญคือ ผมเอาชนะความกลัวกับการเดินทางที่ไร้ผู้คนได้ในที่สุด Qixingtan Beach สามารถเข้าถึงได้จากเส้นทางปั่นจักรยานและเดินเท้าจากถนน Qixing บริเวณหน้าหาดไม่มีบ้านผู้อาศัยมากนัก แต่ก็พอมีร้านอาหารทาสีชมพูที่มองเห็นมาแต่ไกล ร้านนี้ยังมีฟาร์มแกะเป็นจุดขายด้วยนะครับ ผมแวะ Chihsing Tan Katsuo Museum เป็น tourist attraction ที่คนชอบถ่ายรูปจะถูกใจ หากเสียค่าเข้าชมผมคงเดินอย่างสบอารมณ์เป็นแน่ ข้างในมีซุ้มอาหารและด้านหลังเป็นมิวเซียมหมู่บ้านชาวประมง (มั้ง) ขนมของฝากที่นี่อร่อยมากครับผลิตจากเนื้อปลาเป็นหลัก มีขนมปลาอัดเม็ดผสมงาดำกับเนื้อปลาแห้งเข้าด้วยกัน ราคา 160 TWD มี 4 รสชาติ ผมเหมาไปเยอะพอสมควรทั้งที่ลืมว่าต้องปั่นกลับบนระยะทาง 5.5 กิโล ผมใช้เวลาอยู่พักใหญ่จนพาตัวเองกลับมาถึงเกสต์เฮาท์และกลับขึ้นรถไฟกลับไทเปทันเวลาเทศกาล holi วันที่ 9 ของการเดินทาง ท้องฟ้าวันสุดท้ายส่อแววสดใสอากาศหนาวเจือจางลงจนรู้สึกอุ่นเหมือนกรุงเทพฯ ผมมาถึง Hua Shan Park เพื่อร่วมเทศกาล Holi in Taipei 2014 เทศกาลเฉลิมฉลองของชาวฮินดู ด้วยความโด่งไปทั่วโลกเราจึงเห็นแป้งสีถูกนำไปใช้ตามกิจกรรมต่างๆ ทั่วโลกแม้กระทั่งไทยเองก็มี กิจกรรมไม่ซับซ้อนเริ่มต้นจากโชว์เต้นรำแแบบฉบับชาวภารตะ จากนั้นทุกคนจะได้รับอาหารอินเดีย 1 เช็ตและถุงแป้ง Holi 1 ถุงสำหรับโรยเป็นท็อปปิ้ง (ล้อเล่นครับ 555) บัตรเข้างานราคา 350 TWD โดยทุกคนต้องยื่นบัตรเข้างานเพื่อใช้แลกอาหารและแป้งสี โมเมนต์ที่ทุกคนรอคอยเริ่มอย่างทุลักทุเล ผู้เข้าร่วมงานคร่าวๆ 100-200 คนละเลงสีบนใบคนรอบตัวอย่างเมามันส์พร้อมเอ่ย "Happy Holi" ปิดท้ายเพื่อไม่ให้เสียมารยาทและไม่รู้สึกเขิลมากนัก (ใช้ได้ดีเวลาป้ายสีกคนที่แอบชอบ) ผมเองจากหน้าสะอาดก็เปื่อนครบทุกสีไม่ถึง 1 นาที ตลอด 2 ชั่วโมงนิดๆที่ผมใช้เวลากับงานนี้มีชาวอินเดียหยิบกองออกมาตี มีรุมกระหนำแป้ง มีหญิงสาวออกท่าทางเต้นรำจนลืมตัว มีผู้แพ้สงครมที่นอนสลบสไล มีชายเต้นบนต้มไม้ และมีบางคนยิ้มอย่างบ้าคลั่งพร้อมแป้งสีเต็มตัว ผมเองพบกลุ่มนักเรียนไทยโดยบังเอิญเลยทำความรู้จักและเกาะกลุ่มเล่นกับพวกเขาไปเลย ความสุขมักผ่านไปไวเสมอเหมือนใครสักคนเคยพูดไว้ กลุ่มคนไทยที่เจอชักชวนผมไปกินข้าวต่อ มีเหรอผมจะปฏิเสธ แต่! มันไม่ใช่การแค่ไปนั่งกินข้าวในร้านง่ายๆนะสิ พวกเขาพาผมไป Ximending ย่านที่พลุกพล่าและแป้งสีที่เต็มหน้า อันที่จริงเต็มตัวหัวจรดเล็บเท้า ระหว่างทางเดินก็ถูกผู้คนรุมมอง บางคนแอบถ่ายรูปก็มี นับว่าปิดฉากการผจญภัยในไต้หวันอย่างสมบูรณ์ สนุกอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อนตลอดทริป มันสนุกด้วยตัวของมันเองโดยไม่ต้องอาศัยเบียร์หรือเครื่องดื่มใด Holi Festival ต้องการแค่รอยยิ้ม แป้งสี และก็รอยยิ้มที่ใหญ่กว่าเดิมเพียงเท่านั้นเอง สำหรับปีหน้าคิดว่าน่าจะเกิดขึ้นวันที่ 6 มีนาคม 2558 สักที่หนึ่งในไทเปถ้าใครสนใจผมจะอัพเดทในเพจครับ คุณสามารถอ่านรีวิวทั้งหมดได้จากลิ้งค์ด้านล่าง Taiwan Revealed ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/32793784 Taiwan Revealed ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/32798389 Taiwan Revealed ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/32808018 และเพจผมที่ www.facebook.com/iworkfortravel ครับ ชื่อสินค้า:   ไต้หวัน ไทเป คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว แก้ไขข้อความเมื่อ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประกาศนียบัตรชนะเลิศ การบริการยอดเยี่ยม Tripadvisor.com

Sample Text

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

VartikaAdventure Kuiburi

VartikaAdventure Kuiburi

VartKa Kuiburi

VartKa Kuiburi

Facebook Vartika Adventure Retreatic Resort

Facebook Vartika Resovilla Kuiburi

Popular Posts