ทริปกิ๊ปเก๋ยูเรก้า (5 คืน 6 วัน) แบกเป้เที่ยวคนเดียวก่อนอายุขึ้นเลข2

สวัสดีค่ะ ไม่ปฏิเสธนะคะว่าเป็นกระทู้แรกในห้องบลูแพลนเน็ต หลังจากซุ่มกบดานและโจรกรรมข้อมูลของพี่ๆในห้องบลูแพลนเน็ตมานาน ความคิดนึงก็ผุดขึ้นมาในสมอง "เอาล่ะ!...ต้องแบกเป้เที่ยวคนเดียวก่อนอายุจะถีบตัวขึ้นเลข 2 ให้ได้" ว่าแล้วก็ไม่รอช้าหาสถานที่เที่ยวทันที จะไปไหนดีนะ? "น่าน"หรอ?...น่าน เนิบ เนิบ แต่เอ๊ะไกลไปหน่อย นี่เป็นการเที่ยวคนเดียวครั้งแรกวิทยายุทธยังไม่แข็งแกร่งพอ หรือจะเป็น "ปาย" เมืองชิคๆคลูๆ แต่ก็ไกลอยู่ดี งั้นกลับบ้านพ่องงงงง ดีกว่า แต่น แต่น แต๊นนนน"สกลนคร"

             
            จขกท.ย้ายมาเรียนอยู่กับป้าซึ่งเป็นซังกุงสูงสุดของหลานๆ บอกกล่าวท่านซังกุงเสร็จสรรพก็เก็บของใส่กระเป๋าเป้ รออะไรอยู่ละคะ? เอ้า! ตามมาสิ

           
                คำแนะนำ
                   -สรุปค่าใช้จ่ายเลื่อนลงไปท้ายทริปนะคะ
                   -ขี้เกียจอ่านดูแค่รูปก็ไม่ว่ากันค่ะ
                   -เบอร์โทรติดต่อและรายละเอียดที่พักมีบอกท้ายทริปค่ะ
                   -จขกท.เด็ก ม.6 จบใหม่หากแสดงความฉลาดน้อยออกมาก็ขออภัยด้วย
                   -ติดต่อสอบถามขอคำแนะนำ จขกท.ได้ทางนีเลยค่ะ ig : nompracharot




               เช้าวันที่ 15 พ.ค. 58 เป้ 1ใบ กับกล้อง 1ตัว  ใครที่บอกว่าสกลหรอ เหอะ! จะมีอะไรนอกจากตำนานเล่าขานเกี่ยวกับน้องหมาอันเป็นที่เรื่องชื่อ อย่าค่ะ อย่าคิดไปเอง กระทู้นี้จะทำให้คุณๆเปลี่ยนความคิด #ช่วยดึงสติกลับกันหน่อยนะคะ ฮ่าๆ

               ตอนแรกคิดว่าจะไปขึ้นรถตั้งแต่เช้าให้ทันรอบแรกคิดไปคิดมาไม่เช้าก้ได้ค่ะนอนเพลินไปหน่อย ตื่นเกือบจะหกโมง ขึ้นรถมา 3 ต่อ หลับบ้างตื่นบ้าง ดูวิวข้างทางนู่นี่นั่นบ้างอารมณ์สุนทรีดี



              ถ้าขึ้นรถสายที่ จขกท. ขึ้น ท่านอย่ากังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะขนาดหอยทากยังวิ่งแซงได้ความปลอดภัยนี่มาอันดับ 1 แน่นอน บ่าย 4 โมงเย็นนั่นคือเวลาที่เท้าน้อยๆได้เหยียบลงบนผืนดินบ้านเกิดเมืองนอน โดยมีคุณแม่สุดที่รักขับรถมารอรับหน้าทางเข้าหมู่บ้าน เหมือนเดิม! ทั้งบ้านทั้งคน ทังพ่อและแม่ ที่บอกว่าเหมือนคือยังน่ารักและอบอุ่นเสมอเวลาได้เจอ

               
             เช้าของวันที่ 16 พ.ค. 58 ที่หมู่บ้านมีงาน ซึ่งเป็นงานที่ 1 ปี จะมี 1 ครั้ง เรียกว่างานทำบุญเบิกบ้าน เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แกญาติพีน้องที่ล่วงลับไปแล้วหรือเจ้ากรรมนายเวร ทั้งชาวบ้านยังเชื่อว่าเป็นการทำบุญใหญ่ขับไล่สิ่งไม่ดีออกจากหมู่บ้าน และเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจก่อนจะลงทำนา ในหน้านาที่มาถึง





           นอนบ้านพ่อมา 3 คืน เช้าวันที่ 18 พ.ค. 58 จำใจกล่าวคำลา เดินทางเข้าในตัวจังหวัดสกลนคร ตัวจังหวัดกับบ้านพ่อห่างกัน 119 กม. ความรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ตะเข็บชายแดนยังไงอย่างนั้น(ชายแดนจังหวัดอุดรกับสกล)


          สองข้างทางนี่นาเกลือล้วนๆนะคะ และแน่นอนว่าได้เวลาเผชิญกับอะไรบางอย่างที่รออยู่ข้างหน้าแล้ว      รถจอดเทียบ บขส.ใหม่ สกลนคร พี่วินมอเตอร์ไซด์รีบวิ่งเข้ามาหา ถามว่าจะไปไหน ไปส่งมั้ย ค่ารถ40 บาทแต่สมองน้อยๆของ จขกท.ลองคิดคำนวณดูแล้วบอกเลยว่าแพงนะ เดินเอาดีกว่าก็ไใม่น่าจะไกลมากกับที่พักที่จองไว้ระยะทาง 5-6 กม. ได้



         กว่าจะถึงที่พักนี่เหงื่อท่วมตัว ลมแทบจับ 2 คืนต่อจากนี้ไปของฝากกายไว้กับ"color ville resort" มาจาก บขส.ผ่านสวนสาธารณะเลี้ยวซ้ายมาทางประตู3 ของ มรภ.สกลนคร ตรงมาเรื่อยๆรีสอร์ทอยู่ในซอยเดินเข้าไปอีก 600 เมตร
    
        
        ถึงแล้ว หนักมาก เหนื่อยมาก ทนไม่ไหวแล้ววววววว "ดาวจะไม่ทน!" มีอะไรก็โยนๆออกจากตัวไปก่อนอะตอนนี้






       อันนี้เป็นพวกสบู่ แชมพู เจลอาบน้ำ

       นอนพักาัก 2 ชั่วโมง โอค! หายเหนื่อยพอแล้วก็เดินออกจากที่พักไป กะจะเริ่มเที่ยวละ (ตามมาค่ะ ตามมา. . .) ชื่อสินค้า:   สกลนคร คะแนน:      **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว