วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558
ก่อนอื่นเลยขอแนะนำตัวก่อนขอใช้ชื่อ ขวัญค่ะ ตอนนี้อายุ 23 แล้วเย้ๆ ยินดีตอนรับทุกคนนะค่ะ
นี่เป็นรีวิวครั้งแรกนะคะ ผิดพลาดอะไรยังไงก็ ขออภัยด้วยนะคะ ^^
คือต้องบอกก่อนว่าตอนแรกไม่ได้เตรียมตัวอะไรเท่าไร เพราะไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวที่ไหนเลยแต่อยู่ดดีๆก็นึกขึ้นมาในหัวว่า อยากไปไหว้พระที่ดอยสุเทพจัง ? จังหวะนั้นเองก็คิดเลยว่า เอ้า ! แล้วทำไมไม่ไปละ ? จัดเลยดิ
อันดับแรกเลยขวัญเลือกการเดินทางแบบ นั่งเครื่องบินนะ
ขวัญเลือกวันเดินทางในช่วง ศุกร์-อาทิตย์ ซึ่งถ้าเราจองตั๋วเครื่องบินในช่วงวันหยุดราคาก็อาจจะแพงขึ้นนิดหน่อย แต่ ... เราเลือกช่วงโปรคะ 5555 + วันเดินทางของเราคือวันที่ 27-29 มีนาคม 2558
ขวัญได้ขาไปในวันที่ 27 ของ นกแอร์ช่วงโปร 690 บาท จ่ายที่ 7 เว่นแต่รวมเบ็ดเสร็จแล้วทั้งหมดก็ 990 บาท
ส่วนขากลับได้ของ แอร์เอเชียคะเบ็ดเสร็จก็ 1,343 บาท ราคาประมาณนี้ถือว่ารับได้ค่ะ
ก่อนเดินทาง 2 อาทิตย์เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากเลยเพราะเชียงใหม่มีปัญหาเรื่องหมอกควันไฟป่าจนเที่ยวบินดีเลย์ไปเยอะเลย แต่โชคดีอีก 3 วันก่อนวันเดินทางมีฝนตกลงมาลดเรื่องหมอกควันไปได้เยอะเลย
โอเค ต่อมาก็หาที่พักก็ดูอยู่หลายที่อยากได้ราคาที่พอดีไม่เกิน 700 ดูไปดูมาอยู่หลายรอบก็ได้ที่ B2 Green
เป็นทำเลที่ดีเหมือนกันอยู่แถวๆเซ็นทรัลกาดสวนแก้วอยู่ในซอยลึกประมาณ 700 เมตรเดินออกมาหน้าปากซอยก็ไม่ไกลนะยังได้อยู่ แล้วยังก็อยู่แถว ถ.นิมมานด้วย หากออกไปอีก 1 ไฟแดง แนะนำเช่ามอเตอร์ไซค์เล่นในเชียงใหม่นะคุ้มกว่า หน้าปากซอยมีร้านร้านมอเตอร์ไซค์วันละ 200-300 บาท แล้วแต่รุ่นนะ ส่วนเรื่อง
ราคาที่พักก็คืนละ 590 บาทรวม 2 คืนก็ 1,180 ดีตรงไหนรู้ป่ะ ? จองแล้วเราสามารถไปจ่ายหน้าเคาน์เตอร์ได้เลย
Ok ถึงวันเดินทางแล้ว เวลาเดินทางของขวัญคือ 14:30 น. แนะนำนะค่ะใครไม่ติดธุระเลือกไฟล์เช้าได้เลย หรือเอาเวลาที่เราสะดวกนะ
นกแอร์ที่นั่งสบายยืดขาได้สะดวกเลย (หรือเราเตี้ย –“ )
บินกับนกแอร์ชอบตรงที่เราสามารถโหลดกระเป๋าไปฟรีถึง 20 กก.แล้วยังมีของว่างให้เราทานด้วยคะมันดีตรงนี้แหละ ^^ วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสค่ะ เครื่องกัปตันก็ขับนิ่มมากเลย
เผลอแป๊บเดียวถึงเชียงใหม่แล้วเย้ เย้ เย้
ขวัญเลือกออกมาโบกรถเเดงหน้าสนามบินไปที่พักเเถวๆกาดสวนเเก้ว ตอนเเรกกังวลอยู่เหมือนกันว่าเหมาไปนี่เเพงเเน่เลย เลยถามพี่คนขับก่อนว่า ไป B2 Greenเท่าไรพี่เค้าบอก 30 บาทเจ้า ^__^ โอเคโดดขึ้นรถเลยเจ้า
ถึงที่พักแล้วเช็คอินจ่ายค่าที่พักเรียบร้อยรับคีย์กาดร์ขึ้นห้องเลยเจ้า มาดูซิว่าห้องพักเป็นยังไงบ้าง เปิดเข้ามาแล้วก็ ว๊าวววววว สมราคานะ
นั่งพักสักหน่อยก็ได้เวลาออกไปหาอะไรกินแล้ว ^^ ร้านที่ขวัญเลือกกินวันแรกนี้เป็นร้านชูซิค่ะ <
มาเชียงใหม่แต่กินอาหารญี่ปุ่นคือไร ? เห็นรีวิวเยอะแล้วชอบกินอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้วเลยจัดเลยค่ะ
ร้านนี้ชื่อร้านว่า สึนามิชูซิ หาง่ายค่ะอยู่ทางไป มช. อยู่ตรงสี่แยกโรงแรมภูคำร้านอยู่ ขาวมือเลยจร้า
มาถึงร้านประมาณ 6 โมงกว่าๆแล้วค่ะ คนเยอะมากรออยู่ประมาณ 10 นาทีเราก็ได้ที่นั่งตรงบาร์แล้ว พ่อค้าทำกันต่อหน้าเลย
เมนูที่สั่งก็เป็น ปลาดิบรวม+ข้าว+ซุปมิโซ ราคา 230
ยําสาหร่าย 75
ข้าวห่อสาหร่ายไส้ปูอัด 69
น้ำอัดลม 20
ปลาแซลมอนเค้าสดมากเลยคคะ ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว
อิ่มอร่อยแล้วก็โบกรถแดงกลับที่พัก 20 บาท
มื้อแรกขอแค่นี้เก็บแรงไว้ในพรุ่งนี้เช้า ^^
28/03/15
07:00 น.
ออกตัวก่อนเลยว่าเมื่อคืน นอนไม่หลับเลยสงสัยแปลกที่ <
Ok อาบน้ำเตรียมตัวไปดอยสุเทพกันค่ะ เหมือนเดิมเราเดินออกไปหน้าปากซอนเพื่อโบกรถแดงไปที่หน้า มช.
จะมีคิวรถแดงอยู่ที่นั้น ค่าโดยสารก็ตามนี้เลยค่ะ ใครจะไปแวะที่ไหนบ้างก็แล้วแต่สะดวกได้เลย
เราขับขึ้นเขามาเรื่อยๆชมบรรยากาศไปไม่นานก็ขึ้นมาถึงดอยสุเทพแล้วค่ะ
ว๊าวววววว เวียนหัวอีกแล้วขอยาดมแป๊ปปปป –“
เป็นสาวโสดค่ะ มาคนเดียวแบบนี้อยากจะได้ภาพสวยๆที่ไม่ใช้เซลฟี่ก็ต้องพึ่งเพื่อนร่วมทางแถวนั้นเลยค่ะ ^^
ฝีมือการถ่ายภาพพี่เค้าดีนะเนี่ย ^^
การขึ้นไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ
1.ขึ้นกระเช้า ค่าบัตรขึ้นกระเช้า 20 บาท/เที่ยว
2.เดินขึ้นไปเองเลยจร้า 300 ขั้น
ขวัญเลือกขึ้นกระเช้าในตอนขึ้นไปค่ะ ตอนแรกแอบเสียวอยู่หน่อยๆ <แต่แปปเดี๋ยวก็ขึ้นมาถึงแล้วค่ะ
คำแรกที่ขวัญพูดขึ้นมาเลยคือ Wowww มันสวยมากจริงๆค่ะรู้สึกได้ถึงความศรัทธา
คือเราตั้งใจมากมานี้มากๆและสิ่งที่ได้เห็นมันคุ้มกับการเดินทางจริงๆ
ได้เห็นถึงแรงศรัทธาของผู้มาเยือนแล้วก็รู้สึกอิ่มบุญไปกับเขาด้วย มาถึงพระธาตุแล้วก็ขอเดินวนบูชาพระธาตุกันหน่อย
ข้างบนอากาศดีค่ะมีแดดแต่อากาศเย็นๆสบายๆ
นั่งเล่นอยู่นานลืมดูเวลาเลย ตอนนี้ก็ 11 โมงกว่าแล้ว เราควรลงไปหาอะไรทานดีกว่า
ขาลงขอเดินลงไปเก็บภาพหน่อยแล้วกัน ^^
ลงมาเรื่อยๆก็เจอเด็กน้อยแต่งชุดตัวชาวเขาอยู่ข้างล่าง
ใครจะถ่ายรูปกับนางเก็บตังนะจ๊ ^^
ลงมาถึงข้างล่างแล้ว มีรถแดงกำลังจะออกพอดีเหลือนั่งหน้าคนขับ 1 ที่
นั่งรถมาก็แอบคุยๆกับพี่คนขับถึงเรื่องนักท่องเที่ยวพี่เขาบอกที่ดอยสุเทพนี่นักท่องเที่ยวจะมาเยอะทุกช่วงแม้จะไม่ใช้ช่วงเทศกาล
เพราะเขาบอกว่า ถ้ามาเชียงใหม่แล้วไม่ได้ขึ้นมาไหว้พระธาตุก็เหมือนมาไม่ถึง ..... นั่งหน้าก็เก็บภาพกันไปป
ขวัญนั่งรถเลยมานั่งที่พักเลยค่ะถ้าลงหน้า มช. ก็ 40 บาท แต่ต่อเข้าเมืองเลยก็ 60 บาท
ก่อนลงของเซลฟี่กับพี่คนขับแป๊ปนางเป็นกันเองดีค่ะค่อยแนะนำเมืองเชียงใหม่ให้ฟังตลอดทางเลย
ตอนนี้ก็ออกมาหาอะไรกินกันเถอะหิวเเล้วๆๆๆเช่ามอเตอร์ไซค์ออกมาเรียบร้อย
ร้านที่ขวัญเลือกมากินนี่คือร้าน ก๋วยเตี๋ยวอัญชัน
ร้านอยู่ตรง ถ.ศิริมังคลาจารย์ ซ.9ต.สุเทพ อ.เมือง
เปิด 9:00-16:00
084-9492828
ที่ร้านมีเมนูอาหารให้เลือกเยอะ แต่ขวัญให้ทางร้านแนะนำเมนูให้เขาก็เเนะนำ 2 เมนูนี้ ก๋วยเตี๋ยวอัญชันกับซุปกระดูกหมู
ที่ขวัญเลือกมาเป็นเเบบ ตำย้ม แต่เเนะนำว่าเอาแบบธรรมดาดีกว่าหน้าจะได้รสชาติของกระดูดหมูมากกว่า ส่วนน้ำสีม่วงๆก็คือน้ำอัญชันมะนาวตอนแรกเขาให้มาเเบบเอามะนาววางไว้เชยๆสีมันก็ออกม่วงอ่อนๆพอบีบมะนาวลงไปสีก็เข้มขึ้นเลย
เรื่องรสชาติ ขอยกใหญ่ก๋วยเตี๋ยวอัญชันคะ อร่อยมากเส้นเหนียวนุ่มมากคือกินเเต่เส้นเปล่าๆยังอร่อยเลย
หมูก็นุ่มมาก + กับน้ำจิ้มของเขาเเล้วเข้ากันสุดๆลงตัวมากจุดไป 2 จาน คิคิ ส่วนซุปกระดูกหมู กระดูกหมูนิเปื่อยสุดๆเเต่อย่างที่ปกเเนะนำเอาเลยธรรมดาดีกว่าซดน้ำซุปจะได้โล่งคอเเต่ก็เเล้วเเต่ความชอบนะค่ะ
ส่วนเรื่องราคา ก็ ก๋วยเตี๋ยวอัญชันจานละ 40 บาท
ซุปกระดูกต้มยำ 30 ธรรมดา 25
น้ำอัญชันมะนาว 20 บาท
รอเวลาย่อยก็ขับมอเตอร์ไซค์ออกมาที่ มช. มีอาจารย์ของขวัญแนะนำมาว่าใน มช. มีอ่างแก้วเป็นวิวที่สวยมาก
และพอได้มาก็ ใหมญ่มากจริงๆมีหนุ่มสาวมาเดินเล่นกันเยอะเลยถ่ายรูปพอเป็นพิธี มากันเป็นคู่เยอะเกิน
ความเหงามันครอบงํา < ไปหาอะไรกินดีกว่า
ทานของคาวแล้วต่อด้วยของหวานเลยเเล้วกัน เราไปที่นิมานกันเลยคะ ขวัญเเวะไปกินไอศกรีมกดกริ่ง นิมมานซอย5 เห็นเค้าว่าเป็นไอศกรีมโฮมเมดที่ใครไปซื้อจะต้องกดกริ่งเรียกเท่านั้น นิเมนูค่ะ
มีทั้ง
กะทิมะพร้าวอ่อน
ข้าวเหนียวมะม่วง
ทุเรียน
เยอะค่ะเลือกได้เลย
ขวัญเลือกมา 2 รสคือ กะทิมะพร้าวอ่อนกับ ข้าวเหนียวมะม่วง รสชาติอร่อยเลยค่ะ
เหมือนเค้าไม่หวงเครื่องเลยอ่ะ กะทิมะพร้าวมันก็ทั้งหอมทั้งมันกะทิเเบบพอดีๆมีเนื้อพร้าวอ่อนผสมเป็นชิ้นเล็กๆอยู่เยอะเลย อร่อยมากคือชอบเลย ส่วนรสข้าวเหนียวมะม่วงก็เป็นข้าวเหนียวมะม่วงเลยมีข้าวเหนียวผสมอยู่ด้วยลงตัวค่ะร้านนี้
สั่งเเบบเเก้วเล็กค่ะ ราคา 20 บาท แก้วใหญ่เลยก็ 80 บาทค่ะ
มาต่อที่ร้าน iberry ร้านไอศกรีมของพี่โน้ตอุดมกันเลย วันนี้ขวัญสั่ง
สตอเบอรี่ปั่นแล้วก็ไอศกรีมซีสเค้กค่ะ เข้าไปส่งที่หน้าเคาน์เตอร์จ่ายตังรับหมายเลขโต๊ะแล้วไปเลือกที่นั่งได้เลยค่ะ
ร้านนี้เรียกได้ว่าเป็นการสร้างแลนด์มาร์คของเชียงใหม่อีกเลยทีเดียวบรรยากาศสบายทางร้านเปิดเพลงชิวๆ มีที่ให้เราได้ถ่ายรูปเล่นกันทางร้านจะมีโซนของที่ระลึกขายด้วยนะค่ะ ขวัญออกจาก iberry ก็ประมาณ 16:30 แล้วพอออกจากร้านพี่โน้ตขวัญก็ตั้งใจจะไปหาซื้อของฝากที่ตลาด วโรรสค่ะ แต่ปรากฏว่าตอนไปอ่ะหลงทางอยู่สักพักก็ไม่ได้นานอะไรมาก แต่พอไปถึงตลาดตลาดปิดแล้วจร้า –“ ตลาดที่นี้เห็นเค้าบอกว่าเปิดตั้งแต่ ตี5 นะคะ
ตอนมาว่าหลงแล้วตอนกลับหลงไปใหญ่เลยค่ะ คือก็คิดว่าออกทางเดิมทุกอย่างนะขับตามทางคูเมืองไปเรื่อยๆสรุปมันวนค่ะ < วนอยู่แบบนั้นอยู่ประมาน 2 รอบได้นิตามทางแล้วนะแต่มันก็ยังหลงอยู่ดี
ตอนนี้กลับห้องเลยค่ะกว่าจะถึงก็เกือบ 2 ทุ่มแล้ว แล้วคือเมื่อยมากคืนนี้เลยไม่ได้ออกไปไหนเลยค่ะ นอนอย่างเดียว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมออนไลน์ “One and Only” ภายใต้โครงการ “Discover Thainess” ส่งเสริม ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 เปิดให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศร่วมส่งคลิปวิดีโอนำเสนอเกี่ยวกับความเป็นไทย (Thainess) ผ่านช่องทางออนไลน์ www.tourismthailand.org/discoverthainess โดยผู้ชนะเลิศการแข่งขันจะได้รับรางวัลพิเศษ
ททท. จัดประกวดคลิปออนไลน์ ในหัวข้อ Discover Thainess
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรม “One and Only” ภายใต้โครงการ Discover Thainess ส่งเสริมปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 สร้างกระแสการรับรู้ความเป็นไทยที่นำเสนอในหลากหลายรูปแบบ เช่น อาหารไทย มวยไทย เพลงไทย อัธยาศัยไมตรีของไทย เป็นต้น ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างกระแสให้เกิดการเดินทางและเชื่อมโยงกับกิจกรรมออฟไลน์ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย โดยจัดกิจกรรมออนไลน์ “One and Only” เปิดให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศร่วมส่งคลิปวิดีโอนำเสนอเกี่ยวกับความเป็นไทย (Thainess) เช่น การไหว้ รำไทย ทำอาหารไทย ร้อยพวงมาลัย เป็นต้น
โดยจะคัดเลือกผู้เข้ารอบ 3 คน เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยและสัมผัสประสบการณ์ความเป็นไทย ซึ่งครอบคลุมทั้งวัฒนธรรมและวิถีชีวิต โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์ “หนึ่งเดียว” และ “ครั้งเดียว” ในการเดินทางมาร่วมทำภารกิจในเมืองไทย เช่น การเรียนมวยไทยกับบัวขาว การทำอาหารไทย การร้อยพวงมาลัย การรำไทย การฝึกพูดภาษาไทย ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศการแข่งขันจะได้รับรางวัลพิเศษเพียงหนึ่งเดียวสำหรับกิจกรรมออนไลน์ “One and Only” ผ่านช่องทางออนไลน์ www.tourismthailand.org/discoverthainess
รายละเอียดของกิจกรรมออนไลน์ “One and Only” มีดังนี้
สำหรับชาวต่างประเทศ เปิดรับสมัครและอัปโหลดคลิปวิดีโอ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2558 ประกาศผลวันที่ 7 กันยายน 2558
ผู้ชนะเลิศ 3 อันดับ จะได้รับรางวัลชุดจำลองเรือสุพรรณหงส์ ชุดจำลองหัวโขนหนุมาน และชุดจำลองหัวโขนพระนารายณ์ ตามลำดับ ทุกชิ้นเป็นงานฝีมือชิ้นเอกจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร นอกจากนี้ ทุกอันดับจะได้รับบัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับจากประเทศต้นทาง-กรุงเทพฯ และที่พักในเมืองไทย
สำหรับชาวไทย เปิดรับสมัครและอัปโหลดคลิปวิดีโอ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2558 แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทประชาชน (ทีมละ 2 คน) และประเภทนักศึกษา (ทีมละ 4 คน) ประกาศผลวันที่ 7 กันยายน 2558
รางวัลประเภทประชาชน (ทีมละ 2 คน) มี 2 รางวัล ได้แก่ อันดับ 1 บัตรโดยสารเครื่องบินเครื่องบินในประเทศไป-กลับ เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต พร้อมบัตรที่พักจังหวัดภูเก็ต และเงินสด 100,000 บาท และอันดับ 2 บัตรโดยสารเครื่องบินเครื่องบินในประเทศไป-กลับ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงราย พร้อมบัตรที่พักจังหวัดเชียงราย และเงินสด 50,000 บาท
รางวัลประเภทนักศึกษา (ทีมละ 4 คน) มี 2 รางวัล ได้แก่ อันดับ 1 บัตรโดยสารเครื่องบินเครื่องบินในประเทศไป-กลับ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ พร้อมบัตรที่พักจังหวัดเชียงใหม่ และเงินสด 100,000 บาท และอันดับ 2 บัตรโดยสารเครื่องบินเครื่องบินในประเทศไป-กลับ เส้นทางกรุงเทพฯ-กระบี่ พร้อมบัตรที่พักจังหวัดกระบี่ และเงินสด 50,000 บาท
ที่มา : thai.tourismthailand.org/
08:24
Unknown
ข่าวท่องเที่ยว
No comments
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมออนไลน์ “One and Only” ภายใต้โครงการ “Discover Thainess” ส่งเสริม ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 เปิดให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศร่วมส่งคลิปวิดีโอนำเสนอเกี่ยวกับความเป็นไทย (Thainess) ผ่านช่องทางออนไลน์ www.tourismthailand.org/discoverthainess โดยผู้ชนะเลิศการแข่งขันจะได้รับรางวัลพิเศษ
ททท. จัดประกวดคลิปออนไลน์ ในหัวข้อ Discover Thainess
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรม “One and Only” ภายใต้โครงการ Discover Thainess ส่งเสริมปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 สร้างกระแสการรับรู้ความเป็นไทยที่นำเสนอในหลากหลายรูปแบบ เช่น อาหารไทย มวยไทย เพลงไทย อัธยาศัยไมตรีของไทย เป็นต้น ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างกระแสให้เกิดการเดินทางและเชื่อมโยงกับกิจกรรมออฟไลน์ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย โดยจัดกิจกรรมออนไลน์ “One and Only” เปิดให้ชาวไทยและชาวต่างประเทศร่วมส่งคลิปวิดีโอนำเสนอเกี่ยวกับความเป็นไทย (Thainess) เช่น การไหว้ รำไทย ทำอาหารไทย ร้อยพวงมาลัย เป็นต้น
โดยจะคัดเลือกผู้เข้ารอบ 3 คน เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยและสัมผัสประสบการณ์ความเป็นไทย ซึ่งครอบคลุมทั้งวัฒนธรรมและวิถีชีวิต โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์ “หนึ่งเดียว” และ “ครั้งเดียว” ในการเดินทางมาร่วมทำภารกิจในเมืองไทย เช่น การเรียนมวยไทยกับบัวขาว การทำอาหารไทย การร้อยพวงมาลัย การรำไทย การฝึกพูดภาษาไทย ทั้งนี้ ผู้ชนะเลิศการแข่งขันจะได้รับรางวัลพิเศษเพียงหนึ่งเดียวสำหรับกิจกรรมออนไลน์ “One and Only” ผ่านช่องทางออนไลน์ www.tourismthailand.org/discoverthainess
รายละเอียดของกิจกรรมออนไลน์ “One and Only” มีดังนี้
สำหรับชาวต่างประเทศ เปิดรับสมัครและอัปโหลดคลิปวิดีโอ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2558 ประกาศผลวันที่ 7 กันยายน 2558
ผู้ชนะเลิศ 3 อันดับ จะได้รับรางวัลชุดจำลองเรือสุพรรณหงส์ ชุดจำลองหัวโขนหนุมาน และชุดจำลองหัวโขนพระนารายณ์ ตามลำดับ ทุกชิ้นเป็นงานฝีมือชิ้นเอกจากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร นอกจากนี้ ทุกอันดับจะได้รับบัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับจากประเทศต้นทาง-กรุงเทพฯ และที่พักในเมืองไทย
สำหรับชาวไทย เปิดรับสมัครและอัปโหลดคลิปวิดีโอ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2558 แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทประชาชน (ทีมละ 2 คน) และประเภทนักศึกษา (ทีมละ 4 คน) ประกาศผลวันที่ 7 กันยายน 2558
รางวัลประเภทประชาชน (ทีมละ 2 คน) มี 2 รางวัล ได้แก่ อันดับ 1 บัตรโดยสารเครื่องบินเครื่องบินในประเทศไป-กลับ เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต พร้อมบัตรที่พักจังหวัดภูเก็ต และเงินสด 100,000 บาท และอันดับ 2 บัตรโดยสารเครื่องบินเครื่องบินในประเทศไป-กลับ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงราย พร้อมบัตรที่พักจังหวัดเชียงราย และเงินสด 50,000 บาท
รางวัลประเภทนักศึกษา (ทีมละ 4 คน) มี 2 รางวัล ได้แก่ อันดับ 1 บัตรโดยสารเครื่องบินเครื่องบินในประเทศไป-กลับ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ พร้อมบัตรที่พักจังหวัดเชียงใหม่ และเงินสด 100,000 บาท และอันดับ 2 บัตรโดยสารเครื่องบินเครื่องบินในประเทศไป-กลับ เส้นทางกรุงเทพฯ-กระบี่ พร้อมบัตรที่พักจังหวัดกระบี่ และเงินสด 50,000 บาท
ที่มา : thai.tourismthailand.org/
สวัสดีครับ วันนี้ "ตากล้อง ท่องเที่ยว" จะพาไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทริปนี้เราวางแผนกันตั้งแต่ปีที่แล้ว จองโปรของแอร์เอเชีย เดินทางไปวันที่ 12 และกลับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2558 ส่วนทริปวางไว้คร่าวๆ ประมาณนี้
วันแรก สนามบินดอนเมือง - สนามบินเชียงใหม่ - ถนนคนเดินเชียงใหม่
วันที่สอง โป่งเดือดป่าแป๋ - ห้วยน้ำดัง - สะพานประวัติศาสตร์ปาย - บ้านสันติชล - วัดน้ำฮู้ - ถนนคนเดินปาย
วันที่สาม ดอยกิ่วลม - ถ้ำลอด - ถ้ำปลา - บ้านน้ำเพียงดิน - พระธาตุดอยกองมู -ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน - วัดจองคำ
วันที่สี่ สะพานซูตองเป้ - ภูโคลน - พระตำหนักปางตอง - ปางอุ๋ง - คอฟฟี่อินเลิฟ - สนามบินเชียงใหม่ -สนามบินดอนเมือง
รถที่ใช้ในการเดินทางเราเช่ารถตู้ที่เชียงใหม่พร้อมคนขับในราคา
- ค่ารถและคนขับ 2000 บาทต่อวัน
- ค่าน้ำมันเราเติมเอง
- ค่าอาหารคนขับมื้อละ 100 บาท
ถึงวันเดินทางนัดเจอกันที่สนามบินดอนเมืองตอนเที่ยง คนครบก็เช็คอิน นั่งรอเครืองออกบ่ายโมงสีสิบห้านาที
เป็นไรไม่รู้ ทุก ๆ ครั้งที่เครื่องจะ Take Off ผมรู้สึกหวิวๆ เกร็งๆ ทุกที ต้องถ่ายรูปเรื่อยเปือยเพื่อจะได้ผ่อนคลายครับ
ระหว่างเครื่องใต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ มองดูข้างล่าง เสียวหลังว๊าบบ น่าจะเป็นแถวๆ หลักสี่หรือป่าวไม่แน่ใจ มุมสูงสวยดีครับ
สักพักก็ถึงเพดานบินของเครื่อง เครื่องก็เริ่มนิ่ง เสียงเตือนรัดเข็มขัดดังปิ้งป่อง... พร้อมกับเสียงเพราะๆของกัปตัน "เที่ยวบินที่ FD... เดินทางจากสนามบินดอนเมือง มุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ขณะนี้ที่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ สภาพอากาศแจ่มใส เย็นสบาย มีเมฆเป็นบางส่วน " จำได้คร่าวๆ ประมาณนี้
รอบๆ ตัว บางคนนอน บางคนอ่านหนังสือ บางคนคุยกัน ส่วนผมจดจ่ออยู่กับหน้าต่าง พื้นดินที่เคยเห็นลางๆ ค่อยๆหายไป เหลือเพียงปุยเมฆเป็นชั้น ๆ นาทีนั้นยิ่งทำให้ใจหวิวมากขึ้น ณ จุดๆ นี้ขอหลับตาทำสมาธิแป๊บครับ
ราวๆ 1 ชั่วโมงผ่านไป (ช่างยาวนานเหลือเกิน) เสียงเตือนรัดเข็มขัดก็ดังขึ้นอีก คราวนี้ไม่ได้ตามด้วยเสียงกัปตันเหมือนเดิม แต่เป็นเสียงของแอร์ที่บอกว่าเครื่องกำลังจะ Landing ให้คาดเข็มขัด ผมถึงได้ลืมตาพร้อมกับถ่ายรูปอีกครั้ง
หลังจากเครื่องลงจอดเรียบร้อยก็มารอรับกระเป๋า ได้กระเป๋าก็ออกมานั่งรถแวนคนละ 140 บาท ให้เขาไปส่งที่พัก ซึ่งคืนนี้เราพักกันที่ B2 ทิพเนตร เพราะใกล้ถนนคนเดินเชียงใหม่ จะได้ออกมาเดินได้สะดวก นั่งรถประมาณ 30 นาทีก็ถึงที่พัก
ห้องสวยน่านอน ห้องน้ำสะอาดน่าใช้ จองผ่าน Booking.com เพียง 590 บาทครับ ไม่มีอาหารเช้า ในห้องมีเตียงนอน 2 เตียง ตู้เย็น ทีวี โทรศัพย์น้ำดืม ห้องน้ำ 1 ห้อง ของใช้ส่วนตัวในห้องน้ำก็ครบ คุ้มจริง ๆครับ
พักผ่อนแป๊บ ก็ลุกมาอาบน้ำ ไปหาอะไรกินกันครับ ยังไม่ได้กินเที่ยงกันเลย นี่จะสี่โมงเย็นหละ
เดินหาข้าวกินสักพักก็ผ่านศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ เก็บมาได้รูปเดียว เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไรเลยไม่ได้เข้าไปชม น่าเสียดายมากครับ มื้อแรกง่ายๆ ครับ ตามสั่ง จานใครจานมัน ทานกันหน้าศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่
กินอิ๋มก็เดินกลับห้องพัก ไปนอนให้อาหารย่อย รอออกมาเดินถนนคนเดิน มีเซอร์ไพรส์ครับพนักงานรีเซฟชั่นของ B2 บอกว่าถนนคนเดินมี คืนวันเสาร์ แต่คืนนี้เป็นคืนวันพฤหัสครับ แห้วเบย เปลี่ยนแผนกระทันทันมุ่งหน้าไปที่ตลาดไนซ์บาซ่าครับ ชื่อสินค้า: เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน คะแนน: **CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น